ผลงานฤดูกาล 2021-2022 : ชนะ 24 แพ้ 58 เกม
ผู้เล่นเข้ามาใหม่ที่สำคัญ : เชท โฮล์มเกรน, อุสมาน เดียง และ จาเลน วิลเลียมส์
ผู้เล่นคนสำคัญที่เสียไป : เดอร์ริค เฟเวอร์ส
ภาพรวมชองทีมของทีมโอเคซี
โอคลาโฮม่า ซิตี้ ธันเดอร์ เข้าสู่กระบวนการสร้างทีมใหม่เป็นปีที่ 3 แต่หลายอย่างอาจหยุดชะงักลงไปเพราะ เชท โฮล์มเกรน ฟอร์เวิร์ดตัวความหวังที่พวกเขาดราฟท์เข้ามาเป็นอันดับที่ 2 ดันบาดเจ็บพักยาวทั้งฤดูกาล แต่ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็นอะไรดีๆจากกลุ่มผู้เล่นที่ยังเหลืออยู่
สรุปฤดูกาลที่แล้ว : ธันเดอร์ คือทีมที่เปลี่ยนผู้เล่นองค์ประกอบเข้าๆออกๆบ่อยมาก พวกเขาใช้เวลา 2 ปีกับการกลั่นกรองคัดเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับการสร้างทีมระยะยาวมาโดยตลอด เราจะเห็นเพียงแกนหลักสำคัญอย่าง ไช กิลเจียส-อเล็กซานเดอร์, ลูดอร์ท. เดเรียส บาซลี่ย์ และ จอช กิดดี้ย์ เท่านั้น ที่ดูมีแนวโน้มว่าทีมจะคงเก็บไว้ใช้งาน และภารกิจการสร้างตัวตนกับอัตลักษณ์ใหม่ของทีมยังคงต้องดำเนินต่อไป
บทสรุปช่วฤดูร้อน : ถือเป็นช่วงเวลาที่ชาวเมืองโอคลาโฮม่าได้รื่นเริงกันชั่วครู่ หลังจากทีมประกาศเลือก โฮล์มเกรน เข้ามาในการดราฟท์ แต่พอเข้าสัปดาห์การแข่งขันบาส Pro-Am ในเดือนสิงหาคม จากความหวังที่จะปีนกลับเข้าสู่เพลย์ออฟเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ก็กลายเป็นการทำใจว่าอาจต้องเห็นทีมชนะในระดับไม่เกิน 30 เกมอีกครั้ง
โฮล์มเกรนมีโอกาสจะกลับมาได้เหมือนสุดยอดผู้เล่นอย่าง เบล็ค กริฟฟิน, โจเอล เอมบีด หรือแม้แต่ เบน ซิมม่อนส์ สตาร์เหล่านี้เคยพลาดปีรุกกี้แต่สามารถกลับมาโชว์ผลงานสุดคุ้มค่าแห่งการรอคอยให้กับแฟนๆได้เห็น แต่อีกทางถ้าหากโฮล์มเกรนกลับมาแล้วไม่หมือนเดิม การดราฟท์อันดับ 2 หนนี้ของพวกเขาอาจกลายเป็นเรื่องโชคร้ายที่สุดครั้งหนึ่งของแฟรนไชส์
พัฒนาเกมบุกต่อไปอีกปี
พอเสียโฮล์มเกรนไปพวกเขาอาจจะต้องกลับมาตั้งหลักกับการค่อยๆเดินไปข้างหน้าอีกครั้งในฤดูกาลนี้ เพราะอย่าลืมว่าพวกเขายังถือสิทธิดราฟท์ในอนาคตอีกหลายครั้ง แม้ว่าจะมีสิทธิรอบแรกแค่หนเดียวในปี 2023
ดังนั้นภารกิจระหว่างรอ ทีมจะต้องพัฒนาเกมบุกให้ดีขึ้นหลังจากฤดูกาลที่แล้วพวกเขามีเรตติ้งเกมบุกแค่ 104.6 รั้งอันดับ 29 จาก 30 ทีม และทำเฉลี่ยต่อเกมส์แค่ 103.7 แต้ม ซึ่งอยู่อันดับล่างสุดของเอ็นบีเอ
