ไขข้อสงสัย : ทำไมคนได้เหรียญทองแดงหลายคนถึงมีความสุขกว่าได้เหรียญเงิน?

Captain Thanyathep

ไขข้อสงสัย : ทำไมคนได้เหรียญทองแดงหลายคนถึงมีความสุขกว่าได้เหรียญเงิน? image

สมหวังแล้วก็ต้องมีผิดหวังบ้างเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับนักกีฬาหลาย ๆ คน ไม่ว่าจะเป็นผู้คว้าเหรียญทอง เหรียญเงิน หรือแม้กระทั่งเหรียญทองแดง ต่างได้รับความสุขที่แตกต่างกันออกไป

แต่จากงานวิจัยพบว่านักกีฬาหลายคนที่ได้เหรียญทองแดงกลับมีความสุขมากกว่าเหรียญเงินสะอย่างงั้น เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น? ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกันที่นี่เลย 

คิดมุมกลับ?

ผลการศึกษางานวิจัย Journal of Personal and Social Psychology ได้ศึกษาการแสดงออกทางท่าทางและสีหน้าของนักกีฬาทุกคนที่ได้รับเหรียญรางวัลในโอลิมปิก ปี 1992

จากการศึกษาวิเคราะห์ภาพเหตุการณ์ในพิธีมอบรางวัลรวมถึงในการสัมภาษณ์ สรุปได้ว่านักกีฬาที่ได้รับเหรียญทองมีความสุขมากที่สุดแต่สิ่งที่น่าแปลกใจคือนักกีฬาที่ได้รับเหรียญทองแดงกลับดูมีความสุขมากกว่าผู้ได้รับเหรียญเงิน

เรื่องนี้เว็บไซต์ Inc. จึงได้เกิดการตั้งคำถามขึ้นมาว่า ทำไมนักกีฬาที่ได้เหรียญทองแดงมักจะมีความสุขมากกว่าคนที่ได้เหรียญเงิน?

โดยอธิบายถึงเหตุการณ์ข้างต้นว่าเป็น “การคิดแบบตรงกันข้าม” ที่ทำให้เรารู้สึกดีเมื่อเทียบกับสิ่งที่เราเป็นหรือบางครั้งทำให้รู้สึกแย่กับสิ่งที่เราได้ 

ยกตัวอย่างเช่น นักกีฬาคนหนึ่งผ่านเข้ารอบชิงเหรียญทองแดงและในรอบชิงเหรียญทองแดงนี้เอง นักกีฬาคนนั้นดันชนะพร้อมคว้าเหรียญมาได้ทำให้มีความรู้สึกแบบ “ผู้ชนะ” เพราะพวกเขาเปรียบเทียบตัวเองกับคนแพ้ที่ไม่ได้เหรียญรางวัล

กลับกันนักกีฬาที่เข้ารอบชิงชนะเลิศแต่ดันมาแพ้คู่ต่อสู้ในรอบนี้และคว้าเหรียญเงินทำให้มีความรู้สึกเหมือน “ผู้แพ้” ซึ่งผลพวงจากความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ทำให้พวกเขาเกิดแนวคิดการเปรียบเทียบกับนักกีฬาที่ได้เหรียญทอง จนกระทั่งบางครั้งเกิดการตั้งคำถามขึ้นในหัวว่า “ถ้าฝึกซ้อมหนักกว่านี้อีกนิดคงได้เหรียญทอง” หรือ “ถ้าเริ่มต้นได้ดีกว่านั้นคงชนะ” 

แน่นอนว่าแนวคิดนี้ก็ไม่มีผลกับนักกีฬาบางคน เช่น เคธี่ เลเด็คกี้ คว้าอันดับที่ 3 ในการแข่งว่ายน้ำฟรีสไตล์ 1,500 เมตร ซึ่งเป็นรายการที่เธอแพ้มา 14 ปีแล้ว ซึ่งเธอคงจะไม่มีความสุขกว่าคนชนะเหรียญเงิน

ในทางกลับกัน ซาราห์ โชสตรอม จากสวีเดน เธอแสดงความดีใจหลังความเหรียญเงินในการแข่งขันฟรีสไตล์ 100 เมตรซึ่งก่อนหน้านี้เธอเกือบไม่ได้มาแข่งขันเพราะเธอต้องการลงแข่ง 50 เมตรแต่โค้ชของเธอคัดค้านมาให้เธอแข่ง 100 เมตรแทน

น่าเหลือเชื่อมาก ฉันไม่คิดว่าฉันจะว่ายฟรีสไตล์ 100 เมตรได้จริง ๆ หลังจากว่ายฟรีสไตล์ผลัดในวันแรก ฉันบอกโค้ชตรง ๆ ว่า ‘ไม่ ฉันไม่คิดว่าจะว่าย 100 เมตรได้ ฉันอยากว่าย 50 เมตรเท่านั้น’” ซาราห์ โชสตรอม เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้น

แต่แล้วโค้ชของเธอก็พยายามพูดคุยและบอกว่า “ไม่หรอกคุณต้องออกไปดูว่าตัวเองทำอะไรได้บ้างไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร” จากนั้นเธอก็ยอมว่ายฟรีสไตล์ 100 เมตรและคว้าเหรียญเงินมาได้

เห็นได้ชัดจาก 2 เคสนักกีฬาที่ว่ามาข้างต้นที่ไม่ได้มีแนวคิดแบบตรงกันข้าม ดังนั้นนักกีฬาจึงควรหยุดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นและควรพอใจในสิ่งที่ตนเองได้รับ

รับเครดิตฟรี ที่ M88 คลิก

ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด

ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา

Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand

Captain Thanyathep

Captain Thanyathep Photo

นักเขียน The Sporting News Thailand ผู้ชื่นชอบในข่าวกีฬาและเขียนบทความด้วยแรงบันดาลใจ