ผู้เล่นหลายคนในปีนี้พัฒนาไปได้ไกล บ้างก็เกมรุก บ้างก็เกมรับ หรือจะสามารถคงฟอร์มระดับเอ็มวีพีเอาไว้ได้ก็มีให้เห็น แต่ไม่ใช่ผู้เล่นทุกคนที่จะเล่นแล้วดีขึ้นทุกปี ในบทความนี้เราได้วิเคราะห์ 5 ผู้เล่นชื่อดังแต่ฟอร์มยังไม่น่าประทับใจหลังจากผ่านไป 1 ส่วน 4 ของ 82 เกมในฤดูกาลนี้
ความน่าผิดหวังของแต่ละผู้เล่นจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่ว่าใครจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหนแล้วผลงานเป็นอย่างไร ตอบสนองความต้องการของทีมได้หรือไม่ ในรายชื่อด้านล่างจะมีใครกันบ้างและมีผู้เล่นจากทีมที่คุณเชียร์อยู่รึเปล่า? ติดตามได้ที่นี่
NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัด คลิกเลย
1. แซค ลาวีน, ชิคาโก้ บูลส์
ฟอร์มการเล่นของแซค ลาวีนไม่ค่อยดีนักในฤดูกาลนี้ ถึงแม้จะพึ่งต่อสัญญาระดับสูงสุดไปเมื่อช่วงปิดฤดูกาล 2022 ก็ตาม บอร์ดบริหารรวมถึงแฟนๆคาดหวังกับความมีประสิทธิภาพในการทำคะแนนของแซค ลาวีน แต่เขากลับไม่สามารถทำได้ในช่วงต้นฤดูกาลและตอนนี้ชิคาโก้ บูลส์ก็ยังจมท้ายอยู่อันดับที่ 12 ของสายตะวันออกด้วยสถิติชนะ 9 แพ้ 14
ตารางเปรียบเทียบสถิติของลาวีน
สถิติ | 2021-22 | 2022-23 |
แต้มต่อเกม | 24.4 | 22.0 |
โอกาสการยิงฟิล์ดโกล | 17.7 | 18.3 |
เปอร์เซนต์ ฟิล์ดโกล | 47.6% | 42.2% |
เปอร์เซนต์ 2 คะแนน | 53.4% | 47.9% |
เปอร์เซนต์ 3 คะแนน | 38.9% | 35.1% |
ประเด็นที่สังเกตได้ชัดเจนคือแต้มต่อเกมที่น้อยลงของลาวีน แต่ถ้าเราเจาะเข้าไปอีกนิดจะเห็นว่าประสิทธิภาพของเขาต่ำลงมากว่าปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด
แต้มต่อเกมของลาวีนตกลงทั้งๆที่มีโอกาสยิงที่เพิ่มมากขึ้น เปอร์เซนต์ฟิล์ดโกลก็น้อยที่สุดตั้งแต่ตัวเขาเป็นรุกกี้ในฤดูกาล 2014-15 ส่วนเรื่องการยิง 3 คะแนนที่เขาทำได้ดีมาตลอดในช่วง 3 ปีหลังที่ไม่เคยต่ำกว่า 38 เปอร์เซนต์กลับร่วงลงมาอยู่ที่ 35 เปอร์เซนต์เท่านั้น
ในปีนี้การทำคะแนนระยะ 2 แต้มของลาวีนไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ส่วนหนึ่งอาจจะต้องบอกว่าเขาเข้าใต้แป้นน้อยกว่าปีก่อนและเพื่อนร่วมทีมยิง 3 แต้มได้ไม่ดีนักจึงลดพื้นที่การข้ามเข้าหาห่วงลงไป แต่เขาควรจะทำได้ดีกว่านี้เพราะนี่คือเปอร์เซนต์ที่น้อยที่สุดตั้งแต่เขาย้ายมาร่วมทีมกับ ชิคาโก้ บูลส์
