“หมูปากน้ำ” หรือ นพพล แสงคำ ยอดนักสนุกเกอร์ชาวไทย เพิ่งจะสร้างประวัติศาสตร์ให้กับตัวเองและวงการสนุกเกอร์ไทย หลังเอาชนะ “พ่อมดวิสกี้” จอห์น ฮิกกินส์ นักสนุกเกอร์อันดับ 12 ของโลกจากสกอตแลนด์ไป 6-3 เฟรมในศึก สกอตติช โอเพน หลังจากที่ตามหลังไปก่อน 1-3 เฟรม
ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศในรายการนี้ และเป็นนัดชิงชนะเลิศในรายการระดับเมเจอร์ครั้งแรกของเจ้าตัวด้วย แต่เส้นทางอาชีพของเขา ต้องบอกเลยว่ากว่าจะเดินมาถึงจุดนี้นั้นไม่ได้ง่าย
ติดตามเส้นทางชีวิตของ หมูปากน้ำ นักสนุกจากสมุทรปราการ ก่อนที่จะกลายมาเป็นจอมคิวระดับแถวหน้าของเมืองไทยและของโลกได้ที่นี่
เส้นทางสายเยาวชนและทีมชาติไทยของหมูปากน้ำ
ชื่อของนพพล แสงคำ นั้นเป็นที่รู้จักและฉายแววเป็นความหวังใหม่ของวงการสนุกเกอร์ไทยในช่วงปี 2009 ซึ่งในขณะนั้นเจ้าตัวด้วยวัยเพียง 17 ปี สามารถข้ามรุ่นคว้ารองแชมป์สนุกเกอร์เยาวชนชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี หรือรายการเอซีบีเอส เอเชียน ยู-21 สนุกเกอร์ แชมปเปียนชิพ (ACBS Asian Under-21 Snooker Championship) มาครองได้
ก่อนที่ในปีเดียวกัน หมูปากน้ำก็สามารถคว้าแชมป์สนุกเกอร์เยาวชนอายุไม่เกิน 21 ปีชิงแชมป์โลก หรือรายการไอบีเอสเอฟ เวิลด์ ยู-21 สนุกเกอร์ แชมเปียนชิพ (IBSF World U-21 Snooker Championship) โดยในรอบชิงชนะเลิศนั้นเจ้าตัวเอาชนะนักกีฬาขวัญใจเจ้าถิ่นอย่าง โซฮีล วาเฮดี ไปแบบฉิวเฉียด 9-8 เฟรม สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักสนุกเกอร์ไทยคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์สนุกเกอร์เยาวชนชิงแชมป์โลกรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปีได้สำเร็จ
จากนั้นในปี 2011 หรืออีก 2 ปีถัดมา หมูปากน้ำ ในวัย 19 ปีก็สามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของศึกการแข่งขันสนุกเกอร์เยาวชนอายุไม่เกิน 21 ปีชิงแชมป์โลกอีกครั้ง แต่ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์สมัยที่สองไปครองได้เพราะในรอบชิงชนะเลิศที่เจ้าตัวต้องโคจรมาทำศึกสายเลือดกับ “แมน นครปฐม” หรือ ธนวัฒน์ ถิรพงศ์ไพบูล
ในการต่อสู้ครั้งนั้น หมูปากน้ำ ไม่อาจต้านทานความร้อนแรงของ แมน นครปฐม ได้พ่ายไป 3-9 เฟรม ชวดการสร้างประวัติศาสตร์แชมป์สองสมัยไปอย่างน่าเสียดาย
แต่ในปีเดียวกันนี้ หมูปากน้ำ ก็ได้เริ่มต้นเส้นทางการรับใช้ทีมชาติไทยในการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ปี 2011 ที่ประเทศอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพ ซึ่งในตอนนั้นหมูปากน้ำจับคู่กับ แมน นครปฐม ลงแข่งขันชิงเหรียญทองในประเภทชายคู่ ซึ่งเจ้าตัวนั้นตั้งความหวังที่จะคว้าเหรียญทองมาครองให้ได้
