All-NBA ควรเป็นใคร? เปิดยอดนักบาสประจำฤดูกาล 2022-23

Stephen Noh

All-NBA ควรเป็นใคร? เปิดยอดนักบาสประจำฤดูกาล 2022-23 image

หลังจากที่จบฤดูกาลปกติของ NBA ปี 2022-23 ไป สุดท้ายมันก็ถึงเวลาแล้วที่เราจะไปหาผู้เล่น 15 คนที่จะได้เข้ามาอยู่ในทีม All-NBA ทั้งสามทีม

ในฤดูกาลนี้และอาจจะในอนาคตการจัดหรือเลือกทีม All-NBA คงจะเป็นเรื่องที่ยากมากขึ้นเรื่อยๆอย่างแน่นอนเพราะผู้เล่นต่างมีศักยภาพที่มากขึ้นทุกวันๆอย่างเช่นในฤดูกาลนี้มีผู้เล่นนมากกว่า 40 คนที่มีค่าเฉลี่ยอย่างน้อย 20 แต้มต่อเกม ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับทศวรรษที่แล้ว ผู้เล่นที่สามารถทำได้มีเพียงเก้าคนเท่านั้น

หรืออย่างถัดมาก็คือการถกเถียงว่าผู้เล่นที่สามารถติดทีม All-NBA ได้จะต้องลงเล่นอย่างน้อยกี่เกมเนื่องจาก “ข้อตกลงเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน (Collective Bargaining Agreement)” ของ NBA อันใหม่ล่าสุดได้กำหนดไว้ว่าในปีหน้าผู้เล่นที่จะสามารถได้รางวัลใหญ่จะต้องลงเล่นอย่างน้อยที่ 65 เกม

ซึ่งผมไม่เห็นด้วยและคิดว่ามันมากเกินไปสำหรับตัวเลขนี้เพราะถ้าหากหยิบกฎนี้มาใช้ในอดีตจะทำให้ทั้ง สเตฟเฟเน เคอร์รี, เลบรอน เจมส์ และ เควิน ดูแรนท์ จะไม่สามารถติดทีมได้เลยในสองปีที่ผ่านมาแม้ฟอร์มของพวกเขาในสนามจะยอดเยี่ยมแค่ไหนก็ตาม หรืออย่างเช่นปีที่แล้ว เคอร์รี ก็สามารถพาทีมได้แชมป์อีกด้วย

แน่นอนว่าเกณฑ์การลงเล่นเกมของผู้เล่นยังคงถูกนำมาใช้ในการเลือกครั้งนี้แต่ผมจะไม่ได้ยึดตามกฎใหม่ของ NBA และต่อไปนี้คือทั้งสามทีมของ All-NBA ที่ผมได้เลือกมาในปี 2022-23

อ่านบทความ: ตัวแปรสำคัญ : ใครคือผู้เล่นที่จะเปลี่ยนเกมในเพลย์ออฟสายตะวันออก?

การ์ดของ All-NBA ทีมหนึ่ง, สองและสาม

Shai Gilgeous Alexander 012623
(NBAE via Getty Images)
  • ทีมแรก: ลูก้า ดอนซิช, เช กิลเจียส-อเล็กซานเดอร์
  • ทีมสอง: โดโนแวน มิชเชล, สเตฟเฟน เคอร์รี
  • ทีมสาม: เดเมียน ลิลลาร์ด, เดอารอน ฟ็อกซ์

หนึ่งตำแหน่งที่เลือกยากที่สุดในตลอดทุกๆปีก็คือตำแหน่งการ์ด

ลูก้า ดอนซิช คือคนแรกที่ผมตัดสินใจเลือกขึ้นมาอยู่ในทีมแรกแม้ว่าทีมของพวกเขาจะไม่ประสบความสำเร็จในปีนี้ก็ตามแต่อย่าลืมว่าเขาคือผู้เล่นที่ทำแต้มได้มากสุดเป็นอันดับสองของลีกและเป็นอันดับหกในการแอสซิสต์ นอกจากนั้นเขายังพา แมฟเวอร์ริกส์ จบฤดูกาลด้วยการมีเกมรุกอันดับที่หกของลีก (สถิติจาก Basketball Reference) ด้วยการเล่นของเขาอีกต่างหาก 

เช คืออันดับสองของผมสำหรับตำแหน่งการ์ดเพราะเขาคือแกนหลักตัวสำคัญที่พา ธันเดอร์ เข้ามาเล่นเพลย์อินจนได้แม้ว่าช่วงต้นฤดูกาลจะถูกเก็งว่าทีมจะชนะเพียง 23.5 นัดเท่านั้น (สถิติจาก Basketball Reference)

เขาคือผู้เล่นที่ไดรฟ์มากที่สุดในลีก นอกจากนั้นเขายังมีการทำแต้มระดับต้นๆของ NBA ด้วยการกดไป 31.4 แต้มต่อเกมบวกกับการพัฒนาเกมรับขึ้นมาจากต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมาเป็นประมาณค่าเฉลี่ยก็ถือว่าน่าประทับใจไม่น้อย

ส่วนการ์ดจากทีมสองที่ผมเลือกมาก็คือ โดโนแวน มิชเชล นอกจาก 71 แต้มที่เขาทะลวงฟันไปจนเป็นภาพติดตาแล้ว ในฤดูกาลนี้เขายังเล่นด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมที่สุดในอาชีพพร้อมกับพัฒนาเกมรับจนรั้งอันดับสี่ของสายตะวันออกไปได้ด้วย

อีกคนในทีมสองก็คือ สเตฟเฟน เคอร์รี ที่แม้จะพลาดไปหลายเกมเนื่องจากอาการบาดเจ็บแต่เมื่อเขาลงเล่นฟอร์มของเขาจะดีสุดๆทั้งการตัดสินใจและประสิทธิภาพโดยเฉพาะเรื่องการยิงสามแต้มที่สูงถึง 42.6 เปอร์เซนต์ จากการยิง 11.4 ครั้งต่อเกม

ลิลลาร์ดและฟ็อกซ์คือสองคนสุดท้ายที่ผมเลือกมาอยู่ทีมที่สาม อย่างที่เรารู้ว่า เดเมียน ลิลลาร์ด ลงเล่นค่อนข้างน้อยและทีมไปได้ไม่ถึงไหนแต่หากดูประสิทธิภาพของเขาแล้วเราก็จะเห็นได้ว่าตัวเขาเหมาะสมแค่ไหน ซึ่งเราจะโทษเขาก็ไม่ได้เพราะทีมสร้างมาไม่ดีพอจริงๆ แถมเขายังเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีเกมรุกเดือดที่สุดใน NBA อีกคนในหลายมาตราวัดเช่น EPM และอีกหลายอย่างเลยทีเดียว

ฟ็อกซ์กับการเข้าพา คิงส์ เข้ารอบเพลย์ออฟไปได้ในรอบ 16 ปี แค่นี้ก็มากพอแล้วที่จะทำให้เขาติด All-NBA ทีมสาม บวกกับการได้ฉายาราชาควอเตอร์สี่ในปีนี้ทำให้ผมเลือกเขาขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งนี้ 

ฟอร์เวิร์ดของ All-NBA ทีมหนึ่ง, สองและสาม

Giannis Antetokounmpo 030623
(NBAE via Getty Images)
  • ทีมแรก: ยานนิส อันเทโทคุมโป, เจย์สัน เททัม
  • ทีมสอง: เควิน ดูแรนท์, จิมมี บัตเลอร์
  • ทีมสาม: คาไว เลียวนาร์ด, เลบรอน เจมส์

การเลือกฟอร์เวิร์ดทีมแรกของ All-NBA ถือว่าเป็นอะไรที่ง่ายที่สุดแล้วในครั้งนี้เพราะทั้ง ยานนิส และ เททัม ต่างก็เป็นหนึ่งในตัวเต็ง MVP ในฤดูกาลนี้ทั้งนั้นบวกกับ บัคส์ และ เซลติกส์ ยังเป็นทีมอันดับหนึ่งและสองของทั้งลีกก็เป็นเรื่องยืนยันได้ชัดเจนมากพอแล้วว่าพวกเขาเหมาะสมแค่ไหนสำหรับการอยู่ในทีมแรก 

ถ้าให้เพิ่มเติมอีกนิดก็คือในฤดูกาลนี้ เจย์สัน เททัม ยังเป็นผู้เล่นที่สามารถทำแต้มรวมได้มากสุดในฤดูกาลนี้ด้วยที่ 2,225 คะแนน

ตัดมาที่ทีมสองก็คือ เควิน ดูแรนท์ ที่แม้จะพลาดไปถึง 30 เกม (ซึ่งแน่นอนว่ามันขาดไปไม่น้อย) แต่เมื่อเขาสมบูรณ์และลงเล่นได้เขาคือผู้เล่นสุดยอดฝีมือห้าอันดับแรกของลีกอย่างแน่นอน ไม่มีใครหยุดเกมรุกเขาได้ไม่ว่าจะเป็นตรงจุดไหนของสนามแล้วเขายังทำเรื่องเกมรับอยู่ได้เหนือค่าเฉลี่ยของลีกเช่นกัน