อีกหนึ่งคำถามที่ยังไม่มีใครหาคำตอบได้ก็คืออาการบาดเจ็บของลาวีนตรงเข่าซ้ายยังมีอาการอยู่หรือไม่หลังจากที่ผ่าตัดไปในช่วง 7 เดือนที่แล้วเพราะตอนนี้ต้องยอมรับว่าฟอร์มการเล่นของเขาแย่ลงขริงๆ
2. จอร์แดน พูล, โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส
จอร์แดน พูลคืออีกคนหนึ่งที่ถูกแฟนๆตั้งควาหวังไว้เพราะเขาคือปัจจัยสำคัญอีกจุดหนึ่งที่ทำให้วอร์ริเออร์สคว้าแชมป์ได้ในปี 2022 จนได้รางวัลเป็นการต่อสัญญาที่ (อาจจะ) สูงถึงระดับ 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเป็นระยะเวลา 4 ปี แต่เขาก็ยังไม่ได้มีผลงานที่น่าชื่นชมมากนัก แม้จะมีบางนัดที่ทำระดับ 25 แต้มขึ้นไปบ้างก็ตาม
ตารางเปรียบเทียบสถิติของพูล
สถิติ | 2021-22 | 2022-23 |
แต้มต่อเกม | 18.5 | 17.0 |
โอกาสการยิงฟิล์ดโกล | 13.9 | 13.7 |
เปอร์เซนต์ ฟิล์ดโกล | 44.8% | 43.6% |
เปอร์เซนต์ 2 คะแนน | 55.0% | 54.9% |
เปอร์เซนต์ 3 คะแนน | 36.4% | 33.3% |
ถึงแม้ว่าตัวเลขจะไม่มีความแตกต่างกับปีที่แล้วยกเว้น แต้มต่อเกมและเปอร์เซนต์ 3 คะแนนที่ลดลงมาจากปีก่อนด้วยการยิงที่ใกล้เคียงกัน แต่ถ้าเรามองสถานการณ์ของทีม ณ ตอนนี้ ทีมต้องการให้พูลยกระดับตัวเองขึ้นมาให้ได้มากกว่าปีก่อนซึ่งตอนนี้ตัวเลขไม่ได้ชี้ไปทางนั้นเลย
อีกอย่างหนึ่งคือเกมรับที่ยังไม่ได้มีการพัฒนาที่เด่นชัดขึ้นจนตอนนี้หลายคนเริ่มตั้งคำถามกับสัญญาก้อนโตที่เขาเพิ่งได้ไปในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมาว่ามันคุ้มแล้วจริงๆหรือ ?
3. เทร ยัง, แอตแลนต้า ฮอว์กส์
สำหรับยังจะพูดว่าฟอร์มน่าผิดหวังก็คงพูดได้ไม่เต็มปาก แต่หากจะชี้ไปจุดหนึ่งที่มันค่อนข้างส่งผลกระทบกับทีมนั่นก็คือ เปอร์เซนต์การยิง 3 คะแนนของเขาเอง
ตารางเปรียบเทียบสถิติของยัง
สถิติ | 2021-22 | 2022-23 |
แต้มต่อเกม | 28.4 | 21.6 |
โอกาสการยิงฟิล์ดโกล | 20.3 | 21.6 |
เปอร์เซนต์ ฟิล์ดโกล | 46.0% | 40.8% |
เปอร์เซนต์ 2 คะแนน | 51.2% | 46.5% |
เปอร์เซนต์ 3 คะแนน/จำนวนการยิงต่อเกม | 38.2%/8.0 | 29.6%/7.4 |
แอสซิสต์/เทิร์นโอเวอร์ | 9.7/4.0 | 9.6/3.5 |
หากดูจากสถิติทั้งแต้มและแอสซิสต์ที่เป็นจุดเด่นของเขานั้นยังทำได้ดีเหมือนเดิม แต่ที่ลดลงไปมันคือประสิทธิภาพในการทำแต้มมากกว่า
ตอนนี้ฮอว์กส์รั้งอันดับที่ 4 ของสายตะวันออกอยู่ด้วยสถิติชนะ 13 แพ้ 11 ซึ่งดูดีกว่าปีที่แล้วค่อนข้างมากแต่เรตติ้งเกมบุกของพวกเขากลับลดฮวบอย่างน่าใจหายเพราะตอนนี้อยู่อันดับที่ 21 ของลีกหากอ้างอิงจาก NBA.com
ในฤดูกาล 2021-22 เกมรุกของพวกเขาอยู่ในอันดับ 2 ของลีก ส่วนฤดูกาล 2020-21 อยู่อันดับที่ 9 สถิตินี้ชี้ให้เห็นว่าเกมรุกที่มียังเป็นแกนกลางนั้นน่ากลัวมากๆ แต่ทว่าการยิง 3 คะแนนด้วยจำนวนที่มากถึง 7.4 ครั้งต่อเกมแต่เปอร์เซนต์ที่ยิงลงมีเพียงแค่ 29.6 เปอร์เซนต์ จึงทำให้ความน่ากลัวของฮอว์กส์น้อยลงไปอย่างเห็นได้ชัด เพราะว่ายังจะไม่สามารถกดดันคู่แข่งจากการยิงแบบ พูลอัพ ได้เหมือนเดิม เกมรับของอีกฝั่งก็อาจจะปล่อยให้เขายิงและไปซ้อนด้านในมากขึ้น ซึ่งผลกระทบมันต่อกันเป็นลูกโซ่
แต่เพื่อความแฟร์ เทร ยังไม่ใช่ปัญหาเดียวในเกมรุกเพราะยังมีเรื่องของการโค้ชจากเนท แมคมิลแลนหรือจะเป็นการเล่นเกมมิดเรนจ์ของเมอร์เร่ ที่ยิงบ่อยแต่ไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่าไหร่นัก และอื่นๆอีกแต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทร ยังคือหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ฮอว์กส์เกมรุกแย่ลงเช่นกัน
4. อาร์ เจ แบร์เร็ท, นิวยอร์ก นิกส์
หลายๆคนคาดหวังให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นสตาร์ของทีม แต่ตอนนี้ดูเหมือนแสงสว่างนั้นกลับมืดลงไปในทุกเกมที่เขาลงเล่น
ตารางเปรียบเทียบสถิติของแบร์เร็ท
สถิติ | 2021-22 | 2022-23 |
แต้มต่อเกม | 20.0 | 18.4 |
โอกาสการยิงฟิล์ดโกล | 17.1 | 15.7 |
เปอร์เซนต์ ฟิล์ดโกล | 40.8% | 40.6% |
เปอร์เซนต์ 3 คะแนน/จำนวนการยิงต่อเกม | 34.2%/5.8 | 28.2%/5.5 |
แอสซิสต์ | 3.0 | 3.0 |
สถิติของแบร์เร็ทบ่งบอกทุกอย่างเกี่ยวกับเกมรุกไปหมดแล้ว ด้วยการที่เป็นดราฟท์อันดับ 3 ในปี 2019 และเล่นมาแล้ว 3 ปี ปีนี้คือปีที่ 4 แต่ประสิทธิภาพการทำแต้มของเขากลับจมอยู่ที่เดิม
การเล่นของแบร์เร็ทไม่มีอะไรที่บ่งชี้ว่าเป็นสตาร์หรือพัฒนาขึ้นเลยทั้งเรื่องการทำแต้ม, แอสซิสต์ หรือเปอร์เซนต์ฟิล์ดโกลที่มีแค่ 41 เปอร์เซนต์เท่านั้น แต่ที่แย่หนักว่านั้นคือ 3 คะแนนที่เปอร์เซนต์ลดฮวบฮาบทั้งๆที่มีการยิงเท่าเดิม การจบแต้มใต้แป้นกลายเป็นความยากของเขาเพราะไม่สามารถจัดการบาลานซ์เมื่อเจอการปะทะได้ตอนเข้าทำใต้แป้น
นอกจากนั้นหากพูดถึงเกมรับด้วยไซส์ 6 ฟุต 8 เขาสามารถเป็นได้ทั้งคนที่ป้องกันคนถือบอลหรือปิดปีกของฝ่ายตรงข้ามแต่เขายังไม่สามารถพัฒนาจุดนี้ให้เป็นจุดเด่นได้แถมเกมรับของเขาหากวัดจากสายตาก็อาจจะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของลีกด้วยซ้ำ นี่จึงเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังมากๆของแบร์เร็ทในปีนี้
5. คาร์ล แอนโทนี ทาวน์ส, มินเนโซต้า ทิมเบอร์วูล์ฟส์
คาร์ล ทาวน์สมีปัญหาในเกมรุกอยู่บ้างแต่ไม่ได้เด่นเท่ากับเกมรับของเขาเมื่อต้องเล่นคู่กับโกแบร์
ตารางเปรียบเทียบสถิติของทาวน์ส
สถิติ | 2021-22 | 2022-23 |
แต้มต่อเกม | 24.6 | 20.8 |
โอกาสการยิงฟิล์ดโกล | 16.4 | 14.4 |
เปอร์เซนต์ ฟิล์ดโกล | 52.9% | 50.5% |
เปอร์เซนต์ 3 คะแนน/จำนวนการยิงต่อเกม | 41.0%/4.9 | 32.5%/5.6 |
แอสซิสต์ | 3.6 | 5.3 |
สถิติที่ชัดที่สุดคงเป็นการยิง 3 คะแนนที่น้อยลงมาอย่างชัดเจน ซึ่งนี่คือเปอร์เซนต์ที่แย่ที่สุดหากนับตั้งแต่ฤดูกาลที่สองของเจ้าตัว (ไม่นับฤดูกาลแรกเพราะเขายิงเพียง 1.1 ครั้งต่อเกมอาจจะใช้วัดอะไรไม่ได้) แต่สิ่งที่ดีขึ้นคือการแอสซิสต์ของเขาที่เพิ่มขึ้นเพราะรับบทบาทเป็นฟอร์เวิร์ดมากขึ้นนั่นเอง
สิ่งที่น่าผิดหวังที่สุด (แต่ไม่ใช่เรื่องเหนือคาด) ก็คือการเล่นเกมรับวงนอกของทาวน์สเมื่อเขาลงพร้อมโกแบร์ เราเห็นได้หลายต่อหลายครั้งที่เขาเองไม่สามารถจะต้านทานความเร็วและความคล่องของคู่แข่งได้ หรือตอนที่โรเตชั่นเพื่อไปประกบก็ยังมีความเข้าใจไม่ตรงกับทีม พอเราผนวกรวมเรื่องนี้กับ 3 แต้มพร้อมกับที่วูล์ฟส์อยู่อันดับที่ 11 ของสายตะวันตกก็คงบอกได้ว่าปัญหาส่วนหนึ่งอยู่ที่เขาเช่นกัน
และเพื่อความแฟร์ ในตอนนี้คริส ฟินซ์ยังคงหาคำตอบไม่ค่อยได้หากต้องใช้หอคอยคู่ในเกมรุกและรับ และตอนนี้ยังมีคนตั้งคำถามว่าทำไมบอร์ดบริหารถึงยอมเอาโกแบร์มาทั้งๆที่รู้ว่าทาวน์สและโกแบร์เล่นเกมรับวงนอกได้ไม่ดีทั้งคู่ในยุคที่ตำแหน่ง 4 คล่องแคล่วและยิง 3 แต้มกันได้ทุกทีม
นี่ไม่ใช่แค่ความผิดของทาวน์สแต่อาจจะเป็นสิ่งที่ผิดพลาดตั้งแต่บอร์ดบริหารก็ว่าได้หากเราดูในช่วง 20 กว่าเกมแรกนี้
อ่านเรื่อง ทำความเข้าใจ NBA League Pass ช่องทางสำหรับรับชมบาสเกตบอลเอ็นบีเอ คลิก