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่หวังไว้ทั้งหมูปากน้ำ และ แมน นครปฐม ต่างร่วมมือร่วมใจทุ่มเทกำลังฝึกซ้อมอย่างหนัก แต่เมื่อการแข่งขันจริงมาถึงทั้งคู่กลับทำได้เพียงเหรียญทองแดงเท่านั้น เพราะในรอบรองชนะเลิศสองนักสอยคิวไทยไปพลาดท่าเสียทีให้กับสองจอมเก๋าจากประเทศมาเลเซียอย่าง ทอร์ ชุน ลอง กับ ตอง ติน ชาน ชนิดหมดทางสู้ 0-3 เฟรม
ปี 2013 หมูปากน้ำในวัย 21 ปี ก็สามารถสร้างผลงานส่งท้ายวัยเยาวชนได้อีกครั้งเมื่อเจ้าตัวสามารถคว้าแชมป์การแข่งขันรายการเอซีบีเอส เอเชียน ยู-21 สนุกเกอร์ แชมปเปียนชิพ มาครองได้สำเร็จหลังจากที่ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2009 เจ้าตัวทำได้เพียงรองแชมป์เท่านั้น
โดยการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ หมูปากน้ำสามารถเอาชนะโมฮัมหมัด มาจิด อาลี นักสอยคิวจากปากีสถานไปได้แบบต้องตัดสินกันถึงเฟรมชิงดำ
นอกจากนั้นในปีดังกล่าว หมูปากน้ำยังเป็นตัวแทนทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันเอเชียน อินดอร์ แอนด์ มาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 4 ปี 2013 ณ เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้และเวิลด์เกมส์ ครั้งที่ 9 ปี 2013 ณ เมืองคาลี ประเทศโคลอมเบีย
แต่ทั้งสองรายการนี้เจ้าตัวไม่สามารถคว้าเหรียญรางวัลมาครองได้ เรียกได้ว่าเส้นทางความสำเร็จในการรับใช้ทีมชาติไทยของเจ้าตัวยังเป็นเพียงความว่างเปล่าไร้ถ้วยรางวัลมาประดับบารมี
ลุ้นรางวัลใหญ่ เชียร์ทีมชาติไทยถึงเกาหลีใต้
ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลสนุกเกอร์ประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด
"ร่วมทายผลกีฬาลุ้นโชคพร้อมโบนัสสูงสุด 100 เปอร์เซนต์"
ก้าวสู่สนุกเกอร์อาชีพที่เต็มไปด้วยขวากหนาม
ความใฝ่ฝันของนักสนุกเกอร์ทุกคนนั้นก็คงจะไม่ต่างกันมากนัก นั่นก็คือการที่จะได้มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพในรายการระดับเวิลด์ สนุกเกอร์ ทัวร์ (World Snooker Tour) ซึ่งหมู ปากน้ำก็คือหนึ่งในนั้น
โดยเจ้าตัวได้มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันรายการระดับอาชีพตั้งแต่ฤดูกาล 2010-2011 ซึ่งในช่วงสองฤดูกาลแรกหมู ปากน้ำ ยังคงทำได้เพียงเข้าร่วมการแข่งขันในรอบคัดเลือกเท่านั้นยังไม่สามารถผ่านเข้าไปสู่การแข่งขันในรอบเมนดอร์หรือรอบสุดท้ายในแต่ละรายการได้ ซึ่งสิ่งที่เป็นปัญหาสำคัญของเจ้าตัวเลยนั่นก็คือการปรับตัวและประสบการณ์การแข่งขันในเวทีระดับนี้ที่ยังมีไม่มากนัก
