แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมจากพรีเมียร์ลีกอังกฤษมีโปรแกรมต้องลงเล่นอีก 6 เกมก่อนที่จะมีฟุตบอลโลกเข้ามาคั่นในช่วงเดือนหน้า แต่ 6 เกมที่ว่านั้นพวกเขาต้องลงเตะทั้งหมดในช่วงเวลาแค่ 2 อาทิตย์กว่า ๆ ทำให้เป็นเครื่องหมายคำถามว่าบางทีเราอาจจะได้เห็นดาวรุ่งของทีมเข้ามามาส่วนรวมในทีมชุดใหญ่มากขึ้นในช่วงนี้
หากคุณไปถามนักเตะอาชีพระดับท็อปว่าพวกเขาคิดอย่างไรกับโปรแกรมที่อัดแน่นในฤดูกาลนี้ คงได้คำตอบกลับมาเหมือน ๆ กันหมดโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของโปรแกรมการแข่งขันที่มากเกินไป ยิ่งถ้าพวกเขาได้เข้าไปในรอบลึก ๆ ของฟุตบอลถ้วยด้วยแล้ว พวกเขาอาจต้องเจอโปรแกรมแข่งขันมากกว่า 70 เกมด้วยกัน
ถึงแม้ว่าโปรแกรมการแข่งขันอาจทำให้นักเตะระดับท็อปไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก แต่มันก็มีข้อดีอยู่บ้างในเรื่องนี้ หนึ่งในนั้นก็เป็นเรื่องสำคัญกับโอกาสในการลงเล่นของพวกดาวรุ่ง ยิ่งสำหรับทีมอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยแล้วพวกเขายังมีนักเตะเยาวชนอีกมากมายคอยรอต่อแถวขึ้นมาเล่นในชุดใหญ่อยู่เสมอ
ในเกมที่เสมอกับ เชลซี เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานักเตะดาวรุ่งอย่าง ฟากุนโด เปลิสตริ, ซีดาน อิกบาล และอเลฮานโดร การ์นาโช ล้วนมีชื่ออยู่บนม้านั่งสำรองทั้งนั้น แม้ว่าสุดท้ายจะไม่มีใครได้ลงเล่น แต่การที่ เอริก เทน ฮาก นั้นเลือกนักเตะเหล่านี้เข้ามามีชื่ออยู่ในทีมแสดงว่าเขาก็ต้องเชื่อมั่นในตัวดาวรุ่งอยู่พอสมควร
หากพวกเขาได้เปรียบในเกมที่พบกับ เชลซี บางทีพวกเขา 1 หรือ 2 คน อาจจะมีโอกาสได้ลงสนามก็เป็นได้ แต่เมื่อสถานการณ์ไม่เป็นใจ กุนซือของพวกเขาก็ต้องการนักเตะที่มีประสบการณ์มากกว่าลงมาเป็นตัวสำรอง
ดาวรุ่งคนไหนบ้างที่ได้รับโอกาสลงสนามแล้วในยุค เทน ฮาก
การ์นาโช เป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่ได้รับโอกาสลงสนามในฐานะนักเตะชุดใหญ่มากที่สุดอยู่ที่ 5 เกม โดย 3 จาก 5 เกมนั้นมาจากการลงสนามในฤดูกาลนี้ทั้งหมด ส่วนทาง อิกบัล และ เปลิสตรี นั้นยังไม่ได้มีโอกาสลงสนามแม้แต่เกมเดียว แม้ว่าจะมีชื่ออยู่ในม้านั่งสำรองมาหลายเกมก็ตาม แต่ดูแล้วในไม่ช้าพวกเขาน่าจะมีโอกาสได้ลงสนามมากขึ้นอย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่าในฤดูกาลนี้ทีมเยาวชนของ แมนฯ ยูไนเต็ด จะโชว์ฟอร์มได้ไม่ดีเท่าไหร่ แต่นักเตะบางคนก็ยังโชว์ฟอร์มส่วนตัวได้โดดเด่นจน เทน ฮาก เองก็มองข้ามความสามารถของเด็ก ๆ เหล่านี้ไปไม่ได้
แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีโปรแกรมลงเล่นอีก 6 เกมภายในเวลา 2 อาทิตย์กว่า ๆ ก่อนที่จะพักฤดูกาลเพื่อหลีกทางให้กับฟุตบอลโลกที่กาตาร์ ดังนั้นไม่แปลกเลยถ้าในช่วงนี้ดาวรุ่งทั้งหลายจะมีโอกาสเพิ่มมากขึ้นในการลงสนาม
โปรแกรมที่อัดแน่น ทำให้บางเกมต้องเลือกใช้ดาวรุ่ง
โดย 6 เกมที่กล่าวไปข้างต้น แมนฯ ยูไนเต็ดจะต้องลงทำศึกพรีเมียร์อีก 3 เกม ยูโรปา ลีก อีก 2 เกม ซึ่ง 1 ใน 2 เกมนี้พวกเขายังต้องเจอกับ เรอัล โซเซียดัด ทีมที่ต้องการเป็นจ่าฝูงของกลุ่มเหมือนกับพวกเขา ส่วนอีก 1 เกมเป็นโปรแกรมบอลถ้วยอย่างลีกคัพที่ต้องลงเล่นกับ แอสตัน วิลล่า
นอกจากเกมพรีเมียร์ลีกที่พวกเขาต้องโฟกัสในช่วงสุดสัปดาห์ เกมที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ยูโรปา ลีก ในช่วงกลางสัปดาห์ เพราะถ้าหากพวกเขาพลาดขึ้นมาไม่ว่าเกมใดก็ตาม การที่ไม่ได้เป็นจ่าฝูงของกลุ่มถือว่าเป็นเรื่องเสียหายอย่างมาก เพราะพวกเขาต้องมาเพลย์ออฟกับทีมที่หล่นลงมาจาก ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ทำให้ต้องมีเกมเพิ่มอีก 1 เกมโดยใช่เหตุ
ดังนั้นเกมที่พวกเขาเหมาะที่จะเลือกใช้ดาวรุ่งได้มากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นเกมลีกคัพที่ต้องพบกับ แอสตัน วิลลา ในช่วงต้นเดือนหน้า แต่สุดท้ายก็ต้องมารอดูกันว่า เทน ฮาก จะรับมือกับโปรแกรมที่อัดแน่นอย่างไร และเขาจะมอบโอกาสการลงสนามให้กับดาวรุ่งอย่างที่คาดหรือไม่