แฟนเอฟเวอร์ตันพูดใส่หน้า จอห์น ดับเบิลยู เฮนรี และกลุ่ม Fenway Sports Group ว่าคุณซื้อทีมผิดแล้ว
การเทคโอเวอร์และความหวังของแฟนบอล
ย้อนกลับไปในปี 2010 จอห์น ดับเบิลยู เฮนรี (John W Henry) และกลุ่ม Fenway Sports Group (FSG) เข้าซื้อกิจการสโมสร ลิเวอร์พูล อย่างเป็นทางการ
โดยการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ถือเป็นความหวังใหม่ของเหล่าแฟนบอลที่เคยทนทุกข์กับการบริหารที่ผิดพลาดของเจ้าของเก่าอย่าง ทอม ฮิคส์ และจอร์จ ยิลเล็ตต์
แต่ดูเหมือนว่าการเริ่มต้นของ FSG กลับเต็มไปด้วยความอับอาย เมื่อ ลิเวอร์พูล ดันพ่ายแพ้ในเกมเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้ ต่อคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง เอฟเวอร์ตัน ด้วยสกอร์ 2-0 ส่งผลให้โดนแฟนบอลฝ่ายตรงข้ามเยาะเย้ย
หลังจากการซื้อสโมสร ลิเวอร์พูล เสร็จสิ้นในมูลค่า 300 ล้านปอนด์ เฮนรีและทีมบริหารใหม่ของ FSG ได้รับการต้อนรับจากแฟนบอลลิเวอร์พูลที่คาดหวังว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะนำพาสโมสรกลับสู่ความยิ่งใหญ่
เฮนรี มีแผนที่จะรอชมเกมแรกในสนามแอนฟิลด์ แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากเข้าพบพนักงาน นักเตะ และผู้จัดการทีม รอย ฮอดจ์สัน ที่แอนฟิลด์ เขาก็เปลี่ยนใจ และพาทีมงานของ New England Sports Ventures ตัดสินใจเข้าชมการแข่งขัน เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้ ระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ เอฟเวอร์ตัน ที่สนามกูดิสัน พาร์ค ซึ่งนั่ยกลายเป็นประสบการณ์แรกของพวกเขากับวงการฟุตบอลอังกฤษ
ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด
คุณซื้อผิดทีมแล้ว!
ในช่วงเย็นของวันนั้น ลิเวอร์พูล แพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-2 ที่กูดิสัน พาร์ค ทำให้แฟนบอลลิเวอร์พูล ต้องเผชิญกับเสียงเยาะเย้ยจากแฟนบอลเอฟเวอร์ตันที่ตะโกนใส่พวกเขาว่า “จะตกชั้นแล้ว จะตกชั้นแล้ว”
แต่ที่ยิ่งสร้างความเจ็บปวดมากกว่านั้นคือ คำเยาะเย้ยจากแฟนบอลเอฟเวอร์ตันคนหนึ่งที่พูดตรง ๆ ใส่หน้าของ เฮนรี ว่า “คุณซื้อผิดทีมแล้ว!”
จากคำพูดเหล่านี้อาจทำให้ทีมบริหารใหม่ต้องครุ่นคิดว่าพวกเขาได้ซื้อสโมสรที่ตกอยู่ในสภาพย่ำแย่เกินกว่าที่คาดคิดหรือไม่?