เจาะลงไปละเอียดกว่านั้น ความแม่น 3 คะแนนพวกเขาก็อยู่บ๊วยเช่นเดียวกับการได้ชู้ตลูกโทษต่อเกม ขณะที่ฟิลด์โกลระยะ 2 คะแนน อยู่อันดับที่ 27
เรียกว่าประสิทธิภาพเกมบุกไม่ดีเลยจริงๆ ซึ่งปัญหาหลักมาจากการที่พวกเขาไม่มีวงในที่เล่นพื้นที่ใต้แป้นเก่งๆเลย ดังนั้นภาระก็มาตกกับตัววงนอกเป็นหลัก เราเห็น ไช ได้โชว์ผลงานเด็ดบ่อยๆ ส่วนหนึ่งก็เพราะต้องแบกอย่างไม่มีทางเลือก
ตัวอื่นๆจะต้องก้าวขึ้นมาเสริมเรื่องแต้มให้กับทีม ลู ดอร์ท, จอช กิดดี้ย์,ดาเรียส บาซลี่ย์ และ เทร มานน์ อย่างน้อยๆ 1 ใน 4 คนนี้ควรมีระดับการทำแต้มและฟิลด์โกลที่พัฒนาขึ้น จนสามารถรับบทพระรองให้กับทีมได้ และรุกกี้อย่าง จาเลน วิลเลียมส์ อาจโชว์เซอร์ไพรส์ในบทบาทนี้ถ้าหากโค้ชกล้าๆ ให้เวลาเขาลงสนามมากหน่อยตั้งแต่ซีซั่นแรก
พัฒนาการของ จอช กิดดี้ย์
พ่อมดน้อยจากออสเตรเลียมีฟอร์มการเล่นที่น่าจับตามองอย่างมากในฤดูกาลที่แล้ว แต่สิ่งที่มาคู่กับความหวือหวาของเขาคือความไม่คงเส้นคงวาเอาเสียเลย อย่างไรก็นั่นคือรุกกี้วัย 19 ปี เขายังมีโอกาสเติบโตอีกมากและในฤดูกาล 2022-2023 ทีมก็คงหวังเห็นพัฒนาการในบทบาทกระดูกสันหลังของทีมมากขึ้น
กิดดี้ย์คือพวกมีความสามารถรอบด้าน เข้าใจเกม เซ้นส์กีฬาสูง และสิ่งสำคัญคือลักษณะเด่นของความเป็นเพลย์เมกเกอร์ที่สร้างสรรค์เกมได้อย่างน่าอัศจรรย์
ถ้าให้ยกตัวอย่างที่ใกล้เคียงเขาก็เหมือน ราจอน รอนโด้ สมัยอยู่กับบอสตัน เซลติกส์ ซึ่งรายล้อมด้วยอาวุธหนักให้เลือกสรรใช้งานทั้ง พอล เพียร์ซ, เควิน การ์เน็ตต์ และ เรย์ อัลเล่น บทบาทของรอนโด้ตอนนั้นคือการบริหารจัดการให้เกมบนคอร์ตลงตัวผ่านจินตนาการและทักษะของเขา
เช่นเดียวกับ กิดดี้ย์ ที่เรามองว่าศักยภาพของเขาเหมือนเป็นศูนย์กลางของทีม โดยที่เจ้าตัวอาจจะไม่ใช่ผู้ทำแต้มหลัก แต่เขาจะต้องมีความสามารถในการเลือกหยิบเพื่อนร่วมทีมมาใช้ ผลักดัน และ ส่งเสริมให้ผู้เล่นรอบตัวของเขาโดดเด่นและเก่งขึ้นได้
หาก กิดดี้ย์ ยกระดับตัวเองในการเป็นตัวสร้างสรรค์ที่เก่งได้ แล้วทีมได้ โฮล์มเกรน กลับมา โอเคซี จะเป็นทีมน่ากลัวในฤดูกาล 2023-2024 อย่างมาก (บวกกับถ้าได้ดราฟท์ท็อปๆในปีนั้นอีก)
เกมรับดีแต่ปัญหาที่มีคือเรื่องรีบาวด์
จากมุมมองของ The Sporting News เราคิดว่าฤดูกาลหน้าพวกเขาควรท้าทายพื้นที่เพลย์ออฟด้วยขุมกำลังที่มีไปเลย เพราะนั่นจะเป็นการแสดงให้ผลลัพธ์ว่า ชุดเดิมๆที่เติบโตมาด้วยกัน 2 ฤดูกาลมีความเปลี่ยนแปลงมากน้อยแค่ไหนแล้ว คือถ้าพลาดก็เสมอตัว ส่วนถ้าทำสำเร็จก็เหมือนเป็นโบนัสของทีมและแฟนๆ
จริงๆแล้วพวกเขาเป็นทีมที่มีเกมรับใช้ได้ ไม่ได้แย่มากเหมือนกับตัวเลขแพ้-ชนะ ผลงานด้านเกมป้องกันของ โอเคซี แทบทุกหมวดอยู่อันดับกลางๆของลีก ทั้งการเสียฟิลด์โกล อยู่อันดับ 13, เสียฟิลด์โกลระยะ 3 คะแนน อันดับ 15, เสียแต้มเฉลี่ยต่อเกมอันดับ 15 และ เรตติ้งเกมรับอยู่อันดับ 18 ของลีก
จุดเดียวที่ฆ่าพวกเขาคือเกมรีบาวด์ เพราะในขณะที่พวกเขารีบาวด์ได้เก่งเป็นอันดับ 6 ของลีกที่ 45.6 ครั้ง แต่แปลกตรงที่ค่าเฉลี่ยเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้ว พวกเขาติดลบ 2.8 ครั้งต่อเกม นั่นสะท้อนว่าในเกมๆหนึ่งที่พวกเขาลงเล่น มีโอกาสเกิดรีบาวด์ขึ้นเยอะทั้งจากการที่ทีมตัวเองชู้ตพลาดและคู่แข่งชู้ตพลาด แต่ถ้ามองกันในภาพรวมแปลว่าพวกเขาทำในส่วนนี้แบบ เสียมากกว่าได้
มองแบบนี้วิธีการแก้มีสองทางที่ทำไปพร้อมกันได้คือ 1 พวกเขาต้องเพิ่มประสิทธิภาพรีบาวด์เกมบุกให้มากขึ้น และ อีกทางคือชู้ตให้แม่นกว่านี้ ซึ่งย้อนกลับไปที่ปัญหาเกมบุกนั่นเอง
ส่วนนี้ทีมอาจได้ประโยชน์จากการเทรด อุสมัน เดียง มาจากนิวยอร์ก นิกส์ แม้ว่าเขาจะเป็นดาวรุ่งที่เพิ่งได้สัมผัสเอ็นบีเอปีแรก แต่อาจช่วยในงานปิดทองหลังพระพวกนี้ได้ดีพอสมควร และอย่าลืมว่าประสบการณ์ 1 ปีกับทีม นิวซีแลนด์ เบรกเกอร์ น่าจะทำให้เขาไม่ตื่นสนามระดับอาชีพมากนัก
บทสรุปของ ธันเดอร์ ในปี 2022-2023
อาจจะดูสวนกระแสแต่เรามองว่าถ้าพวกเขาไม่ตัดสินใจแทงค์ หรือ พยายามส่งผู้เล่นดาวรุ่งเยอะจนเกินความสมเหตุสมผล โอเคซี อาจเป็นม้ามืดที่ทะลุเข้าไปถึงเพลย์อิน หรือ เพลย์ออฟได้ ขอแค่พวกเขาลงสนามแล้วเล่นกันอย่างคึกคัก เหมือนสมัยที่ทีมมีทั้ง เควิน ดูแรนท์, รัสเซลล์ เวสต์บรูค และ เจมส์ ฮาร์เด้น เป็น 3 ประสานดาวรุ่งในช่วงต้นปี 2010
และไม่จำเป็นต้องมองไปไกลจนโฮล์มเกรนกลับมา พวกเขาสามารถสร้างทีมที่แข็งแกร่งรอไว้ได้เลย โดยถึงวันที่ดราฟท์อันดับ 2 ฟื้นตัวเมื่อไหร่ ก็จะเป็นการเพิ่มระดับความแกร่งให้สูงขึ้นอีกขั้น