ในฤดูกาล 2021-22 ยังได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่น All-Star จากการที่จบ 3 อันดับแรกทั้งการโหวตของแฟนๆ, สื่อ และผู้เล่น แต่ทว่าในฤดูกาลนี้มันเป็นคนละเรื่องเลยทีเดียว
การ์ดวัย 24 คนนี้ถูกโหวตเป็นอันดับที่ 5 ในตำแหน่งการ์ดจากการประกาศผลโหวต All-Star ของแฟนๆครั้งที่สอง ซึ่งตามหลังทั้ง ไครี เออร์วิง, โดโนแวน มิชเชล, เจมส์ ฮาร์เด้น และ เจย์เลน บราวน์ ซึ่งแน่นอนว่าการหวังพื้นที่ตัวจริงนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย
แต่ว่าเขาก็ยังมีโอกาสที่จะติดในชุดสำรอง หรือ…อาจจะไม่ติดก็เป็นไปได้เช่นกัน
แน่นอนว่าถ้าดูสถิติเบื้องต้นเราก็คงพูดได้เต็มปากเต็มคำว่านี่คือการ์ดระดับ All-Star แต่ถ้าเรามองลึกลงไปกว่านั้นเราจะเห็นว่าการที่เขาจะไม่ติดแม้กระทั่งตัวสำรองของ All-Star ก็ไม่แปลกเท่าไหร่นัก
สามารถดูวิธีโหวตผู้เล่น NBA All-Star 2023 ได้ที่นี่
เทร ยัง ไม่ใช่สุดยอดเกมรุกของ ฮอว์กส์ เหมือนที่ผ่านมา
ในปี 2021-22 ยังมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 28.4 แต้ม, 9.7 แอสซิสต์ จาก 34.9 นาทีต่อเกม ส่วนในปี 2022-23 เขามีค่าเฉลี่ยที่ 27.4 แต้ม และ 9.8 แอสซิสต์ จาก 35.7 นาทีต่อเกม สถิติเบื้องต้นที่เราเห็นของ เทร ยัง มันเท่ากับ All-Star อย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ทว่าประสิทธิภาพของเขาไม่เหมือนเดิมหรือเรียกได้ว่าตกลงไปทุกระยะเลยด้วยซ้ำโดยเฉพาะเรื่องการยิง 3 คะแนน
สถิติการยิงของ เทร ยัง | 2021-22 | 2022-23 |
---|---|---|
FG% | 46.0 | 42.4 |
2PT% | 51.2 | 47.4 |
3PT% | 38.2 | 33.0 |
พื้นที่ใต้แป้น | 59.3 | 56.3 |
ระยะกลาง | 52.8 | 42.3 |
3 คะแนน (ที่ไม่ใช่มุมข้างสนาม) | 37.4 | 33.3 |
สเต็ปแบ็ค 3 คะแนน | 40.9 | 28.6 |
หลายๆคนอาจจะคิดว่าเมื่อ เดชอนเต้ เมอร์เร่ เข้ามาจะทำให้ เทร ยัง มีอัตราการยิงที่น้อยลงกว่าเดิม แต่ไม่ใช่เลย เพราะจำนวนฟิลด์โกลในปีนี้และปีที่แล้วไม่ได้ต่างกันแม้แต่น้อยโดยอยู่ที่ 20.3 ครั้งต่อเกม
ส่วน ยูสเซจ เปอร์เซนเทจ ก็แทบจะไม่แตกต่างจาก 34.4 ในปีที่แล้วเป็น 33.4 ในปีนี้ มีเพียง ลูก้า ดอนซิช, ยานนิส อันเทโทคุมโป, โจเอล เอมบีด และ จา มอแรนท์ เท่านั้นที่มี ยูสเสจ เปอร์เซนเทจ มากกว่าเขาแต่ประสิทธิภาพของ เทร ยัง ไม่สามารถสู้พวกเขาเหล่านี้ได้เลย
