สื่ออีเอสพีเอ็น รายงานว่า ธันเดอร์ส กับ ร็อคเก็ตส์ บรรลุข้อตกลงในการเทรดแลกตัวผู้เล่นรวมกัน 8 ราย โดยในดีลนี้ ร็อคเก็ตส์ ส่งผู้เล่น 4 คน พร้อมสิทธิดราฟท์รอบสอง 1 ครั้ง ให้กับ ธันเดอร์ส ซึ่งส่งผู้เล่น 4 คนเช่นกันให้กับทีมจรวด
โอเคซี ได้อะไรบ้าง
- ดาวิด เอนวาบา
- สเตอร์ลิง บราวน์
- เทรย์ เบิร์ค
- มาคีส คริสส์
ร็อคเก็ตส์ ได้อะไรบ้าง
- เดริค เฟเวอร์ส
- ทาย เจอโรม
- โม ฮาร์เคลส
- ธีโอ เมลดอน
- สิทธิดราฟท์รอบสอง ปี 2025
เทรดที่มีวัตถุประสงค์หลักเรื่องเพดานค่าจ้าง
อาเดรียน วอจนารอฟสกี้ ผู้สื่อข่าวคนดังของอีเอสพีเอ็น ให้ข้อมูลเสริมเกี่ยวกับการเทรดครั้งนี้ว่า น่าจะเป็นการเทรดที่มีเรื่องเพดานค่าจ้างมาเป็นตัวแปรสำคัญ
“ข้อตกลงนี้ เน้นเรื่องแคป (เพดานค่าจ้าง) เป็นเรื่องสำคัญสำหรับทั้งสองทีม ธันเดอร์สจะได้รับข้อยกเว้นการเทรด 2 ครั้ง (Trade exceptions) และ ประหยัดภาษีฟุ่มเฟือยไปได้ 10 ล้านเหรียญ (ประมาณ 380 ล้านบาท) ขณะที่ ร็อคเก็ตส์ ได้ดราฟท์รอบสอง 1 ครั้ง จะทำให้พวกเขาได้แคปเพิ่ม 1 ล้านเหรียญ (38 ล้านบาท) รวมถึง เฟเวอร์ส ซึ่งจะเป็นเซ็นเตอร์สำรองชั้นดีให้แก่ทีม หรือ พวกเขาอาจนำผู้เล่นรายนี้ไปเทรดต่อในตลาดก็ได้เช่นกัน”
ต่างฝ่ายอยู่ในโหมดสร้างทีม
ทั้ง ร็อคเก็ตส์ และ โอเคซี เคยเป็น 2 ทีมระดับเพลย์ออฟช่วงต้นๆ 2010s แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็รื้อทีมและสร้างทีมใหม่กันมาสักพักแล้ว โดยมีองค์ประกอบหลักสำคัญคือ 3 ผู้เล่นดาวรุ่งเหมือนกันทั้งคู่
โอเคซี มี ไช กิลเจียส อเล็กซานเดอร์, จอช กิดดี้ย์ และ เชท โฮล์มเกรน (เจ็บทั้งซีซั่น) ส่วน ร็อคเก็ตส์ มี จาเลน กรีน, จาบารี สมิธ จูเนียร์ และ เควิน พอร์เตอร์ จูเนียร์ นำทีมเป็นหลัก
แม้จะมีผู้เล่นฝีมือดีรายล้อมอยู่บ้างแต่ทั้งสองทีม คือ องค์กรที่มีการปรับผู้เล่นรอบข้างแกนหลักบ่อยมาก โอเคซี เปลี่ยนผู้เล่นตลอดฤดูกาลมากถึง 26 คน ส่วน ร็อคเก็ตส์ มีผู้เล่นเข้าๆออกๆ รวม 19 คน