หลังจากที่ทีมงานของ FSG ออกจากสนามพร้อมกับความผิดหวัง สภาพของ ลิเวอร์พูล ในตอนนั้นทำให้เห็นชัดเจนว่าสโมสรต้องการการฟื้นฟูอย่างมาก ไม่ใช่แค่เรื่องการบริหารจัดการเท่านั้น แต่รวมถึงฟอร์มการเล่นในสนาม และขุมกำลังนักเตะที่ดูเหมือนจะขาดแคลนศักยภาพ
ความย่ำแย่ของทีมลิเวอร์พูลในปี 2010
ในซัมเมอร์ปี 2010 ลิเวอร์พูล อยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ภายใต้การบริหารของ ทอม ฮิคส์และจอร์จ ยิลเล็ตต์ ที่ก่อหนี้สินจำนวนมาก และทำให้สโมสรใกล้จะล้มละลาย ซึ่งการเข้ามาของ FSG แม้จะช่วยกู้สถานะทางการเงินของสโมสรได้ แต่ฟอร์มการเล่นในสนามก็ยังไม่ดีขึ้น ลิเวอร์พูล ขาดนักเตะสตาร์ดาวดัง และผู้จัดการทีม รอย ฮอดจ์สัน ก็ดูเหมือนจะไม่สามารถรับมือกับแรงกดดันในการพาทีมไปสู่ความสำเร็จ
หลังจากจบการแข่งขัน ฮอดจ์สัน กลับออกมาให้สัมภาษณ์ด้วยคำพูดที่ทำให้หลายคนต้องตกตะลึง "นี่เป็นการเล่นที่ดีที่สุดที่ผมเคยเห็นจากทีม ลิเวอร์พูล ที่ผมคุม"
"การได้ผลเสมอจากเกมนี้คงเหมือนสวรรค์แล้ว" จากคำพูดนี้ของเขายิ่งทำให้หลายคนเชื่อว่า ฮอดจ์สัน ไม่ได้เข้าใจถึงปัญหาที่แท้จริงของทีม
ความคิดเห็นที่ไม่สมเหตุสมผลเหล่านี้ทำให้ ฮอดจ์สัน ถูกวิจารณ์อย่างหนัก สื่อหลายสำนักในขณะนั้นได้พูดถึงสถานการณ์ของลิเวอร์พูลว่า
“คงยากที่จะหาทีม ลิเวอร์พูล ที่แย่กว่านี้ และคงยากที่จะจินตนาการว่า ฮอดจ์สัน จะมีเวลามากพอที่จะพิสูจน์ตัวเอง”
คำวิจารณ์จากสื่อ
สื่อหลายสำนักได้ออกมาวิจารณ์ฟอร์มการเล่นของ ลิเวอร์พูล อย่างรุนแรง โดยเฉพาะคำพูดของ ฮอดจ์สัน ที่บ่งบอกว่าเขาไม่สามารถรับรู้ถึงความอับอายของความพ่ายแพ้ได้ หนังสือพิมพ์รายหนึ่งเขียนว่า “การปฏิเสธที่จะยอมรับว่าทีมลิเวอร์พูลเล่นแย่หรือด้อยกว่านั้น เป็นการดูถูกสายตาของนายจ้างคนใหม่และแฟนบอลที่ต้องทนดูความพ่ายแพ้ครั้งนี้”
สื่อท้องถิ่น Liverpool Echo ก็ไม่พลาดที่จะวิจารณ์ โดยเขียนว่า “จอห์น ดับเบิลยู เฮนรี และทอม เวอร์เนอร์ ได้พูดอย่างชัดเจนเมื่อพวกเขามาถึงเมอร์ซีย์ไซด์ว่า งานในการฟื้นฟู ลิเวอร์พูล ให้กลับมาสู่จุดสูงสุดจะไม่สามารถสำเร็จในชั่วข้ามคืน” บทความของ Echo
ซึ่งชี้ให้เห็นว่าความพ่ายแพ้ที่กูดิสัน พาร์ค เป็นการบ่งบอกถึงความตกต่ำของ ลิเวอร์พูล และความท้าทายที่รอพวกเขาอยู่ข้างหน้า
ความท้าทาย
แม้ว่าความพ่ายแพ้ใน เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้ จะเป็นการเริ่มต้นที่ยากลำบากสำหรับ FSG แต่ เฮนรีและทีมงานก็ไม่ยอมแพ้ต่อความท้าทายที่พวกเขาต้องเผชิญ
การฟื้นฟู ลิเวอร์พูล ให้กลับมาสู่ความยิ่งใหญ่ต้องใช้เวลา ความพยายาม และการตัดสินใจที่เด็ดขาด การเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นด้วยการแต่งตั้งผู้จัดการทีมที่เหมาะสมกับสโมสร การเสริมทัพนักเตะที่มีคุณภาพ และการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานภายในสโมสร
ในช่วงหลายปีถัดมา FSG ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาสามารถพา ลิเวอร์พูล กลับมายืนหยัดในฐานะหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก
พวกเขาได้สร้างทีมที่แข็งแกร่งขึ้นมาใหม่ภายใต้การคุมทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ และพา ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และรางวัลอื่น ๆ มากมาย
บทความที่เกี่ยวข้อง