โคบี้, เคมป์, การ์เน็ตต์: รวมรายชื่อนักบาสชื่อดัง ที่ข้ามรุ่นจากมัธยมปลาย มาสร้างชื่อในลีก NBA

Nawapon Kiatpisan

โคบี้, เคมป์, การ์เน็ตต์: รวมรายชื่อนักบาสชื่อดัง ที่ข้ามรุ่นจากมัธยมปลาย มาสร้างชื่อในลีก NBA image

จากการที่ลีกเตรียมประกาศให้โอกาสเด็ก 18 ปี หรือ ยังเรียนมัธยมปลายสามารถกลับมากระโดดเข้าสู่ลีก เอ็นบีเอ ได้อีกครั้ง ซึ่งถือเป็นหนแรกในตั้งแต่ปี 2005 ที่เราจะมีโอกาสได้เห็นดาวเด่นจากไฮสคูลเข้ามาโขว์ผลงานในการแข่งขันเอ็นบีเอ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มต้นในปี 2024

หากนับจริงๆ เรจจี้ ฮาร์ดิง คือผู้เล่นคนแรกที่ถูกดราฟท์จากระดับไฮสคูลเข้าสู่ลีกเลย ตอนนั้นเป็นทีม ดีทรอยต์ พิสตันส์ ที่เลือกเขาเข้าในรอบที่ 6 (อันดับ 48) แต่จากกฎตอนนั้นของลีกตั้งไว้ว่าผู้เล่นจะต้องเรียนจบมัธยมปลายอย่างน้อย 1 ปี ถึงจะลงเล่นในลีกได้ ทำให้เขาต้องไปเล่นในลีกรองเป็นเวลา 1 ปี จึงยังไม่ถูกนับรวม

darryl dawkins

1975: ยุคแรกของการดราฟท์ เด็กจากไฮสคูล

หลังจากที่ลีกยกเลิกเงื่อนไขต่างๆนานา ทำให้ประวัติศาสตร์แห่งการนำผู้เล่นจากระดับมัธยมมาโลดแล่นในลีกอาชีพก็เริ่มขึ้น ดาร์รีล ดอว์กิ้นส์ ซึ่งถูกเลือกในอันดับ 5 โดย ฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ ซิกเซอร์ส และ บิลล์ วิลลาฟบี้ ดราฟ์รอบ 2 อันดับ 19 โดยแอตแลนต้า ฮอว์กส์

ดอว์กิ้นส์ ได้ลงเล่น 14 ฤดูกาล ทำเฉลี่ย 12 แต้ม 6 รีบาวด์ ส่วน วิลลาฟบี้ เล่นอยู่ 8 ซีซั่น ทำเฉลี่ย 6 แต้ม อย่างน้อยพวกเขาคือรุ่นบุกเบิกและสร้างแรงบันดาลใจ ภายใต้ข้อกังขาที่ว่าถ้าเขาทั้งสอง ลองเสียเวลาเล่นระดับมหาวิทยาลัย อาจจทำเข้ามาเปล่งประกายในลีกมากกว่านี้

Gary Payton Shawn Kemp
Foto: Getty Images

1989: ชอว์น เคมป์ ตัวแทนของการตอบโต้ว่าเด็กไปไม่น่าได้เกิด

ปี 1989 ซีแอทเทิล ซูเปอร์โซนิกส์ ประกาศเลือก ชอว์น เคมป์ เข้าสู่ทีมในลำดับที่ 17 แม้ว่าฤดูกาลแรกของเขาจะกระท่อนกระแท่น แต่ท้ายที่สุดจากศักยภาพและความสามารถในการเรียนรู้จากเพื่อนร่วมทีม ซึ่งมีทั้ง แกรี่ เพย์ตัน, เอ็ดดี้ จอห์นสัน, ริกกี้ เพียร์ซ และ เนต แมคมิลแลน ส่งผลให้แค่ฤดูกาลที่ 2 เคมป์ก็แจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัว 

ท้ายที่สุด เคมป์ ซึ่งในตอนนั้นถูกยกให้เป็นเด็กอายุน้อยที่สุด (19 ปี) ซึ่งได้ลงเล่นระดับอาชีพในเอ็นบีเอ ก็สร้างผลงานตลอด 14 ฤดูกาลด้วยการเป็น ออลสตาร์ 6 สมัย แม้ว่าเขาไม่เคยคว้าแชมป์ แต่ก็เป็นการจุดประกายให้เด็กๆรุ่นหลังที่มองเขาเป็นแรงบันดาลใจ และตอบโต้กับคำว่าเด็กไป คงไม่ไหวสำหรับระดับเอ็นบีเอ

Kevin Garnett Minnesota
NBA Photos

1995 : เควิน การ์เน็ตต์ ทูเวย์ที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ 

เควิน การ์เน็ตต์ กลายเป็นคลื่นลูกต่อมา เขาคือผู้เล่นระดับยอดเยี่ยมแห่งปีของมัธยมปลายซึ่งประกาศชัดว่าต้องการสละสิทธิเข้ามหาวิทยาลัยเพื่อลุ้นโอกาสเข้าลีกเอ็นบีเอ และ มินเนโซต้า ทิมเบอร์วูลฟ์ส ซึ่งสมัยนั้นเป็นทีมหมูน้อยของลีก ก็จัดการเลือกเขาในอันดับที่ 5

เคจี กลายเป็นเสาหลักของทีมในทันที เปลี่ยนวูล์ฟส์ให้กลายเป็นทีมระดับเข้าเพลย์ออฟ ก่อนแยกทางไปประสบความสำเร็จกับบอสตัน เซลติกส์ชุดบิ๊กทรีด้วยการคว้าแชมป์ในปี 2008 ส่วนเกียรติประวัติส่วนตัวของเขาไม่ต้องพูดถึง ทั้งคว้าเอ็มวีพีฤดูกาลปกติ 1 สมัย ติดออลสตาร์ 15 ครั้ง ผู้เล่นป้องกันยอดเยี่ยม 1 ครั้ง แต่ส่วนที่ขยายความถึงศักยภาพของ การ์เน็ตต์ ได้ดีที่สุดคือ เขาถูกยกให้เป็นผู้เล่นทูเวย์ และ หนึ่งในฟอร์เวิร์ดที่ดีที่สุดตลอดกาลของลีก

Kobe Bryant Los Angeels Lakers
NBA Entertainment

1996 : โคบี้ ไบรอันท์ ปีแรกของแบล็คแมมบ้า

ทันทีการประกาศปี 1996 จบลง ชื่อของ โคบี้ ไบรอันท์ ซึ่งถูกเลือกเป็นอันดับที่ 13 ก็ได้ย้ายจากชาร์ล็อตต์ ฮอร์เนตส์ ไปสู่ทีม ลอสแองเจลลิส เลเกอร์ส และตำนานทุกบทก็เริ่มขึ้นจากจุดนั้น

5 แชมป์กับทีมเลเกอร์ส รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมรอบชิง 2 สมัย เอ็มวีพีฤดูกาลปกติ 1 สมัย ติดออลสตาร์ 18 ครั้ง ฯลฯ รวมทั้งการเป็นนักบาสเกตบอลผู้สร้างแรงบันดาลใจและเป็นแบบอย่างของคนทั่วโลก

นอกเหนือจาก โคบี้ ก็ยังมี เจอร์เมน โอนีล ซึ่งถูกดราฟท์เข้ามาในปีเดียวกันในลำดับที่ 17 แม้ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จมากมาย แต่เขาก็ถือเป็นหนึ่งในเด็กที่มัธยมปลายที่เข้าลีกมาแล้วสามารถสร้างผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน โดยมีช่วงโดนเด่นที่สุดกับ อินเดียนา เพเซอร์ส

tracy-mcgrady-raptors-nbae-gettyimages

1997 : เทรซี่ แม็คเกรดี้ ตัวทำคะแนนที่อาจจะดีที่สุดตลอดกาล

1 ปี ต่อมา เป็นโอกาสของ เทรซี่ แม็คเกรดี้ 1 ในผู้เล่นที่ถูกแซวว่าเป็นราชาไร้มงกุฎ โดย ทีแมค ถูกเลือกเข้ามาเป็นอันดับที่ 9 ร่วมลงเล่นกับทัั้ง โตรอนโต แร็ปเตอร์ส, ออลันโด เมจิก ก่อนจะมาสร้างปรากฏการณ์ที่ยากจะลืมกับ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ กับการทำ 13 คะแนน ภายในะระยเวลา 33 วินาที 

แม็คเกรดี้ ถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานทำให้ผลงานของเขาตกลง แต่เขาก็ถือเป็นผู้เล่นระดับออลสตาร์ ที่มีการตั้งคำถามว่า หากเขามีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์น่าจะกลายเป็นผู้เล่นที่ทำแต้มเก่งมากที่สุดคนหนึ่ง และอาจจะประสบความสำเร็จมากกว่านี้ การันตีด้วยแชมป์การทำสกอร์ 2 สมัย ในปี 2003 และ 2004

LeBron James

1998 - 2005 : การแห่ไหลเข้ามาแบบไม่ขาดสาย

ภาพรวมหลังจากปี 1997 คือการมีเด็กมัธยมกล้าเสี่ยงเอาตัวเองลงดราฟท์และถูกเลือกเข้าสู่ลีกมากขึ้น ตั้งแต่ปี 1975 - 1997 จะมีไม่เกินปีละ 2 คน แต่พอเป็นช่วงหลังจากนั้นตัวเลขก็ขยับชัดเจนโดยเฉพาะอย่างยิ่งปี 2001 และ 2003 มีเข้ามาปีละ 5 คน จากนั้นปี 2004 ที่เข้ามาพร้อมกันถึง 8 คน ปี 2005 มีเข้าร่วมลีกมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ 9 คน หรือถ้าเรานับช่วงเวลา 8 ปีนั้นมีเด็กอายุมัธยมกระโดดเข้ามาสู่ลีก 35 คน หรือเฉลี่ยปีๆนึง 4 คน สูงขึ้นจากยุคแรกๆเป็นเท่าตัว ส่วนดราฟท์เด่นๆ 8 ปีนี้ ได้แก่

1998 : ราชาร์ด ลูวิส ดราฟท์ รอบ 2 อันดับ 35 โดยซีแอทเทิล ซูเปอร์โซนิกส์ 

2000 : ดาริอุส ไมลส์ ดราฟท์อันดับ 3 เจ้าของรางวัล มิสเตอร์ บาสเกตบอล สหรัฐฯ ในปีนั้น

2001 : ควาเม่ บราวน์ ดราฟท์อันดับ 1 โดยวอชิงตัน วิซาร์ดส์ ที่กลายเป็นหนึ่งในดราฟท์ยอดแย่ที่สุดของวงการเอ็นบีเอ

2001 : ไทสัน แชนเดอร์ส ดราฟท์อันดับ 2 โดยคลิปเปอร์ส ซึ่งบั้นปลายชีวิตคว้าแชมป์กับ แมฟเวอริกส์ และเป็นตัวป้องกันระดับแนวหน้าของลีก

2001 : เอ็ดดี้ เคอร์รี่ ดราฟท์อันดับ 4 โดยบูลส์ แต่ไปท็อปฟอร์มกับนิกส์ โดยคว้าแชมป์ 1 สมัยปี 2012 กับไมอามี่ ฮีต ในช่วงบั้นปลาย

2002 : อมาเร่ สตูเดอไมร์ ดราฟท์อันดับ 9 โดยฟินิกซ์ ซันส์ และโด่งดังกับทีมช่วงที่เล่นระบบบุกไม่เกิน 7 วินาที ภายใต้โค้ชไมค์ ดิ แอนโธนี่

2003 : เลบรอน เจมส์ ดราฟท์อันดับ 1 ที่เข้ามาเปลี่ยน คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ให้กลายเป็นทีมระดับลุ้นแชมป์ ก่อนจะประสบความสำเร็จกับ ไมอามี่ ฮีต, คาวาเลียร์ส (รอบ 2) และ แอล เอ เลเกอร์ส

2003 : เคนดริก เพอร์กิ้นส์ ดราฟท์อันดับ 27 ซึ่งมาเล่นได้เข้าระบบของทีมบอสตัน เซลติกส์ และเป็นส่วนหนึ่งของชุดแชมป์ ปี 2008

Dwight Howard

2004: ดไวท์ ฮาเวิร์ด ดราฟท์อันดับ 1 ที่กลายเป็นยอดเซ็นเตอร์แห่งยุค พาออลันโด เมจิก เข้าชิงแต่ไม่ได้แชมป์ และเป็นผู้เล่นระดับออลสตาร์ที่พเนจรไปหลายทีม กระทั่งกลับมาคว้าแชมป์กับเลเกอร์สปี 2020 

2004 : ชอน ลิฟวิงสตัน ดราฟท์อันดับ 4 ที่บาดเจ็บหนักจนเกือบต้องเลิกเล่น แต่กลับมาคว้าแชมป์ 3 สมัยในยุคที่เป็นตัวสำรองทีเด็ดให้กับ วอริเออร์ส

2004 : เจอาร์ สมิธ ดราฟท์อันดับ 18 ซึ่งกลายเป็นจอมเอนเตอร์เทนแห่งวงการ คว้าแชมป์ 2 สมัย ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นในการเล่นร่วมกับ เจมส์

Andree Bynum, el más joven en debutar en la NBA.

2005 : แอนดรูว์ บายนั่ม ดราฟท์อันดับ 10 ของ เลเกอร์ส ซึ่งเขาเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุด 18 ปีกับ 6 วัน ในประวัติศาสตร์ลีกที่ได้ลงเล่นเอ็นบีเอ คว้าแชมป์ 2 สมัย แต่ต้องเลิกเล่นเร็วไปหน่อยเพราะอาการบาดเจ็บ

2005 : ลู วิลเลี่ยมส์ ดราฟท์รอบสองอันดับ 45 เจ้าของรางวัลตัวสำรองยอดเยี่ยม 3 สมัย และเป็นคนจุดประกายคุณค่าของบทบาทซิกส์แมนให้กับลีก

2005 : อาเมียร์ จอห์นสัน ดราฟท์รอบสองอันดับ 56 ติดเข้ามาในลิสต์เพราะเป็นคนสุดท้ายที่ได้เป็นเด็กมัธยม ที่ถูกดราฟท์เข้าลีก

นอกจากที่ไล่มายังมีนักบาสที่ถูกเลือกมาแล้วไม่ประสบความสำเร็จมากนัก หรือ บางคนก็แทบไม่ได้โอกาสหรือไม่มีโอกาสลงเล่นเลย อย่างไรก็ตามเราจะเห็นว่าเด็กมัธยมหลายๆคน ก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์ หรือ กลุ่มผู้เล่นตัวสำคัญที่เราพอจะคุ้นชื่อกันอยู่บ้าง

ถ้าหากลีกยอมปลดอายุจาก 19 ปี ลงมาเหลือ 18 ปีอีกครั้ง เราอาจได้เห็นการทำลายสถิติของ บายนั่ม หรือ พลังของหนุ่มที่จะก้าวเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงเหมือนที่ เลบรอน ทำ และ บางทีอาจจะมีชายที่เข้ามาสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับลีกอย่างที่ โคบี้ ไบรอันท์ เป็นได้ ทั้งที่เขาก็เริ่มต้นจากคำว่า เด็กมัธยมที่ก้าวสู่ลีกอาชีพมาเหมือนกัน

Nawapon Kiatpisan

Nawapon Kiatpisan Photo

NBA Lover