สิ้นสุดการรอคอยซักทีสำหรับแฟนๆ บอสตัน เซลติกส์
หากอ้างอิงจากหลายแหล่งข่าว เจย์เลน บราวน์ ได้ต่อสัญญาซูเปอร์แม็กซ์ 5 ปี 304 ล้านเหรียญ กับ บอสตัน เซลติกส์ และทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่เซ็นสัญญาแพงที่สุดในประวัติศาตร์ NBA แซงหน้า นิโคลา โยคิช ไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย
ทุกคนไม่ได้ฟังผิดนะครับ นี่คือดีลที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ NBA จริงๆ
จริงๆแล้ว เซลติกส์ สามารถเซ็นกับ บราวน์ ได้เลยตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม แต่ทว่า เซลติกส์ มีอย่างอื่นที่ต้องจัดการก่อนตามรายงาน ไม่ว่าจะเป็นการต่อสัญญากับ คริสแตปส์ พอร์ซิงกิส หรือ การปล่อย แกรนท์ วิลเลียมส์ ออกไปในตลาดฟรีเอเยนต์ และสุดท้ายเวลาของ เจย์เลน บราวน์ ก็มาถึงจนได้
ทำไม เจย์เลน บราวน์ ถึงได้สัญญาแพงสุดในประวัติศาสตร์ของ NBA
บราวน์สามารถรับสัญญาแบบซูเปอร์แม็กซ์ได้ในครั้งนี้เนื่องจากเขาสามารถติดทีมสอง All-NBA ไปได้ในฤดูกาล 2022-23
การ์ดวัย 26 ปีคนนี้มีฤดูกาลที่ดีสุดในชีวิต ด้วยการมีค่าเฉลี่ยสูงสุดในอาชีพที่ 26.6 แต้ม, 6.9 รีบาวด์ และ 3.5 แอสซิสต์ต่อเกม ในขณะที่ยิงฟิลด์โกลลงไปทั้งหมด 49.1 เปอร์เซนต์ และยังช่วยให้ เซลติกส์ ขึ้นไปสู่รอบชิงแชมป์สายตะวันออกได้ถึง 5 ครั้งจาก 7 ฤดูกาลที่ผ่านมา และในตอนนี้เขาจะอยู่กับ บอสตัน ไปยังฤดูกาล 2028-29
บราวน์คือผู้เล่นที่ถูกดราฟต์มาโดย เซลติกส์ ในอันดับที่ 3 ของปี 2016 เขาคือหนึ่งในผู้เล่นอายุน้อยที่ดีสุดในลีกและพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ทีมได้รับชัยชนะตลอด 7 ปีที่ผ่านมา
แต่แน่นอนว่าเขาไม่ใช่ผู้เล่นเกรด S และมีอะไรที่ต้องพัฒนาอีกเยอะ อย่างเช่นการเลี้ยงบอลที่เป็นปัญหามากๆซึ่งเป็นแผลใหญ่ในรอบชิงแชมป์สายที่ผ่านมาโดยเฉพาะมือซ้าย รวมถึงการเป็นเพลย์เมคเกอร์ของเขาที่มุมมองยังไม่กว้างพอ ส่วนสิ่งที่ดีของเขาก็คือการทำแต้มที่อยู่ในระดับสูงและเป็นผู้เล่นเกมรับที่หลากหลายและเหมาะสมกับรูปแบบของ เซลติกส์ มากๆ
แม้ว่ามันจะรู้สึกแปลกๆที่เราได้เห็น บราวน์ ได้สัญญาที่มากสุดในประวัติศาสตร์ NBA แต่ทว่านี่คงเป็นผลพวงจาก CBA (ข้อตกลงเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน) ฉบับใหม่ที่ส่งผลต่อเพดานเงินในอนาคตซะมากกว่าที่จะพิสูจน์ว่า บราวน์ เป็นผู้เล่นที่เก่งสุดในลีกตอนนี้
เพราะจากการคาดการณ์ ทางด้านของ เจย์สัน เททัม อีกหนึ่งซูเปอร์สตาร์ของ เซลติกส์ ก็มีสิทธิ์ที่จะได้สัญญาซููเปอร์แม็กซ์ระดับ 5 ปี 338 ล้านเหรียญ เช่นกันในช่วงปิดฤดูกาลครั้งหน้า ซึ่งนี่จะเป็นมูลค่าที่มากกว่าบราวน์ ถึง 34 ล้านเหรียญเลยทีเดียว
และนี่คือจำนวนเงินแต่ละปีที่ เจย์เลน บราวน์ จะได้ในอีก 5 ปีข้างหน้าหากอ้างอิงจาก บ็อบบี มาร์คส์ ของ ESPN
ฤดูกาล | รายได้ |
2024-25 | $52,368,085 |
2025-26 | $56,557,532 |
2026-27 | $60,746,979 |
2027-28 | $64,936,425 |
2028-29 | $69,125,872 |
รวม: | $303,734,893 |
สัญญาแพงสุดในประวัติศาสตร์ของ NBA
อันดับ | ผู้เล่น | อายุเมื่อเซ็น | ทีมที่เซ็น | จำนวนปี | มูลค่า | AAV |
1. | เจย์เลน บราวน์ | 26 | เซลติกส์ | 5 | $304 ล้าน | $60.8 ล้าน |
2. | นิโคลา โยคิช | 27 | นักเก็ตส์ | 5 | $276.1 ล้าน | $55.2 ล้าน |
3. | แบรดลีย์ บีล | 29 | วิซาร์ดส์ | 5 | $251 ล้าน | $50.2 ล้าน |
T-4. | เดวิน บุคเกอร์ | 27 | ซันส์ | 4 | $234.6 ล้าน | $58.6 ล้าน |
คาร์ล แอนโทนี-ทาวน์ส | 28 | ทิมเบอร์วูล์ฟส์ | 4 | $234.6 ล้าน | $58.6 ล้าน | |
6. | ยานนิส อันเทโทคุมโป | 26 | บัคส์ | 5 | $228.2 ล้าน | $45.6 ล้าน |
7. | สเตฟเฟน เคอร์รี | 33 | วอร์ริเออร์ส | 4 | $215.4 ล้าน | $53.8 ล้าน |
T-8. | ลูก้า ดอนซิช | 22 | แมฟเวอร์ริกส์ | 5 | $215.2 ล้าน | $43 ล้าน |
แซค ลาวีน | 27 | บูลส์ | 5 | $215.2 ล้าน | $43 ล้าน | |
เทร ยัง | 22 | ฮอว์กส์ | 5 | $215.2 ล้าน | $43 ล้าน | |
11. | โจเอล เอ็มบีด | 27 | ซิกเซอร์ส | 4 | $213.3 ล้าน | $53.3 ล้าน |
บทความที่เกี่ยวข้อง : เปิดประวัติการขอเทรดและดีลการย้ายทีมของ เจมส์ ฮาร์เดน
บทความที่เกี่ยวข้อง : เปิดรายชื่อผู้เล่น NBA ที่ไม่พร้อมไปแข่งขันศึก FIBA เวิลด์คัพ 2023
NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก