เลโอนาร์โด โบนุชชี่ อดีตกองหลังทีมชาติอิตาลี เปิดเผยว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สนใจที่จะเซ็นสัญญากับเขาในปี 2016 และ 2017 และเขาเองก็ได้ยื่นข้อเสนอเงินเดือนให้กับทีมยักษ์ใหญ่ของ พรีเมียร์ลีก แล้ว แต่กลับเลือกซบ เอซี มิลาน
ผมมีความสุขดีที่นี่
เลโอนาร์โด โบนุชชี่ อดีตกองหลังทีมชาติอิตาลี ผู้ที่เคยเป็นหนึ่งในเซ็นเตอร์แบ็กที่เก่งที่สุดคนนึงของยุโรป ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวที่ทำให้เขาปฏิเสธการย้ายไปร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงสองครั้งในช่วงปี 2016 และ 2017 ทั้งที่เคยได้รับความสนใจจาก เป๊ป กวาร์ดิโอลา นายใหญ่ของเรือใบสีฟ้า รวมถึงทีมยักษ์ใหญ่อื่น ๆ อย่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง
โบนุชชี่กล่าวกับ Sky Sport Italia ว่า “ผมได้รับข้อเสนอจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทั้งในปี 2016 และ 2017 แต่สุดท้ายผมเลือกที่จะไม่ย้ายไป”
ในปี 2016 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา สนใจที่จะเซ็นสัญญา โบนุชชี่ แต่เจ้าตัวเผยว่าตอนนั้นเขายังมีความสุขกับการเล่นให้ ยูเวนตุส ซึ่งเป็นทีมที่เขารักและไม่ต้องการย้ายไปไหนในเวลานั้น
“ในปี 2016 ผมไม่ได้ย้ายไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพราะยูเวนตุส ไม่ต้องการขายผม และผมก็ยังมีความสุขดีกับการเล่นให้ทีมในเวลานั้น” โบนุชชี่ กล่าว
ถัดมาในปี 2017 ความสัมพันธ์ระหว่าง โบนุชชี่ กับเฮดโค้ชของยูเวนตุส ณ เวลานั้นอย่าง มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี เริ่มมีปัญหากันทำให้ โบนุชชี่ ตัดสินใจเลือกที่จะมองหาทีมใหม่ที่จะให้โอกาสเขาเป็นแกนนำ ซึ่งช่วงเวลานั้น เอซี มิลาน ได้ติดต่อเข้ามา พร้อมเสนอตำแหน่งกัปตันทีมให้กับเขา
“ปี 2017 มิลาน ติดต่อมาหาผม พวกเขาบอกว่าผมจะได้เป็นกัปตันทีม และนั่นเป็นข้อเสนอที่ผมไม่อาจปฏิเสธได้” โบนุชชี่กล่าว
“ในเวลานั้น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็เข้ามาด้วยเช่นกัน แต่ผมเลือกแล้วว่าผมจะไป มิลาน เพราะผมไม่ต้องการย้ายไปเล่นต่างประเทศ”
นอกจากนี้ โบนุชชี่ ได้ยื่นข้อเสนอเรื่องเงินเดือนให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่สุดท้ายเขายังเลือก มิลาน ด้วยเหตุผลสำคัญที่เขาไม่ต้องการย้ายไปต่างประเทศ เนื่องจากต้องการอยู่ใกล้ชิดครอบครัว โดยเฉพาะกับลูกชายของเขา
ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด
ปัญหาภายในทีมและการกลับสู่ยูเวนตุส
แม้จะย้ายไปเป็นแกนนำของ มิลาน ในฤดูกาล 2017 แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ มิลาน กลับล้มเหลว โดยพวกเขาเซ็นสัญญานักเตะใหม่ถึง 12 คนในช่วงซัมเมอร์นั้น ซึ่งทำให้ทีมมีปัญหาเรื่องการจัดการ
โบนุชชี่เล่าว่า เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล สโมสรได้บอกกับเขาว่า “ที่นี่ไม่มีที่ว่างสำหรับคุณอีกต่อไป” ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาตัดสินใจกลับไปยูเวนตุส และเมื่อเขากลับมาทุกอย่างก็ดูเหมือนจะดีกว่าเดิม
“ผมกลับไปยูเวนตุสเพราะที่นั่นผมรู้สึกดี และเรารู้สึกดีกว่าเดิม” โบนุชชี่กล่าว
สถิติและความสำเร็จ
โบนุชชี่ ถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่สำคัญของ ยูเวนตุส โดยเขาลงเล่นให้ทีมไปทั้งหมด 507 นัด ยิงได้ 37 ประตู และคว้าแชมป์เซเรีย อา 8 สมัย ในขณะที่การเล่นให้กับมิลานเพียงฤดูกาลเดียว เขาลงเล่น 51 นัด ยิงได้ 2 ประตู
ไม่เพียงแค่ประสบความสำเร็จในระดับสโมสร แต่เขายังเป็นผู้นำในทีมชาติอิตาลี โดยเขามีบทบาทสำคัญในการคว้าแชมป์ยูโร 2021 ซึ่ง ทีมชาติอิตาลี เอาชนะ ทีมชาติอังกฤษ ในรอบชิงชนะเลิศที่สนามเวมบลีย์ ด้วยการดวลจุดโทษ และโบนุชชี่ ยังทำประตูตีเสมอให้กับ อิตาลี ได้ในเกมนั้น
อย่างไรก็ดี ตลอดอาชีพการเล่นให้ ทีมชาติอิตาลี โบนุชชี่ ลงเล่นไป 121 นัด ยิงได้ 8 ประตู ถือเป็นหนึ่งในกองหลังระดับโลกที่สร้างชื่อเสียงและความสำเร็จมากมายในวงการฟุตบอลอิตาลี
บทความที่เกี่ยวข้อง
- เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ เซ็นเตอร์ยูเวนตุส ประกาศแขวนสตั๊ด
- กับดักความสำเร็จ : อะไรคือเบื้องหลังทำยูเวนตุสผลงานแย่ในฤดูกาลนี้
- ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี : แบ็คซ้ายผู้ล้มเหลวกับโรมา สู่หัวใจแนวรับคนใหม่ของอิตาลี