ชั่วโมงนี้ต้องบอกเลยว่าคงจะไม่มีใครมาหยุดความร้อนแรงของ อาร์เซน่อล ได้เลย หลังจากเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อวานที่ผ่านมา พวกเขาเปิดบ้านไล่ถล่ม น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ไปถึง 5-0
ประตูแรกของเกมนี้เกิดขึ้นจากการยิงของ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ โดยมี บูกาโย่ ซาก้า เป็นคนผ่านบอลให้ จากนั้นเกมก็ของ อาร์เซน่อล ก็ดูตื้อ ๆ ไปในช่วงครึ่งแรก
เหตุผลอาจจะเป็นเพราะ ซาก้า นั้นได้ถูกเปลี่ยนตัวออกไปในช่วงครึ่งชั่วโมงแรกของเกม และ อาร์เตต้า กุนซือของทีมก็ได้ส่ง รีสส์ เนลสัน ลงมาเล่นแทน และในครึ่งหลังก็เป็นนักเตะสำรองอย่าง เนลสัน เองที่ทำประตูที่ 2 และ 3 ให้กับทีมได้ในช่วงต้นครึ่งหลัง จากนั้น โธมัส ปาร์เตย์ และ มาร์ติน โอเดการ์ด ก็มาบวกประตูอีกคนละลูก ทำให้พวกเขาจบเกมได้อย่างสวยหรูพร้อมทั้งยึดตำแหน่งจ่าฝูงคืนมาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้
10 สถิติที่น่าประทับใจของ อาร์เซน่อล ในเกมนี้
- พวกเขาครองบอลในเกมนี้ได้ถึง 69.4 เปอร์เซ็น และมีสถิติการผ่านบอลมากกว่าทีมเยือนถึง 2 เท่า (547/204)
- ปาร์เตย์ ผ่านไปบอลไป 103 ครั้ง ด้วยอัตตราความแม่นยำถึง 93 เปอร์เซ็น ในทางตรงกันข้ามการจ่ายบอลของนักเตะ ฟอเรสต์ มากที่สุดนั้นอยู่ที่ 32 ครั้งเท่านั้น
- พวกเขาทำไปถึง 21 คีย์พาส (การผ่านบอลสุดท้ายก่อนที่เพื่อนร่วมทีมจะยิงประตู) โดย ฟอเรสต์ ทำไปได้เพียง 2 ครั้ง แต่ โอเดการ์ด ทำไปได้ถึง 5 ในจำนวน 21 ครั้ง
- ในเกมนี้ กาเบรียล เฆซุส มีโอกาสยิงไปถึง 7 ครั้ง และเข้ากรอบไป 3 ครั้ง ซึ่งมากกว่าฝั่งทีมเยือนทั้งหมดรวมกัน
- ก่อนหน้านี้ เนลสัน เคยทำประตูได้เพียงลูกเดียวจากการลงสนามไป 23 เกมก่อนหน้านี้ แต่ในเกมที่ 24 ของเขานั้นทำได้ถึง 2 ประตู และนี่เป็น 2 ประตูที่เขาทำได้หลังจากเขาทำประตูล่าสุดในพรีเมียร์ลีกได้เมื่อ 873 วันก่อน โดยในตอนนี้เขามีสถิติทำประตูและแอสซิสต์ที่ดีกว่า เจดอน ซานโช่ และ แจ็ค กรีลิช เสียอีก
- ตอนนี้ โอเดการ์ด และ เฆซุส ทำแอสซิสต์ไปแล้วคนละ 5 ครั้ง ซึ่งมีเพียง เควิน เดอบรอยน์ เท่านั้นที่ทำแอสซิสต์ได้มากกว่าพวกเขา
- ก่อนจะต้องออกจากสนามไปในเกมนี้ ซาก้า ก็ได้ทำแอสซิสต์ที่ 20 ในพรีเมียร์ลีกให้กับตนเอง โดยมีนักเตะเพียงแค่ 2 คนเท่านั้นที่เคยทำได้ในช่วงอายุเท่านี้คือ เชส ฟาเบรกาส และ เวย์น รูนีย์
- นี่เป็นครั้งที่ 19 ของ อาร์เซน่อล ที่เอาชนะคู่แข่งในบ้านโดยทำประตูได้มากกว่า 5 ลูกขึ้นไป โดยสถิตินี้เกิดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ตำนานกุนซืออย่าง อาร์แซน เวนเกอร์ ออกจากทีมไป เพราะก่อนหน้านี้อดีตกุนซือชาวฝรั่งเศสเคยทำได้ถึง 18 ครั้งด้วยกัน
- พวกเขาเก็บชัยชนะในบ้านได้ติดต่อกันเป็นเกมที่ 9 ในพรีเมียร์ลีก แต่นี่เพิ่งจะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาเก็บคลีนชีตในบ้านได้
- อีกทั้งพวกเขายังเก็บชัยชนะในบ้านไป 7 เกมรวมทุกรายการในฤดูกาล 2022-23
Winning together pic.twitter.com/8A90CQnYJg
— Arsenal (@Arsenal) October 30, 2022
แม้จะทำได้ไม่ดีในครึ่งแรก แต่ก็ไม่หวั่นไหวกลับมายิงเพิ่มได้ในครึ่งหลัง
หลังจากทำประตูขึ้นนำได้ตั้งแต่ช่วง 5 นาทีแรก พวกเขาก็ทำประตูเพิ่มไม่ได้เลยในช่วงครึ่งแรก ซึ่งนี่จะเป็นบทพิสูจน์อีกครั้ง หลังจากเมื่ออาทิตย์ก่อนพวกเขาได้ทำแต้มหล่นไป 2 แต้ม หลังจากทำได้แค่เสมอกับ เซาธ์แธมตันไป 1-1 อีกทั้งในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาพวกเขาก็ต้องพลาดท่าแพ้ให้กับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ไป 2-0 ในเกม ยูโรป้า ลีก
“ทีมใหญ่อย่างเราต้องตอบโต้ให้เร็วที่สุด และเราก็ทำอย่างนั้นหลังจากที่แพ้มาเมื่อวันพฤหัสบดี เพราะเรามีเวลาไม่มากนัก” อาร์เตต้า กล่าว
“เวลาพวกเราซ้อมกัน ไม่ใช่แค่เรื่องของร่างกายเท่านั้น แต่ก็ต้องมีเรื่องของจิตใจด้วย เราต้องมีจิตใจที่พร้อมเสมอ ไม่ว่าจะลงเล่นกับใคร และต้องมีจิตใจของผู้ชนะและไม่ย่อท้อต่อเรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้า”
ด้วยเหตุผลนี้เอง พวกเขาจึงไม่ตื่นตระหนกเท่าไหร่นัก และกลับมาทำประตูในครึ่งหลังได้ถึง 4 ลูก โดยความกดดันในครึ่งแรกก็ได้หายไปหมดในพริบตา ซึ่งนี่อาจเป็นข้อพิสูจน์ว่า ทีมของ อาร์เตต้า คงพร้อมที่จะลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกเต็มตัวแล้ว
NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก