กว่าที่ บรู๊คลินส์ เน็ตส์ จะคว้าชัยชนะประเดิมซีซั่นได้ก็ต้องเหนื่อยจนถึงช่วงท้ายเกม โดยไม่ได้ 3 แต้มทีเด็ดจาก เควิน ดูแรนท์ ก่อนหมดเวลา 56 วินาที ทำให้ทีมขึ้นนำ 105-102 คะแนน
จบเกมนี้ เคดี เหมาคนเดียว 27 แต้ม 6 แอสซิสต์ และยังมี ไครี่ เออร์วิง ทำอีก 30 คะแนน กับ 7 แอสซิสต์ ช่วยให้ทีมชนะ โตรอนโต แร็ปเตอร์ส 109-105 คะแนน โดยพวกเขาทำผลงานในภาพรวมได้ดีขึ้น และมีส่วนไหนบ้างที่น่าชื่นชม ติดตามได้ที่นี่
NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก
ซูเปอร์สตาร์มาตามนัด
แม้ ดูแรนท์ จะออกตัวด้วยการชู้ตพลาด 7 จาก 9 ลูกแรก แต่ เคดี ยังกลับสู่เกมได้ทันเวลาด้วยการเร่งเครื่องทำ 16 จาก 27 แต้มของตัวเขาในช่วงครึ่งหลัง สิ่งสำคัญคือเขาได้พิสูจน์ว่าสามารถต่อกรกับทีมที่มีผู้เล่นป้องกันเก่ง ๆ ทั้ง โอจี อานูโนบี้, สก็อตตี้ บาร์นส์ และ ปาสคาล เซียแคม หลังจากเคยโชว์ฟอร์มน่าผิดหวังในสถานการณ์คล้าย ๆ กันนี้กับ บอสตัน เซลติกส์ ในเกมเพลย์ออฟเมื่อปีก่อน
ไครี่ ก็เริ่มเรียกฟอร์มเก่งกลับมา เกมนี้ชู้ตลง 11 จาก 24 ครั้ง แม้จะยังไม่ท็อปฟอร์มที่สุด แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีหลังจากเกมแรกที่แพ้ นิวออร์ลีนส์ เพลิแกนส์ ยับเยิน ชู้ตลงห่วงแค่ 31%
แก้ปัญหารีบาวด์
เน็ตส์มีการตอบสนองต่อความผิดพลาดได้ดี ถ้ายังจำได้กันเกมรีบาวด์ของพวกเขาคือปัญหาสำคัญที่ทำให้แพ้ เพลิแกนส์ แบบเละเทะ ครั้งนั้นพวกเขาแพ้รีบาวด์ทั้งเกม 39-61 ครั้ง และโดนคู่แข่งเก็บรีบาวด์เกมบุกใส่ 21 หน
มาคราวนี้พวกเขาเก็บรีบาวด์ได้เหนือกว่าที่ 44-41 ครั้ง และปล่อยให้แร็ปเตอร์ส มีโอกาสซ้ำดาบที่สองตลอดเกมแค่ 8 หนเท่านั้น และถึงแม้แร็ปเตอร์ส จะไม่ได้มีผู้เล่นบิ๊กแมนที่น่าเกรงขามเท่ากับ เพลิแกนส์ แต่อย่างน้อย ๆ ก็ดูเหมือนว่า สตีฟ แนช ยังพยายามที่จะจัดการแก้ไขจุดอ่อนของทีมได้ดีระดับหนึ่ง
องค์ประกอบทำหน้าที่ได้ดี
จริงอยู่ว่า เคดี - ไครี่ แบกแต้มของทีมไปเกินครึ่ง แต่เกมนี้เน็ตส์จะไม่สามารถคว้าชัยชนะได้ หากเหล่าบรรดาองค์ประกอบคนอื่นๆ ไม่ได้ก้าวขึ้นมาช่วยเหลือสตาร์ดังทั้ง 2 ราย ในช่วงเวลาที่สำคัญ
รอยซ์ โอนีล ซึ่งปกติเก่งเกมป้องกัน โชว์ให้ทีมเห็นว่าเขาเล่นเพลย์สำคัญได้ โดยเฉพาะช่วง 15.3 วินาทีสุดท้ายที่เขาอาศัยจังหวะที่ แร็ปเตอร์ส มัวแต่สนใจแค่ ดูแรนท์ กับ เออร์วิ่ง ชู้ตระยะ 3 แต้มปิดเกมให้กับทีม
เอาเข้าจริง เน็ตส์ เป็นทีมที่มีผู้เล่นมือรองฝีมือดีหลายคน ไม่ว่าจะ โอนีล, แพตตี้ มิลส์, โจ แฮริส, มาเคียฟ มอร์ริส และ ทีเจ วาร์เรน ถ้าหากพวกเขาสามารถก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญให้กับทีม เหมือนที่ โอนีล ทำได้ ก็จะเป็นผลดีกับ เน็ตส์ ตลอดทั้งซีซั่นนี้
เบน ซิมมอนส์ เริ่มดีขึ้น
กลายเป็นผู้เล่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย สำหรับ ซิมมอนส์ หลังจากที่เกมแรกโชว์ผลงานได้ไม่ดี แถมยังโดนฟาวล์ป้อกอีกต่างหาก หนนี้เขาดูมีสมาธิกับเกมมากขึ้น เล่นเกมป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและคอยระวังไม้ให้เสียฟาวล์ที่ไม่จำเป็น
จบเกม เบ็นเท็น ทำไป 6 แต้ม 10 รีบาวด์ กับ 8 แอสซิสต์ รวมถึงบล็อคไป 2 ครั้ง
“นี่เป็นอีกก้าวของเบน เขาดุดันมากขึ้น เขาลุยเข้าบริเวณใต้แป้นและสร้างปัญหาให้กับคู่แข่ง เขาเริ่มแสดงให้คนอื่นเห็นว่าเขาสามารถทำได้หลายอย่าง ผมภูมิใจในตัวเขามาก เขามีความกระตือรือร้นมากขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญ” แนช กล่าวชม ซิมมอนส์ หลังจบเกม
แม้ว่าเกมบุก ของ ซิมม่อนส์ จะยังพัฒนาได้ไม่ไวตามที่แฟน ๆ คาดหวัง แต่เรื่องเกมป้องกันเขาสามารถเล่นงานซูเปอร์สตาร์ทุกคนในลีกได้ ถ้าว่ากันตามตรงสถานการณ์ของผู้เล่นรายนี้ คล้ายกับ รัสเซลล์ เวสต์บรูค การ์ดของ แอลเอ เลกอร์ส อยู่ไม่น้อย
“ดีขึ้นเล็กน้อย ผมไม่ได้เสียฟาวล์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี และผมยังเสียเทิร์นโอเวอร์น้อยลง และต้องรักษาผลงานเหล่านี้เอาไว้” ซิมมอนส์ กล่าวถึงผลงานของตัวเอง
