54 แต้มที่ เมดิสัน สแควร์ การ์เด้น : การแจ้งเกิดที่ทำให้ทั่วโลกรู้จัก ‘สเตฟเฟน เคอร์รี’

Stephen Noh

54 แต้มที่ เมดิสัน สแควร์ การ์เด้น : การแจ้งเกิดที่ทำให้ทั่วโลกรู้จัก ‘สเตฟเฟน เคอร์รี’ image

อาจจะเป็นเรื่องที่จินตนาการยากซักหน่อยในวันนี้ถ้าเราจะบอกว่า สเตฟเฟน เคอร์รี ไม่ใช่คนที่ถูกพูดถึงเลยแม้แต่นิดเดียวว่าเขาจะเป็นหนึ่งในสุดยอดผู้เล่นตลอดกาลของ NBA

ในช่วงแรกๆที่เขาเล่นในลีก ค่าเฉลี่ยของเขาก็ดูเหมือนผู้เล่นปกติที่มีฟอร์มการเล่นคงที่ทั่วไปที่ 17.5 ต่อปีในสามฤดูกาลแรก เขาดูธรรมดามากซะจนเคยเป็นตัวสำรองให้กับ เอซี ลอว์ การ์ดสายพเนจรในลีกเลยด้วยซ้ำในฤดูกาล 2010-11

แต่ทว่าการพูดถึง เคอร์รี ก็เปลี่ยนไปหลังจากที่เขาระเบิดฟอร์มทำคะแนนสูงสุดในอาชีพ ณ เวลานั้นที่ 54 แต้มใน เมดิสัน สแควร์ การ์เด้น รังเหย้าของ นิวยอร์ก นิกส์ ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ปี 2013 

“สำหรับหลายคนที่ตั้งคำถามกับการ์ดสูง 6 ฟุต 3 น้ำหนัก 185 ปอนด์คนนี้ว่าเขาจะมีประสิทธิภาพในลีกนี้จริงๆหรอ? เขาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่านั่นไม่ใช่ปัญหา” ดอริส เบิร์ค ได้กล่าวเอาไว้ตอนที่เกมนี้ออกอากาศอยู่

ในคืนนั้น เคอร์รี กดไปทั้งหมด 54 แต้ม จากการยิงฟิลด์โกลลงไป 18 จาก 28 ลูก รวมถึงการซัด 3 คะแนน ลงไปถึง 11 จาก 13 ลูก พร้อมกดลูกโทษแบบเพอร์เฟกต์ลงไป 7 จาก 7 ครั้ง แถมด้วย 7 แอสซิสต์ และ 3 สตีล ที่ตอกย้ำค่ำคืนอันสุดยอดของตัวเขาเข้าไปอีก

ทั้ง เรย์มอนด์ เฟลตัน, พาโบล พริจิโอนี และ อิมาน ชัมเพิร์ต ต่างหมุนเวียนเปลี่ยนหน้าสลับกันมาปิดเขา แต่ทว่าไม่มีใครเลยที่จะทำให้ฟอร์มอันร้อนแรงของเขาหายไป

หลังจากที่ร่ายยาวมานาน เราจะมาทบทวนความจำกันสักหน่อยว่ามีอะไรบ้างรึเปล่าที่เราอาจจะลืมไปในค่ำคืนแห่งความทรงจำของ สเตฟเฟน เคอร์รี

เพื่อนร่วมทีมที่หายไปในเกมที่ เคอร์รี ระเบิดฟอร์ม

วอร์ริเออร์สมีฤดูกาลที่ดีในฤดูกาลนั้น จากการจบอันดับที่ 13 ในฤดูกาลก่อนหน้าจนขยับขึ้นมาอันดับ 6 ในฤดูกาลถัดมา แต่คู่ต่อสู้ของเขาคือ นิวยอร์ก นิกส์ ที่เก็บชัยชนะได้ถึง 54 เกมและเป็นอันดับสองของสายตะวันออกเป็นรองแค่ ไมอามี ฮีต ของ เลบรอน เจมส์ เท่านั้น

แม้ เคอร์รี จะกดไปถึง 54 แต้ม แต่ทว่าเพื่อนร่วมทีมของเขากลับไม่สามารถสร้างผลงานได้น่าประทับใจเท่าไหร่ เพราะมีแค่ คาร์ล แลนดรี (15 แต้ม) และ จาร์เร็ตต์ แจ็ค (14 แต้ม) เท่านั้น ที่สามารถทำแต้มได้ถึงสองหลักโดยที่ตัวจริงนอกจาก เคอร์รี ทำแต้มรวมกันได้เพียง 13 คะแนนเท่านั้น

ในช่วงท้ายเกม เคอร์รี สามารถตีเสมอ นิกส์ ไปได้ในช่วงสองนาทีสุดท้าย แต่เขากลับถูกบล็อกในการยิงครั้งถัดไป แถมเพื่อนของเขายังเทิร์นโอเวอร์ถึงสองครั้งติดจนทำให้ เจอาร์ สมิธ และ คาร์เมโล แอนโทนี ทำแต้มไปได้และพา นิกส์ ชนะไปในที่สุด 109-105 คะแนน

การทำ 54 แต้มของ เคอร์รี คือเกมที่ดีที่สุดใน NBA ฤดูกาลนั้น

การทำ 54 แต้มของ เคอร์รี เป็นการทำแต้มมากที่สุดในฤดูกาล 2012-13 ซึ่งในตอนนั้นการทำระดับ 54 แต้มหรือมากกว่ามันเป็นอะไรที่หาได้ยากมากๆ ไม่เหมื่อนกับในปัจจุบันนี้

ในปัจจุบันมีผู้เล่นเพียงสามคนเท่านั้นที่สามารถทำแต้มใน เมดิสัน สแควร์ การ์เด้น ได้มากกว่า เคอร์รี ก็คือ ไมเคิล จอร์แดน ที่ทำไป 55 แต้ม และ โคบี ไบรอันท์ กับ เจมส์ ฮาร์เด้น ที่ทำไว้ระดับ 61 แต้เลยทีเดียว

นอกจากนั้นการยิง 3 คะแนน ลงไปถึง 11 ลูกยังเป็นสถิติของ วอร์ริเออร์ส ในตอนนั้นอีกด้วย ก่อนที่เขาจะทำลายมันลงไปในปี 2016 ที่กด 3 คะแนนในเกมเดียวไป 13 ลูก แต่สุดท้ายก็โดนเพื่อนร่วมทีม อย่าง เคลย์ ทอมป์สัน ทำลายไปได้อีกครั้งที่ 14 ลูก

มนุษย์เหล็ก สเตฟเฟน เคอร์รี

ในตอนนั้น เคอร์รี ได้กลับมาจากอาการบาดเจ็บข้อเท้าในฤดูกาลก่อนหน้าที่หลายๆฝ่ายเป็นค่อนข้างเป็นห่วง แต่เขากลับลงเล่นถึง 78 เกมในฤดูกาล 2012-13 พร้อมกับทำสถิติลงเล่นสูงสุดตลอดอาชีพไป 38.2 นาทีต่อเกม

มากไปกว่านั้น เคอร์รี ยังมีการลงเล่นเฉลี่ยถึง 42 นาทีต่อเกมในช่วงสามเกมในสี่คืนหลังจากที่เจอกับ นิกส์ แต่ถึงแม้ว่าจะลงด้วยนาทีที่เยอะขนาดนั้น ประสิทธิภาพของเขากลับไม่ลดลงเลย โดยทำค่าเฉลี่ยไปถึง 33.8 แต้มต่อเกม พร้อมด้วยการทำแต้มระดับ 50.0/50.0/93.8 เลยทีเดียวในช่วงสี่เกมนี้

Steph Curry against the Knicks in 2013

เคอร์รียังไม่ได้รับการยอมรับมากนักจากทั่วประเทศ

แฟนๆ วอร์ริเออร์ส คงรู้ดีอยู่แล้วว่าว่าที่สตาร์รายนี้กำลังจะกลายเป็นดาวของ NBA แต่มันกลับไม่ใช่กันแฟนๆ NBA ทั้ง 29 ทีม

ในปีนั้น เคอร์รี ต้องพลาดการติด All-Star ก่อนที่จะต้องลงเล่นกับ นิกส์ เพียงสองสัปดาห์ แม้ว่า เคอร์รี จะทำค่าเฉลี่ยไป 21.0 แต้ม, 6.6 แอสซิสต์, 4.0 รีบาวด์ และ 1.6 สตีลต่อเกมก่อนจะถึงช่วงพักสัปดาห์ All-Star ซึ่งแทนที่จะเป็น เคอร์รี ในตอนนั้น กลับกลายเป็น เดวิด ลี ฟอร์เวิร์ดหน้าหล่อของทีมที่ติดเกม All-Star ไปได้ในครั้งนั้นแทน

จนถึงตอนนี้กาลเวลาก็ได้พิสูจน์แล้วว่าตัวของเขาคือหนึ่งในสุดยอดผู้เล่นของ NBA ตลอดกาลจนกลายเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกและกลายเป็นแบบอย่างให้เด็กๆหรือผู้เล่นรุ่นหลังหลายๆคน

NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัด คลิกเลย

Stephen Noh

Stephen Noh Photo

Stephen Noh started writing about the NBA as one of the first members of The Athletic in 2016. He covered the Chicago Bulls, both through big outlets and independent newsletters, for six years before joining The Sporting News in 2022. Stephen is also an avid poker player and wrote for PokerNews while covering the World Series of Poker from 2006-2008.