คาร์ลอส อัลคาราซ ยอดนักเทนนิสดาวรุ่งชาวสเปน คว้าชัยชนะเหนือ ยานนิก ซินเนอร์ จากอิตาลี ผ่านเข้ารอบรอบชนะเลิศ ยูเอส โอเพ่น ได้สำเร็จ โดยไฮไลท์สำคัญของการแข่งขันคือคู่นี้ใช้เวลากันยาวนานกว่า
5 ชั่วโมงกับอีก 15 นาที ทำให้สร้างสถิติใหม่ของศึกนี้ จากเป็นการแข่งขันที่จบช้าที่สุด โดยจบเวลา ตี 2.50 น. ตามเวลาท้องถิ่น
สถิติเดิมซึ่งเคยจบที่เวลา 2.26 น. เกิดขึ้นแล้ว 3 ครั้ง ส่วนระยะเวลาการแข่งขันยาวนานที่สุดของ ยูเอส โอเพ่น ยังไม่ถูกทำลายเพราะการแข่งขันระหว่าง สเตฟาน เอ็ดเบิร์ก และ ไมเคิล ชาง ในปี 1992 เคยลากยาวนาน 5 ชั่วโมง 26 นาที
แมตช์นี้ดวลกัน 5 เซต ก่อนจะเป็นหนุ่มวัย 19 จากสเปน เอาชนะ 3-2 เซต 6-3 6-7(7) 6-7(0) 7-5 และ 6-3 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปพบกับ ฟรานเซส ติอาโฟ คู่แข่งชาวสหรัฐฯ ซึ่งเป็นนักเทนนิสเจ้าถิ่นคนแรกนับตั้งแต่ปี 2006 ที่เข้าถึงรอบตัดเชือก ยูเอส โอเพ่น ต่อจาก แอนดี ร็อดดิค
ติอาโฟ คือผู้ชนะ จากการที่อัลคาราซ ต้องดวลมาราธอนแล้ว 2 หน
อัลคาราซ กลายเป็นนักเทนนิสอายุน้อยที่สุด ที่ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศศึกแกรนด์สแลม นับตั้งแต่ ราฟาเอล นาดาล ทำได้ในการแข่งขันเฟร้นช์ โอเพ่น ปี 2005 แต่ถือว่าเจ้าตัวสะบักสะบอมพอสมควร ลงแข่งแบบเกินตี 2 มาตั้งแต่รอบที่แล้ว ครั้งนั้นเอาชนะ มาริน ซิลิช 3-2 เซต ด้วยเวลา 3 ชั่วโมง 54 นาที
ความได้เปรียบเรื่องสภาพร่างกายคงเป็นของ ติโอโฟ ซึ่งเจ้าตัวหวังว่า การแข่งขันระหว่าง อัลคาราซ กับ ซินเนอร์ จะเป็นการดวลที่ดุเดือดและยาวนาน เพราะเป็นการตัดกำลังคู่แข่งของเขาไปในตัว
สถิติยาวนานที่สุดของการแข่งขันเทนนิสที่น่าสนใจ
หากนับเฉพาะรายการยูเอส โอเพ่น การแข่งขันระหว่าง สเตฟาน เอ็ดเบิร์ก และ ไมเคิล ชาง ในปี 1992 ใช้เวลายาวนานมากที่สุด 5 ชั่วโมง 26 นาที ก่อนที่เอ็ดเบิรก จะเอาชนะ 3-2 เซ็ต 6-7(3), 7-5, 7-6(3), 5-7 และ 6-4
ส่วนฝ่ายหญิงที่สู้กันนานที่สุดเป็นการดวลกันระหว่าง เชลบี้ โรเจอร์ส กับ ดาเรีย ซาวิลล์ คราวนั้น โรเจอร์ส เอาชนะไปได้โดยใช้เวลา 3 ชั่วโมง 33 นาที
อย่างไรก็ตามถ้านับระยะเวลาการแข่งขันที่ยาวนานที่สุดในระดับเมเจอร์ การแข่งขันระหว่าง จอห์น อิสเนอร์ กับ นิโคลัส มาฮุต ในศึกวิมเบิลดันปี 2010 ที่แข่งขันกันยาวนาน 11 ชั่วโมง 5 นาที