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเกมรุกของ แอตแลนต้า ฮอว์กส์ ที่อยู่ถึงอันดับ 2 ของลีกในฤดูกาล 2021-22 กลายมาเป็นอันดับที่ 22 ในฤดูกาล 2022-23 แน่นอนว่ามันยังมีเหตุผลอื่นที่ทำให้เกมรุกของ ฮอว์กส์ ตกลงมาขนาดนี้ แต่ ยัง เป็นผู้เล่นอันดับต้นๆของลีกทั้งในเรื่องนาทีในการครองบอล, ค่าเฉลี่ยวินาทีต่อการจับบอล และ ค่าเฉลี่ยการเลี้ยงต่อการจับบอล
ซึ่งนี่เป็นการบอกว่า ยัง คือหัวหอกในเกมรุกของ ฮอว์กส์ แต่ในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล เทร กลับทำได้ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่นัก
เกมรับของ ยัง ทำร้ายทีม
ยัง เป็นผู้เล่นที่เสียเปรียบเรื่องเกมรับอยู่แล้วเพราะสูงเพียง 6 ฟุต 1 และมีน้ำหนักแค่ 164 ปอนด์เท่านั้น แต่นั่นไม่ใช่จุดอ่อนเพียงอย่างเดียวเพราะถึงจะตัวเล็กแต่ก็เก่งเกมรับได้เช่น คริส พอล (6 ฟุต, 175 ปอนด์) หรือ แพทริค เบฟเวอร์ลีย์ (6 ฟุต 2, 180 ปอนด์) ที่เคยติดทีมรับยอดเยี่ยมของ NBA มาแล้ว
ปัญหาจริงๆก็คือ เทร ยัง ไม่พยายามที่จะเล่นเกมรับมากกว่า เช่นเพลย์แบบนี้ที่ ไมเคิล พินา จาก เดอะ ริงเกอร์ ได้ชี้ว่ามันเกิดขึ้นบ่อยครั้งจนนับไม่ถ้วน
เมื่อ ยัง อยู่บนสนาม เรตติ้งเกมรับของ ฮอว์กส์ จะอยู่ที่ 113.1 แต่เมื่อเขาไปนั่งเรตติ้งเกมรับจะอยู่ที่ 108.8 เท่านั้นซึ่งถ้าให้เปรียบเทียบง่ายๆก็คือเมื่อ ยัง อยู่บนสนาม เกมรับของทีมจะแย่พอๆกับ ฮอร์เน็ตส์ ในฤดูกาลนี้ แต่พอเขาออกไปนั่งเกมรับจะเทียบเท่ากับอันดับ 1 อย่าง กริซลีส์ เลยด้วยซ้ำ
ซึ่งถ้าเราเอาไปเปรียบเทียบกับว่าที่ All-Star คนอื่นๆในตำแหน่งเดียวกันตอนนี้ หากพูดถึงผลกระทบในเกมรับ เทร ยัง คืออันดับท้ายๆอย่างไม่ต้องสงสัย
อันดับของ แอตแลนต้า ฮอว์กส์
ในตอนนี้ ฮอว์กส์ อยู่อันดับที่ 8 ในสายตะวันออกด้วยสถิติ ชนะ 23 แพ้ 22 เท่านั้น และถ้าเราเปรียบเทียบอันดับทีมของตัวเต็งตัวสำรอง All-Star ในสายตะวันออกคนอื่นๆทั้ง เจมส์ ฮาร์เด้น, เจย์เลน บราวน์, เจเลน บรันสัน, จรู ฮอลิเดย์ หรือ ดาเรียส การ์แลนด์ ก็อยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าทั้งนั้น
นี่ยังไม่รวม ไทรีส ฮาร์ลิเบอร์ตัน ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมก่อนที่จะเจ็บไปอีกด้วย
เทร ยัง ยังสามารถที่จะติด All-Star ได้หากเขาทำผลงานได้ดีขึ้นในช่วงนี้และพา ฮอว์กส์ ขึ้นไปอยู่ในโซนเพลย์ออฟ แต่หากโชคไม่ดี เราก็คงจะไม่ได้เห็นเขาในเกม All-Star ปีนี้อย่างแน่นอน