ส่วน บัตเลอร์ และ เลียวนาร์ด นั้นคู่คี่สูสีกันมากๆสำหรับผู้เล่นที่มีผลกระทบมากที่สุดกับทีมหากวัดจากค่า EPM เพราะทั้งคู่ต่างเป็นผู้เล่นเกมรับที่ดีและมีประสิทธิภาพมากๆในเกมรุก แน่นอนว่าตั้งแต่เปลี่ยนปฎิทินมาเป็นปี 2023 คาไว เลียวนาร์ด มีฟอร์มที่โดดเด่นมากๆแต่ก็ต้องขอยกทีมสองให้ บัตเลอร์ เพราะว่าเขามีความสม่ำเสมอมากกว่าเล็กน้อยและยังลงเล่นมากกว่า คาไว เลียวนาร์ด

ส่วนตำแหน่งสุดท้ายก็คือ เลบรอน เจมส์ ที่แม้อายุจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแต่ฟอร์มกลับไม่แย่ลงเลยด้วยค่าเฉลี่ย 28.8 แต้ม, 8.4 รีบาวด์ และ 6.8 แอสซิสต์ บวกกับการพา เลเกอร์ส ขึ้นมาติดเพลย์อินอันดับบนสุดได้อีกครั้งก็ถือว่าดีพอแล้วที่จะติดในทีมสามของ All-NBA

เซนเตอร์ของ All-NBA ทีมหนึ่ง, สองและสาม

Nikola Jokic (Denver Nuggets)
Getty Images
  • ทีมแรก: นิโคลา โยคิช
  • ทีมสอง: โจเอล เอ็มบีด
  • ทีมสาม: โดมันทาส ซาโบนิส

สำหรับสองตำแหน่งแรกระหว่าง โยคิช และ เอ็มบีด ก็คล้ายๆกับโยนเหรียญหัวก้อยเพราะทั้งสองคนคือผู้เล่นที่มีสิทธิ์จะได้ MVP ทั้งคู่และสามารถพูดได้ว่าเป็นผู้เล่นสองคนที่ฟอร์มสุดยอดที่สุดในฤดูกาลนี้แถมด้วยทั้งสองทีมจบฤดูกาลปกติที่ใกล้เคียงกันมากๆอีกด้วย

หากจะเปรียบเทียบแล้ว เอ็มบีด ค่อนข้างได้เปรียบเกมรับมากกว่าส่วน โยคิช สามารถสร้างผลกระทบในเกมรุกได้มากกว่าและลงเล่นมากกว่าเอ็มบีด แถมมันค่อนข้างยากจริงๆที่ผมจะปฏิเสธ โยคิช เมื่อเขาทำค่าเฉลี่ยใกล้เคียง ทริปเปิล-ดับเบิล และมีฟิลด์โกลที่ 63.2 เปอร์เซนต์ และ 3 คะแนนที่ 38.3 เปอร์เซนต์

เราไม่ได้บอกว่า เอ็มบีด แย่ในเรื่องเกมรุกเพราะเขาก็สุดยอดไม่แพ้กันเพราะมีตัวเลขมากมายที่ยืนยันเช่นการทำ 101 แต้มใน 24 ชั่วโมง, การเป็นผู้เล่นทำแต้มเฉลี่ยต่อเกมสูงสุดในฤดูกาลนี้และยังสามารถพาทีมมีเกมรับอันดับ 8 ของลีกแต่ผมคงต้องให้เขาอยู่ทีมสองในฤดูกาลนี้

ส่วนพื้นที่สุดท้ายก็ต้องยกให้ ซาโบนิส ที่เป็นผู้นำในเกมรุกของ คิงส์ จนสามารถพาทีมเข้ารอบเพลย์ออฟไปจนได้ในรอบ 16 ปี และเขาคือหนึ่งเหตุผลใหญ่ๆที่ว่าทำไม คิงส์ ถึงมีเกมรุกเป็นอันดับที่หนึ่งของลีก

สรุปทีม All-NBA ทั้งสามทีม

ตำแหน่ง ทีมแรก ทีมสอง ทีมสาม
การ์ด ลูก้า ดอนซิช โดโนแวน มิชเชล เดเมียน ลิลลาร์ด
การ์ด เช กิลเจียส-อเล็กซานเดอร์ สเตฟเฟน เคอร์รี เดอารอน ฟ็อกซ์
ฟอร์เวิร์ด ยานนิส อันเทโทคุมโป เควิน ดูแรนท์ เลบรอน เจมส์
ฟอร์เวิร์ด เจย์สัน เททัม จิมมี บัตเลอร์ คาไว เลียวนาร์ด
เซนเตอร์ นิโคลา โยคิช โจเอล เอ็มบีด โดมันทาส ซาโบนิส

 NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัด คลิกเลย  

Stephen Noh

Stephen Noh Photo

Stephen Noh started writing about the NBA as one of the first members of The Athletic in 2016. He covered the Chicago Bulls, both through big outlets and independent newsletters, for six years before joining The Sporting News in 2022. Stephen is also an avid poker player and wrote for PokerNews while covering the World Series of Poker from 2006-2008.