หลังจากที่รอบชิงชนะเลิศ NBA ดำเนินมาจนถึงเกมที่สี่และเกมที่ห้ากำลังจะเริ่มต้นขึ้นในอีกไม่ช้า สิ่งที่เป็นคำถามใหญ่ๆเลยก็คือใครเหมาะสมสำหรับตำแหน่ง ไฟนอลส์ MVP หรือผู้เล่นทรงคุณค่าของรอบชิงชนะเลิศ NBA
เนื่องจากในตอนนี้ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ นำซีรีส์ ไมอามี ฮีต อยู่ 3-1 เกม ทำให้มุมมองส่วนใหญ่พุ่งไปที่ผู้เล่นคนสำคัญทั้งสองคนของ นักเก็ตส์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นเซนเตอร์ MVP สองสมัยอย่าง นิโคลา โยคิช หรือ การ์ดสายทำแต้มอย่าง จามาล เมอร์รีย์ แต่ทว่าเราก็คงไม่สามารถตัดผู้เล่นที่พา ไมอามี ฮีต ทะลุเข้ารอบชิงจากการเป็นอันดับ 8 ของสายตะวันออกอย่าง จิมมี บัตเลอร์ ออกไปได้เช่นกัน
เพราะฉะนั้นในบทความนี้เราจะมาจัดอันดับกันว่าตั้งแต่เริ่มต้นรอบชิงชนะเลิศจนถึงตอนนี้ ใครคือผู้เล่นที่ดีที่สุดในซีรีส์ หากใครพร้อมแล้ว ไปติดตามกันต่อที่ด้านล่างของบทความได้เลย
ร่วมเล่นสนุก ชิงรางวัลกับการแข่งขันNBAได้ที่นี่
ใครจะคว้า MVP NBA รอบชิง 2023
อันดับ 1: นิโคลา โยคิช
ผู้นำการทำแต้มในรอบชิง (30.8 แต้มต่อเกม), ผู้นำรีบาวด์ในรอบชิง (13.5 รีบาวด์ต่อเกม), ผู้นำการบล็อกในรอบชิง (1.5 ครั้งต่อเกม) และเป็นผู้เล่นที่มี แอสซิสต์ สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของซีรีส์นี้ที่ 8.0 ครั้งต่อเกม คำถามที่ต้องถามซ้ำแล้วซ้ำอีกคือ มีอะไรอีกไหมที่ โยคิช ทำไม่ได้? เพราะเขาเป็นผู้นำของสถิติเบื้องต้นแทบจะทั้งหมดแล้ว
นอกจากนั้นเขายังเป็นผู้เล่นที่ส่งผลกระทบต่อทีมมากๆไม่ว่าจะเป็นเกมรุกหรือเกมรับ โดยเฉพาะเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาลงมาในสนาม สิ่งที่จะเกิดขึ้นเสมอก็คือการที่เกมรุกของ นักเก็ตส์ บินทะยานไปอีกระดับและแน่นอนว่าไม่ว่า ไมอามี ฮีต จะโยนเกมรับแบบไหนเข้ามา คำตอบเดียวคือ มันไร้ผลสำหรับ โยคิช ไม่ว่าจะเป็นโซนเกมรับทั้งหลายแหล่, ดับเบิลทีม, สวิตช์ (สลับตัวประกบ) หรือว่าอะไรก็ตาม เขาสามารถหาทางแก้ได้ทั้งหมด
เพราะฉะนั้นคนแรกที่โผล่ขึ้นมาคงเป็นใครไม่ได้นอกจากเซนเตอร์ชาวเซอร์เบียที่มีสถิติ 30/13/8 คนนี้ในซีรีส์รอบชิงชนะเลิศ
อันดับ 2: จามาล เมอร์รีย์
ต่อจาก โยคิช ก็คงต้องเป็นคู่หูของเขาอย่าง จามาล เมอร์รีย์ การ์ดสายทำแต้มเพิ่มเติมคือเพลย์เมคเกอร์ที่ตามมาเป็นอันดับที่สอง
ที่บอกว่าเพิ่มเติมคือเพลย์เมคเกอร์ก็เพราะเขาพัฒนาขึ้นมากจริงๆในเรื่องการสร้างเกมโดยที่ใครหลายๆคนคาดไม่ถึง พิสูจน์ด้วยการที่มีแอสซิสต์ถึง 10.5 ครั้งต่อเกม (ผู้นำซีรีส์) ตามมาด้วยการทำแต้มเฉลี่ยอยู่ที่ 23.3 แต้มต่อเกมซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับสองในซีรีส์นี้ บวกกับการเล่นเกมรุกแบบพิคแอนด์โรลกับ โยคิช อย่างรู้ใจ ยิ่งทำให้การเล่นของเขาสำคัญมากขึ้นไปอีก
นอกจากนั้นด้วยรูปแบบการเล่นเกมรับของ นักเก็ตส์ ทำให้เขาต้องเล่น 1-1 กับ จิมมี บัตเลอร์ อยู่บ่อยครั้งแต่เขาก็ยังทำหน้าที่ได้ดีและไม่มีท่าทีว่าจะยอมให้ บัตเลอร์ ทำแต้มง่ายๆเลยแม้แต่น้อย
อันดับ 3: จิมมี บัตเลอร์
จิมมี บัตเลอร์ ยังคงเล่นได้ดีแต่ถ้าเปรียบเทียบกับมาตรฐานในเพลย์ออฟของเขาในปีนี้แล้วมันกลับต่ำกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการทำแต้ม (22.3 แต้มต่อเกม) หรือความดุดันในการเล่นก็ตาม
เปอร์เซนต์ฟิลด์โกลของ บัตเลอร์ นั้นอยู่ที่ 44.6 เปอร์เซนต์เท่านั้นในซีรีส์นี้ แน่นอนว่าเราคงไม่แน่ใจว่าอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าของเขาส่งผลมากแค่ไหน แต่ในซีรีส์นี้เขาค่อนข้างมีปัญหาไม่น้อยในเรื่องความดุดันและการข้ามเข้าใต้แป้น แต่เราก็คงไม่ปฏิเสธว่าตัวของเขาสำคัญแค่ไหนกับทีม ไม่ว่าจะเป็นเกมรับที่ต้องปิด จามาล เมอร์รีย์ ตั้งแต่ในเกมที่ 2 และเกมรุกที่ต้องคอยสร้างให้เพื่อนร่วมทีมตลอดเวลา
อันดับ 4: แบม อเดบาโย
ในสองเกมแรกของ แบม อเดบาโย นั่นคือเกมที่ดีที่สุดของเขาในซีรีส์นี้ไม่ว่าจะเป็นการทำแต้มจากระยะกลางหรือการเล่นเกมรับใส่ นิโคลา โยคิช แต่หลังจากนั้นอีกสองเกม ตัวเขาเองค่อนข้างฟอร์มดรอปลงไปเล็กน้อยในเรื่องประสิทธิภาพของเกมรุก
แต่หากเราไปดูสถิติแล้ว ตัวของเขานั้นสำคัญอย่างมากกับทีม ไม่ว่าจะเป็นการทำแต้มที่ 22.3 แต้ม (มากที่สุดของฮีต), 12.5 รีบาวด์ (มากที่สุดของฮีต) และ 3.8 แอสซิสต์ต่อเกม เลยทีเดียว แบมสำคัญกับในทุกมิติของ ไมอามี ฮีต แต่จุดที่อาจจะทำให้เขาร่วงลงมาเป็นอันดับ 4 ก็คือความไม่สม่ำเสมอในเกมรุกนั่นเอง
อันดับ 5: แอรอน กอร์ดอน
แม้ว่าการเล่นของ กอร์ดอน จะโดดเด่นในเรื่องเกมรุกแค่เกมแรกที่อัดวงในใส่ผู้เล่นตัวเล็กของ ไมอามี แบบไม่ยั้งกับเกมที่สี่ที่เขาทำไปได้ทั้งหมด 27 แต้ม แต่ส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 5 ก็คือการเล่นเกมรับที่ยังคงสม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง
ซึ่งผู้เล่นที่ ไมค์ มาโลน หัวหน้าโค้ชของ นักเก็ตส์ มอบหมายให้ แอรอน กอร์ดอน ไปปิดนั้นก็คือมือหนึ่งของ ไมอามี ฮีต อย่าง จิมมี บัตเลอร์ และอย่างที่เราได้เขียนไปก่อนหน้านี้ในประเด็นของ บัตเลอร์ ว่าเขาเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็ต้องให้เครดิตกับ พาวเวอร์ ฟอร์เวิร์ด รายนี้ด้วยเช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง : คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส 2016 : ทีมเดียวที่กลับมาได้จากนรก 3-1 เกมในรอบชิง NBA
บทความที่เกี่ยวข้อง : ไมอามี ฮีต จะกลับมาได้หรือไม่? : สถิติที่ควรรู้ก่อนรอบชิง NBA เกม 5
บทความที่เกี่ยวข้อง : โยคิชสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง : ผู้เล่นคนแรกที่มีเกม 30-20-10 ในรอบชิง NBA
NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก