“น่าผิดหวัง” คำนี้คงใช้ได้กับ ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ ในปีที่ผ่านมา ด้วยการชนะไปเพียง 38 เกมและแพ้ไปถึง 44 เกมในฤดูกาลปกติ แถมยังไม่ได้เข้าเพลย์ออฟอีกต่างหาก แต่สิ่งที่มันน่าหดหู่ใจกว่าเดิมก็คือก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น พวกเขาสามารถทะลุผ่านด่านไปถึงรอบชิงแชมป์สายตะวันตกได้เลยทีเดียว
ในฤดูกาลนี้ที่กำลังจะมาถึง แมฟส์ คงไม่มีข้อแก้ตัวอะไรทั้งนั้นนอกจากต้องเข้าเพลย์ออฟและทะลุไปให้ไกลสถานเดียว ไครีก็ได้ปรับตัวกับทีมแล้ว, เจสัน คิดด์ และทีมผู้บริหารก็ปรับเปลี่ยนผู้เล่นมาเยอะพอตัว เพราะฉะนั้นสิ่งที่พวกเขาต้องนำมาให้แฟนๆก็คือผลงานที่น่าภาคภูมิใจ
นี่จึงเป็นที่มาของบทความนี้ที่เราจะไปวิเคราะห์กันว่า 3 ประเด็นที่ แมฟเวอร์ริกส์ ต้องทำให้ได้เพื่อกลับมาเฉิดฉายอีกครั้งคืออะไร? หากพร้อมแล้ว ติดตามไปกับเราได้ที่นี่
NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก
3 เรื่องที่ต้องทำหาก แมฟเวอร์ริกส์ อยากกลับไปเล่นในเพลย์ออฟ NBA
1. ไครี เออร์วิง และ ลูก้า ดอนซิช ต้องประสานงานกันให้ดี
ไม่มีใครตั้งคำถามเกี่ยวกับความสามารถของ ไครี เออร์วิง ในตอนที่เทรดเข้ามา แต่คำถามใหญ่ที่สุดก็คือ ลูก้า และ ไครี ที่เป็นคนต้องการบอลทั้งคู่นั้นจะเล่นร่วมกันได้ดีมากน้อยแค่ไหน
แม้ว่าทีมจะจบด้วยสถิติชนะ 5 แพ้ 11 เมื่อทั้งสองคนนี้ได้เล่นด้วยกัน แต่ทว่าพวกเขาก็มีเรตติ้งเกมรุกสูงถึง 119.2 แต้มต่อ 100 การครองบอลเลยทีเดียว ซึ่งการจะเล่นคู่กันนี้ ทั้ง เออร์วิง และ ดอนซิช ต้องยอมถอยคนละก้าวหากจะดันประสิทธิภาพของคู่หูตัวเองออกมาได้มากที่สุด
ทางด้าน ดอนซิช ต้องยอมถอยไปเล่นแบบไม่มีบอลมากขึ้น เพื่อให้ทักษะการเลี้ยงบอลและการโจมตีของ เออร์วิง ได้ถูกหยิบยกมาใช้มากขึ้น ส่วน เออร์วิง ก็ต้องคอยหาจังหวะการสอดและการยิงเวลาที่ ดอนซิช ถือบอลให้มากขึ้นเช่นกัน แต่เท่านั้นยังไม่พอเพราะมันอาจเป็นเหมือนกันผลัดการเล่นคนละเพลย์แบบทีใครทีมัน เพราะฉะนั้นทั้งคู่ต้องจึงจำเป็นต้องมีเพลย์ที่เล่นด้วยกันมากขึ้น
ซึ่งตรงนี้โค้ชจะต้องเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการชี้นำทั้งการดูฟิล์มหรือปรับแผนข้างสนาม เช่นสร้างเพลย์ต่างๆที่เล่นได้ทั้งสองในทีเดียวอย่างการสกรีนให้กันจนเกิดช่องว่างหรือเล่น สเปนพิคแอนด์โรล ที่จับทั้งสองคนนี้ไปมีส่วนร่วมด้วยกันมากที่สุด ตรงนี้แหล่ะที่จะทำให้เกมบุกของพวกเขาน่ากลัวขึ้นไปอีกระดับ เพราะคู่แข่งก็คงปวดหัวเหมืมอนกันว่าจะต้องรับมือกับเกมแบบนี้เช่นไร
2. การเล่นเกมรับต้องอยู่สูงอย่างน้อยค่าเฉลี่ยของลีก
ใช่ครับ ไครี และ ดอนซิช เปรียมเหมือนกระสุนทำลายล้างในเกมรุก แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็เป็นเหมือนปืนใหญ่ที่ไร้ซึ่งฐานที่มั่นคงพร้อมถล่มทุกเมื่อในเกมรับ ซึ่งนี่แหล่ะคือเหตุผลที่พวกเขาประสบปัญหาในฤดูกาลที่แล้ว
การร่วงหล่นลงมาเป็นอันดับที่ 25 ในเกมรับ จากการเป็นที่ 5 เมื่อฤดูกาล 2021-22 เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด แน่นอนว่าเหตุผลไม่ใช่เพียงสตาร์ดังสองคนนี้ แต่คนอื่นก็สร้างปัญหาไม่แพ้กัน ทั้ง จาเวลล์ แม็คกี ที่เซ็นเข้ามาแต่ก็ป้องกันห่วงไม่ได้อย่างที่หวัง, คริสเตียน วู้ด ที่ชื่อแปลว่าไม้แต่เกมรับเบาเหมือนปุยนุ่น ส่วน ดอนซิช เองก็เรียกได้ว่ามีปัญหาสุดๆในเกมรับวงนอก
ทั้งหมดจึงเป็นที่มาของช่วงปิดฤดูกาลนี้ที่ทีมผู้บริหารพยายามเสริมทัพในเกมรับอย่างหนัก ทั้งการเซ็น แกรนท์ วิลเลียมส์ ผู้เล่นเกมรับสุดอเนกประสงค์ที่ยิงสามคะแนนได้, ดราฟต์ เดเร็ค ไลฟลีย์ ที่สอง เข้ามาเพื่อแก้ปัญหาใต้แป้น และดราฟต์ผู้เล่นรอบแรกอีกคนอย่าง โอลิเวียร์ แม็กเซนส์-พรอสเพอร์ เข้ามาเพื่อเพิ่มความลึกในเกมรับ นอกจากนั้นทีมก็ยังพร้อมดัน จอช กรีน ขึ้นมาให้มีบทบาทมากขึ้นในเกมรับเพื่อเป็นแนวหน้าที่ลุกมาจากม้านั่งสำรองอีกด้วย
จากการเสริมเพิ่มเติมคราวนี้ คงไม่มีใครคาดหวังว่าพวกเขาจะกลับไปอยู่ห้าอันดับแรก แต่อย่างน้อยก็คงต้องหวังว่ามันจะดีขึ้นจากปีที่แล้ว และกลับมามีเกมรับที่อยู่ประมาณกลางตารางได้อีกครั้งหนึ่ง
3. ผู้เล่นโรลเพลเยอร์ต้องทำงาน
ดอนซิชคือผู้เล่นที่สร้างจังหวะให้กับคนอื่นได้อย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะการโจมตีเข้าหาห่วงแล้วดีดออกมาให้กับเพื่อนที่สามแต้ม ประเด็นมันอยู่ที่ว่าเพื่อนที่รับบอลไปคนนั้นจะยิงลงรึเปล่า ซึ่งในฤดูกาลที่ผ่านมามันไม่ได้เป็นแบบนั้น
การคว้าตัว เซธ เคอร์รี เข้ามาจึงสามารถช่วยพื้นที่ตรงนี้ได้อย่างดีด้วยการมีการยิงสามคะแนนสูงถึง 43.5 เปอร์เซ็นต์จากตลอดทั้งอาชีพ ทางด้านของ แกรนท์ วิลเลียส์ ก็คงไม่มีประเด็นอะไรที่ยากมากเกินไป เพราะเขาเล่นโดยหาพื้นที่ยิงอยู่แล้วตั้งแต่เล่นให้กับเซลติกส์
แต่นั่นคงยังไม่พอเพราะผู้เล่นอย่าง จอช กรีน และ เจเดน ฮาร์ดี รวมถึง ทิม ฮาร์ดอเวย์ จูเนียร์ ก้ต้องเข้ามาแบกรับภาระนี้ด้วยเช่นกันหากพวกเขาอยากพา แมฟเวอร์ริกส์ ขึ้นไปอยู่สูงกว่านี้ ที่สำคัญก็คือเซ็นเตอร์สำรองสุดเอนกประสงค์อย่าง แม็กซี คลีเบอร์ ก็ต้องรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีๆ เพราะเขามีส่วนสำคัญอย่างมากในการพา แมฟส์ ไปลุยถึงรอบชิงแชมป์สายเมื่อสองฤดูกาลที่แล้ว
หาก แมฟส์ สามารถทำสามข้อที่กล่าวมาข้างต้นนี้ได้ พวกเขาคงไม่มีทางที่จะต้องอยู่ในสถานะที่ยากลำบากเหมือนในฤดูกาลที่ผ่านมาอย่างแน่นอน และยังช่วยลดภาระที่แบกอยู่บนบ่าของสตาร์ทั้งสองคนได้อีกด้วย ซึ่งเราคงต้องรอพิสูจน์กันในฤดูกาลนี้
อ้างอิง: https://www.cbssports.com/
บทความที่เกี่ยวข้อง: วัยรุ่นอุปกรณ์ : ทีมงาน แมฟส์ ปิ๊งไอเดียกลายร่างเป็น เวมบันยามา ซ้อมให้ลูกทีม
บทความที่เกี่ยวข้อง: เพชรเม็ดงามของ NBA : เปิด 7 ผู้เล่นอนาคตไกลที่ไม่มีใครพูดถึง
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand