เปิดประวัติโค้ชเช ชเว ยองซอก : โค้ชเทควันโดเกาหลีใต้หัวใจไทย เบื้องหลังความสำเร็จของน้องเทนนิส

Guy Tanapon

•

เปิดประวัติโค้ชเช ชเว ยองซอก : โค้ชเทควันโดเกาหลีใต้หัวใจไทย เบื้องหลังความสำเร็จของน้องเทนนิส image

น้องเทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ สร้างความสุขให้กับแฟนกีฬาและชาวไทยอีกครั้งด้วยการคว้าเหรียญทองในการแข่งขันเทควันโดโอลิมปิก 2024 มาครองได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม นอกจากฝีมือและจิตใจที่เด็ดเดี่ยวของ "นิส" แล้ว อีกคนที่ไม่ชมไม่ได้เลยก็คือ "โค้ชเช" ชเว ยองซอก หรือว่าสุดเปลี่ยนเป็น ชัชชัย เช โค้ชที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเธอและวงการเทควันโดไทย

หากใครยังไม่รู้ว่า "โค้ชเช" เป็นใครมาจากไหน The Sporting News ขอพาทุกท่านไปรู้จักกับเทรนเนอร์เกาหลีใต้หัวใจไทยรายนี้ให้มากยิ่งขึ้น ตามอ่านเรื่องราวทั้งหมดต่อได้ที่นี่

ประวัติส่วนตัวของ โค้ชเช ชเว ยองซอก

ชื่อเต็ม (เกาหลีใต้) : ชเว ยองซอก
ชื่อเต็ม (ไทย) : ชัชชัย เช
สัญชาติ : ไทย
วันเกิด : 30 เมษายน 1974
อายุ : 49 ปี
น้ำหนัก : -
ส่วนสูง : -

เส้นทางของ โค้ชเช ชเว ยองซอก

ชเว ยองซอก หรือว่า "โค้ชเช" เกิดและเติบโตที่เมืองซองนัม ประเทศเกาหลีใต้ และแน่นอนว่าก่อนที่เขาจะมาเป็นโค้ช เขาเคยเป็นนักกีฬาเทควันโดให้กับทีมชาติเกาหลีใต้มาก่อน ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะผันตัวมาเป็นโค้ช เหมือน ๆ กับนักกีฬาคนอื่น ๆ นั่นเอง

งานแรกของเขาคือการเป็นโค้ชให้กับทีมเทควันโดทีมชาติบาห์เรน ในปี 2000 แต่ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนเกินทนในประเทศ ทำให้ โค้ชเช ตัดสินใจออกจากงานนั้นในช่วง 2 ปีต่อมา

ในปีเดียวกันนั้น หลังจากที่ โค้ชเช กลับบ้านเกิดไปพักผ่อนหย่อนใจแล้ว เขาก็ได้รับการติดต่อมาจากสหพันธ์เทควันโดนานาชาติว่าให้ไปรับงานเป็นโค้ชให้กับทีมชาติไทย ก่อนที่เจ้าตัวจะตอบรับและเซ็นสัญญาระยะสั้นจนกว่าจะจบการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 14 ที่ปูซาน ประเทศเกาหลีใต้

ทว่า ด้วยการที่เขาตั้งใจทำงานและฝึกซ้อมให้กับนักกีฬาของไทยอย่างหนักจนผ่านเข้าชิงในรายการดังกล่าวได้ถึง 2 รุ่น เขาจึงถูกนักกีฬาในทีมชุดนั้นเข้ามาหาแล้วบอกกับเขาว่าอยากที่จะมี โค้ชเช คุมทัพไปแข่งในศึกโอลิมปิก จากนั้น โค้ชเช ที่เห็นถึงความพยายามของนักกีฬาไทย จึงทำการตั้งโปรเจ็คอยู่ยาวกับทีมชาติไทยมาจนถึงปัจจุบัน ก่อนที่จะพากีฬาที่ไม่ได้เป็นกระแสหลักของประเทศขึ้นไปอยู่แนวหน้าของโลก

โค้ชเช พานักกีฬาไทยประสบความสำเร็จมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เยาวภา บุรพลชัย (เหรียญทองแดงโอลิมปิก 2004), บุตรี เผือดผ่อง (เหรียญเงินโอลิมปิก 2008), ชนาธิป ซ้อนขำ (เหรียญทองแดงโอลิมปิก 2012), เทวินทร์ หาญปราบ (เหรียญเงินโอลิมปิก 2016)

แต่ที่ดูจะประสบความสำเร็จมากครั้งที่สุดคงจะหนีไม่พ้นผลงานชิ้นโบว์แดงอย่าง "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ที่เริ่มแรกพาเธอคว้าเหรียญทองแดงที่โอลิมปิก 2016 และประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการคว้าเหรียญทองได้ในปี 2020 และในปี 2024 ก็เป็นปีล่าสุดที่เธอทำได้อีกครั้งในยุคของโค้ชเช

Getty Images

นอกจากโอลิมปิกแล้ว เขายังเคยพานักกีฬาไทยเป็นแชมป์โลกเทควันโดได้ถึง 5 คน ซึ่งก็รวมถึง น้องเทนนิส ของเราด้วย เรียกได้ว่าความเฮี้ยบและความวินัยสูงของเขานั้นช่วยพัฒนาทัพนักกีฬาเทควันโดไทยได้ดีและเห็นผลมากจริง ๆ

ในเวลาต่อมา มีรายงานออกมาว่ามีหลาย ๆ ประเทศที่ต้องการจะดึงตัว โค้ชเช ไปทำงานด้วย แต่ด้วยความที่เจ้าตัวผูกพันกับประเทศไทยและวัฒนธรรมไทยที่นี่ เขาจึงไม่ได้ย้ายออกไปไหน และอยู่ที่แดนสยามมานานกว่า 20 กว่าปีแล้ว

และอย่างที่กล่าวไป โค้ชเช มีความรักในประเทศไทยเป็นอย่างมาก จนถึงขั้นที่ว่าเขาอยากจะเปลี่ยนสัญชาติให้กลายเป็นคนไทยคนหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งทีแรกดูเหมือนเรื่องจะไม่ง่ายสำหรับเขาเลย เพราะการที่จะเปลี่ยนสัญชาติให้เป็นคนไทยนั้นยากและมีหลายขั้นตอนมาก ๆ

อย่างไรก็ดี ในปี 2022 ที่ผ่านมา โค้ชเช ก็ได้รับสัญชาติไทยแบบถูกกฎหมาย และได้ทำการเปลี่ยนชื่อตัวเองจาก ชเว ยองซอก มาเป็น ชัชชัย (แปลว่าชัยชนะที่มั่นคง) เช ด้วย โดยที่ชื่อนี้ถูกตั้งโดย สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี หรือเจ้าคุณธงชัย

ทั้งนี้ แม้ว่า น้องเทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จะประกาศรีไทร์ตัวเองจากการแข่งขันเทควันโดไปแล้ว แต่ โค้ชเช ก็ยังคงเดินหน้าพัฒนานักเตะไทยให้ไปได้ไกลถึงระดับโลกเหมือนที่เคยทำมาเหมือนเคย แต่ไม่ใช่ว่าเขาทำเพราะว่าเป็นงาน ๆ หนึ่งของชาวต่างชาติที่มาหากินต่างแดน แต่เขาตั้งใจทำงานเพื่อคนไทย, วงการกีฬาไทย ในฐานะคนไทยคนหนึ่งไปแล้ว