นอกจากนี้ปัญหาเรื่องเงินทุนก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะสร้างความสำเร็จในระดับอาชีพได้ เพราะต้องบอกกันตามตรงว่ารายการแข่งขันระดับเวิลด์ สนุกเกอร์ ทัวร์ ส่วนมากจะจัดขึ้นในกลุ่มประเทศบริติชและทวีปยุโรป ซึ่งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงตั้งแต่การไปเก็บตัวฝึกซ้อมและเข้าร่วมการแข่งขัน นักสนุกเกอร์ไทยหลายคนก็ต้องพบกับปัญหานี้ และหมู ปากน้ำ ก็คือหนึ่งในนั้น
ปัญหาดังกล่าวหลายครั้งก็บั่นทอนกำลังใจของเจ้าตัว แต่ไม่ว่าจะล้มลงสักกี่ครั้ง หมู ปากน้ำ ก็ยังลุกขึ้นสู้ทุกครั้ง จนเจ้าตัวเริ่มทำผลงานได้ดีขึ้นเป็นลำดับและในฤดูกาล 2013-2014 เจ้าตัวก็สามารถผ่านเข้าไปแข่งขันในรอบรอบเมนดอร์ได้ถึง 6 รายการโดยหนึ่งในนัดคือรายการใหญ่ระดับเมเจอร์หรือทริปเปิลคราวน์ของวงการสนุกเกอร์โลกอย่างยูเค แชมเปียนชิพ (UK Championship)
การแข่งขันสนุกเกอร์รายการยูเค แชมเปียนชิพ ประจำปี 2013 นั้น หมู ปากน้ำ สามารถผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของการแข่งขันได้เป็นครั้งแรกและก็สามารถทำผลงานเข้าไปถึงรอบที่ 3 ของการแข่งขันหรือรอบ 32 คนสุดท้ายได้
โดยรอบแรกเจ้าตัวสามารถเอาชนะทอม ฟอร์ด นักสอยคิวจากอังกฤษไปได้แบบไม่ยากเย็นนัก จากนั้นรอบถัดมาหมู ปากน้ำ ก็ปราบฌอน โอซัลลิแวน ไป 6-4 เฟรม ผ่านเข้าไปสู่รอบ 32 คนสุดท้ายก่อนที่จะไปพ่ายแพ้ให้กับ ชอน เมอร์ฟี่ มือดีจอมเก๋าอดีตแชมป์โลกปี 2005 ไป 2-6 เฟรม
ฤดูกาล 2014-2015 และ 2015-2016 เป็นฤดูกาลที่ยากลำบากของ หมู ปากน้ำ เมื่อเจ้าตัวสามารถผ่านเข้าสู่รอบเมนดอร์ได้เพียง 3-4 รายการต่อหนึ่งฤดูกาลเท่านั้น และผลงานที่ดีที่สุดก็คือการผ่านเข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้ายในรายการไชน่า โอเพ่น (China Open) ปี 2016
แต่ในรายการดังกล่าว หมู ปากน้ำ สามารถแสดงศักยภาพให้วงการสนุกเกอร์โลกได้เห็นเมื่อเจ้าตัวสามารถพลิกเอาชนะนีล โรเบิร์ตสัน แชมป์โลกปี 2010 ชาวออสเตรเลียไปได้แบบสนุก 5-3 เฟรมในรอบแรกหรือรอบ 64 คน
จากนั้นในรอบที่ 3 หรือรอบ 16 คน หมูปากน้ำก็สามารถโค่นอดีตแชมป์โลกได้อีกครั้งเมื่อสามารถเอาชนะแกรม ดอตต์ แชมป์โลกปี 2006 ชาวสกอตแลนด์ไปแบบขาดลอย 5-1 เฟรม ก่อนที่จะไปโดนจอห์น ฮิกกินส์ แชมป์โลก 4 สมัยชาวสกอตแลนด์สอยตกรอบไปการแข่งขันรอบ 8 คนสุดท้ายไปแบบน่าเสียดาย
ซึ่งหลังจากผ่านการแข่งขันสนุกเกอร์ระดับโลกมาแล้วกว่า 5 ฤดูกาล แต่ยังไร้ซึ่งความสำเร็จจะมีก็เพียงผลงานในรายการยูเค แชมเปียนชิพ 2013 และไชน่า โอเพ่น 2016 เท่านั้นที่พอจะอ้างอิงได้บ้าง แต่การที่เจ้าตัวสามารถเอาชนะนักสนุกเกอร์อดีตแชมป์โลกได้ ก็แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการ และความมุ่งมั่นที่จะเดินในเส้นทางสายนี้ต่อไป
มือปราบแชมป์โลกจากไทยแลนด์
ฤดูกาล 2016-2017 หมู ปากน้ำ เริ่มต้นจากการเข้าร่วมการแข่งขันในรายการนอร์ทเทิร์น ไอร์แลนด์ โอเพ่น (Northern Ireland Open) 2016 แต่ก็ต้องตกรอบแรกไปด้วยฝีมือของแซม เบิร์ด นักสอยคิวชาวอังกฤษ
จากนั้นรายการยูเค แชมเปียนชิพ 2016 ซึ่งเป็นรายการถัดมาเจ้าตัวสามารถโชว์ฟอร์มเยี่ยมเมื่อสามารถเอาชนะเคน โดเฮอร์ตี้ นักสอยคิวไอร์แลนด์ อดีตแชมป์โลกปี 1997 ไปได้อย่างขาดลอย 6-0 เฟรม เป็นการล้มอดีตแชมป์โลกได้อีกครั้ง ก่อนที่ในรอบถัดมาจะมาแพ้จอห์น ฮิกกินส์ ไปแบบสนุก 4-6 เฟรม
จากนั้นในรายการสกอตติช โอเพ่น (Scottish Open) 2016 หมูปากน้ำก็สามารถผ่านเข้าไปถึงรอบที่ 3 หรือรอบ 32 คนสุดท้ายได้ก่อนจะไปพ่ายแพ้แก่จัดด์ ทรัมป์ยอดนักสนุกเกอร์ระดับโลกไป 0-4 เฟรม
ขณะที่ผลงานในรายการอื่นของเจ้าตัวก็ยังไม่มีอะไรที่โดดเด่นนัก จะมีก็แต่เพียงการที่หมูปากน้ำสามารถสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักสนุกเกอร์ไทยคนที่ 4 ที่สามารถผ่านเข้าสู่รอบเมนดอร์ของการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลกหรือเวิลด์ สนุกเกอร์ แชมเปียนชิพ (World Snooker Championship) ณ ครูซิเบิล เธียเตอร์ เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษได้สำเร็จเป็นสมัยแรก แต่เจ้าก็ต้องตกรอบแรกของการแข่งขันด้วยความพ่ายแพ้ที่มีต่อ นีล โรเบิร์ตสัน ไป 4-10 เฟรม
ฤดูกาล 2017-2018 หมูปากน้ำ สามารถทำผลงานได้ดีตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น โดยผลงานเด่นคือการปราบ มาร์ติน โกลด์ นักสอยคิวอังกฤษที่เป็นมอวางไป 4-3 เฟรมในรอบแรกของรายการสกอตติช โอเพ่น 2017 ก่อนที่จะหยุดเส้นทางของตัวเองไว้ที่รอบที่ 3 หรือรอบ 32 คนสุดท้ายของรายการดังกล่าว
และอีกผลงานเด่นคือการสามารถผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศของการแข่งขันรายการเวลส์ โอเพ่น (Welsh Open) 2018 โดยในรายการดังกล่าวหมูปากน้ำสามารถพลิกล็อคเอาชนะจัดด์ ทรัมป์ ไป 4-1 เฟรมในรอบ 64 คน ก่อนจะมาปราบไคเรน วิลสัน ได้ 4-0 เฟรมในรอบ 16 คนสุดท้าย เป็นการโค่น 2 มือวางของรายการชนิดที่แฟนสนุกเกอร์ต้องตกตะลึง
ฤดูกาล 2018-2019 หมูปากน้ำสามารถสร้างผลงานเด่นได้ในรายการเวิลด์ โอเพ่น 2018 เมื่อเจ้าตัวสามารถผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศรายการระดับอาชีพได้อีกครั้ง โดยไฮไลท์ของการแข่งขันรายการดังกล่าวของหมูปากน้ำก็คือการที่เจ้าตัวสามารถเอาชนะมาร์ค เซลบี้แชมป์โลก 3 สมัย ณ เวลานั้นไปได้แบบสนุก 5-4 เฟรมในรอบที่ 3 หรือรอบ 8 คนสุดท้าย
จากนั้นในรายการอิงลิซ โอเพ่น (English Open) 2018 หมูปากน้ำก็ยังคงร้อนแรงเมื่อสามารถผ่านเข้าไปถึงรอบ 8 คนสุดท้ายได้สำเร็จ และอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญในฤดูกาลนี้ก็คือการที่ หมูปากน้ำ สามารถทลายกำแพงเอาชนะจอห์น ฮิกกินส์ แชมป์โลก 4 สมัยชาวสกอตแลนด์ ไปได้แบบสนุก 4-2 เฟรมในรอบแรกของการแข่งขันรายการเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ (World Grand Prix) 2019 นับเป็นอีกฤดูกาลที่น่าจดจำของเจ้าตัว
ฤดูกาล 2019-2020 และ 2020-2021 ของหมูปากน้ำ ยังคงทรงตัวแม้จะไม่สามารถผ่านเข้าสู่รอบควอเตอร์ไฟนอลและรอบรองชนะเลิศรายการใดได้เลย แต่เจ้าตัวก็สามารถเอาชนะสตีเฟ่น แม็กไกวร์ นักสอยคิวมือดีจากสกอตแลนด์ได้ในการแข่งขันรอบที่ 3 หรือรอบ 32 คนสุดท้ายของรายการนอร์ทเทิร์น ไอร์แลนด์ โอเพ่น 2020
เช่นเดียวกับที่เจ้าตัวสามารถเอาชนะจอห์น ฮิกกินส์ได้อีกครั้งในรายการสกอตติช โอเพ่น 2020 รวมทั้งการที่เจ้าตัวสามารถผ่านเข้าสู่การแข่งขันเวิลด์ สนุกเกอร์ แชมเปียนชิพได้เป็นสมัยที่ 2 ในปี 2020
ช่วงปลายปี 2022 ที่ผ่านมาชื่อของหมูปากน้ำ ก็ถูกกล่าวถึงอีกครั้งเมื่อเจ้าตัวสามารถสร้างผลงานกระหึ่มวงการสนุกเกอร์โลก โดยนักสอยคิวไทยรายนี้สามารถผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศรายการบริติซ โอเพ่น 2022 ซึ่งเป็นรายการระดับอาชีพที่เก่าแก่รายการหนึ่งของเวิลด์ สนุกเกอร์ ทัวร์ โดยรายการดังกล่าวหมูปากน้ำต้องพ่ายแพ้ให้กับมาร์ค อัลเลนในรอบรองชนะเลิศชวดสร้างประวัติศาสตร์เข้าชิงชนะเลิศไปอย่างน่าเสียดาย
จากนั้นเมื่อเดือนมกราคมของปี 2023 ในรายการเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ หมูปากน้ำ ก็สามารถสร้างผลงานผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศในรายการระดับอาชีพอีกครั้ง โดยเจ้าตัวสามารถเอาชนะมาร์ค เซลบี้แชมป์โลก 4 สมัยจากอังกฤษไป 4-1 เฟรมในรอบแรกของรายการ จากนั้นสามารถโค่นรอนนี โอซุลลิแวน แชมป์โลก 7 สมัย ไป 4-2 เฟรมในรอบ 16 คนสุดท้าย
ตามมาด้วยการเอาชนะมาร์ค วิลเลียม แชมป์โลก 3 สมัยไป 5-3 เฟรมในรอบ 8 คนสุดท้าย เป็นผลงานที่วงการสนุกเกอร์โลกต้องจับตามอง
ลุยชิงแชมป์โลกสมัยที่ 4
“หมูปากน้ำ” หรือ นพพล แสงคำ คือนักสนุกเกอร์ไทยคนที่ 4 ที่สามารถผ่านเข้าสู่การแข่งขันเวิลด์ สนุกเกอร์ แชมเปียนชิพรอบสุดท้ายได้ โดยก่อนหน้านี้เจ้าตัวสามารถผ่านเข้าสู่การแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลกรอบสุดท้ายมาได้แล้วถึง 3 ครั้งในปี 2017, 2020 และ 2022 โดยผลงานที่ดีที่สุดก็คือการผ่านเข้าถึงรอบที่สองในปี 2020 และ 2022
ซึ่งหากย้อนผลการแข่งขันไปนั้นต้องก็เริ่มจากในปี 2017 ที่เจ้าตัวสามารถผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกและก็ต้องตกรอบแรกของการแข่งขันไปเนื่องจากคู่แข่งของหมูปากน้ำก็คืออดีตแชมป์โลกอย่างนีล โรเบิร์ตสัน ซึ่งนักสอยคิวไทยก็พ่ายไป 4-10 เฟรม
หมูปากน้ำ สามารถผ่านเข้าสู่การแข่งขันเวิลด์ สนุกเกอร์ แชมเปียนชิพได้เป็นสมัยที่ 2 ในปี 2020 โดยรอบแรกเจ้าตัวโคจรมาพบกับชอน เมอร์ฟี มือวางอันดับที่ 10 ของรายการจากประเทศอังกฤษ และหมูปากน้ำ ก็สามารถสร้างประวัติศาสตร์คว้าชัยชนะไปได้ 10-4 เฟรม เป็นชัยชนะครั้งแรกของเจ้าตัวในการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก
แต่ในรอบถัดมา หมูปากน้ำ ก็ต้องพบกับยอดนักสนุกเกอร์อย่าง มาร์ค เซลบี้ ดีกรีแชมป์โลก 3 สมัยในเวลานั้น ซึ่งแน่นอนว่านักสอยคิวไทยเราเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด แต่หมูปากน้ำก็พิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและจิตใจที่แข็งแกร่งของเจ้าตัวเอง นักสอยคิวไทยสู้กับมาร์ค เซลบี้ได้อย่างถึงพริกถึงขิงก็จะพ่ายไปในเฟรมชิงดำ 12-13 เฟรมตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
ปี 2022 หมูปากน้ำก็กลับมาเข้าร่วมการแข่งขันเวิลด์ สนุกเกอร์ แชมเปียนชิพได้เป็นสมัยที่ 3 หลังจากที่ในปีก่อนหน้านั้นเจ้าตัวต้องถอนตัวออกไปอย่างน่าเสียดายเนื่องจากติดเชื้อโควิด-19
โดยผลการแข่งขันในครั้งนี้หมูปากน้ำก็สามารถผ่านเข้าสู่รอบที่ 2 ของการแข่งขันได้อีกครั้งโดยในรอบแรกเจ้าตัวสามารถเอาชนะลูกา เบรเซล จากเบลเยียมไปได้แบบไม่ยากเย็นนัก ก่อนที่ในรอบถัดมาจะต้องพ่ายให้แก่จอห์น ฮิกกินส์ จากสกอตแลนด์ไป 7-13 เฟรม
สำหรับการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก 2023 แม้ว่า หมูปากน้ำในคราวนี้จะพ่ายแพ้ตั้งแต่รอบแรกให้กับ แจ็ค ลิซาวสกี้ ไป 7-10 ต้องยุติเส้นทางเอาไว้เพียงเท่านี้
แต่ว่าในฐานะเพียงหนึ่งเดียวของไทย หมูปากน้ำก็ได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว และเส้นทางของเขาจะไม่ยุติเพียงเท่านี้ แต่จะกลับมาต่อสู้บนเส้นทางสายสนุกเกอร์อีกครั้งในฤดูกาลหน้า
นี่คือเรื่องราวของ “หมูปากน้ำ” หรือ นพพล แสงคำ นักสนุกเกอร์ไทยที่กำลังสานฝันของตัวเองในเวทีการแข่งขันสนุกเกอร์ระดับโลก ณ เวลานี้ครับ พวกเรามาร่วมกันให้กำลังใจแก่เจ้าตัวกันครับ
บทความโดย : ธิษณา ธนคลัง (เต้นคุง) - The Sportory
บทความที่เกี่ยวข้อง : สนุกเกอร์ชิงแชมป์โลกกับนักสนุกไทย : เปิดประวัติศาสตร์ที่แฟนกีฬาควรรู้
ลุ้นรางวัลใหญ่ เชียร์ทีมชาติไทยถึงเกาหลีใต้
ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลสนุกเกอร์ประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด
"ร่วมทายผลกีฬาลุ้นโชคพร้อมโบนัสสูงสุด 100 เปอร์เซนต์"
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand