หลังดำเนินการต่อสัญญากับผู้เล่นตัวสำคัญทั้ง จอร์แดน พูล การ์ดสำรองทีเด็ด ด้วยสัญญา 4 ปี 140 ล้านเหรียญ (ประมาณ 5.35 พันล้านบาท) และ แอนดรูว์ วิกกินส์ ฟอร์เวิร์ดออลสตาร์ อีก 4 ปี 109 ล้านเหรียญ (ราวๆ 4.17 พันล้านบาท) ก็สร้างความอุ่นใจให้กับทีมและแฟน โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส ว่าพวกเขาสามารถเก็บผู้เล่นคนสำคัญเอาไว้ไล่ล่าความสำเร็จร่วมกันต่อไปได้
อย่างไรก็ตามเพดานค่าจ้างล่าสุดของพวกเขาในบัญชีรายชื่อผู้เล่น 12 คน พุ่งทะลุเกิน 215 ล้านเหรียญ (ประมาณ 8.22 พันล้านบาท) ซึ่งจะทำให้พวกเขาโดนภาษีฟุ่มเฟือยอีก 268 ล้านเหรียญ (1.02 หมื่นล้านบาท) ในฤดูกาล 2023-2024 และจากตัวเลขทั้งหมดนี้ ย่อมกระทบกับโอกาสต่อสัญญาของ เดรมอนด์ กรีน ฟอร์เวิร์ดตัวเก๋าของทีมในช่วงปิดฤดูกาลหน้าอย่างแน่นอน
พวกเขาอาจทำใจเสียกรีนแล้ว
ฤดูกาลที่กำลังจะมาถึงกรีนเตรียมรับเงินเข้ากระเป๋า 25.8 ล้านเหรียญ (ประมาณ 987 ล้านบาท) และในฤดูกาล 2023-2024 ที่เจ้าตัวถือสิทธิเพลเยอร์ออปชั่น จะรับอยู่ที่ 27.5 ล้านเหรียญ (1.05 พันล้านบาท)
แต่จากข่าวลือตลอดช่วงที่ผ่านมาทำให้หลายฝ่ายคาดเดาได้ว่า กรีน คงยอมเอาตัวเองลงทดสอบตลาดฟรีเอเย่นต์ และหวังสัญญาก้อนโตครั้งสุดท้ายในชีวิต เนื่องจากเจ้าตัวอายุ 32 ปีแล้ว
แฟนบาสเกตบอลก็คงทราบกันดีว่า วอร์ริเออร์ส อาจไม่ได้มีความยอดเยี่ยมจนสามารถคว้าแชมป์ได้มากถึง 4 สมัย หากพวกเขาไม่มี กรีน คอยทำหน้าที่ปิดทองหลังพระในเกมบุก รวมถึงเก็บกวาดทุกอย่างในเกมป้องกัน แต่กับสถานการณ์ด้านการเงินที่อ่วมขนาดนี้บวกกับความสามารถและแนวทางการทำทีมเพื่ออนาคต พวกเขาอาจต้องยอมสละใครบางคนที่มีค่าจ้างแพง และชื่อนั้นคงหนีไม่พ้นอดีตดราฟท์อันดับ 35 ของทีม
ถ้าวอร์ริเออร์ส ขยับเปลี่ยนแปลงเร็วเพื่อไม่ให้สัญญาที่หมดลงของกรีนเสียเปล่า เราอาจได้เห็นการเทรดระหว่างซีซั่นนี้เลย แต่ถ้าพวกเขายังอยากลุ้นคว้าแชมป์อีกสักสมัย ก็คงต้องยอมวัดดวงเก็บกรีนไว้ใช้งานต่อ แล้วค่อยมาตั้งโต๊ะเจรจากันอีกทีหลังจากปิดฤดูกาล 2023
และถ้าหากเรื่องยืดเยื้อไปจนถึงปี 2023-2024 แล้วปรากฏว่า กรีน กลับลำเลือกออปอิน กลับมาสู่ทีม วอริเออร์ส จะจ่ายหลังอานเลยเพราะจะโดนค่าจ้างรวมภาษีฟุ่มเฟือยอยู่ที่ 530 ล้านเหรียญ (ประมาณ 2.02 หมื่นล้านบาท)
สรุปค่าจ้างผู้เล่น วอริเออร์ส ปี 2023-24 กรณี กรีนอยู่ต่อ
สเตฟเฟ่น เคอร์รี่ 51.9 ล้านเหรียญ (1.98 พันล้านบาท)
เคลย์ ธอมป์สัน 43.2 ล้านเหรียญ (1.65 พันล้านบาท)
จอร์แดน พูล 31.3 ล้านเหรียญ (1.19 พันล้านบาท)
เดรมอนด์ กรีน 27.9 ล้านเหรียญ* (1.06 พันล้านบาท)
แอนดรูว์ วิกกิ้นส์ 24.3 ล้านเหรียญ (929 ล้านบาท)
เจมส์ ไวส์แมน 12.1 ล้านเหรียญ (463 ล้านบาท)
เควอน ลูนี่ย์ 7.5 ล้านเหรียญ (287 ล้านบาท)
โจนาธาน คูมิงก้า 6 ล้านเหรียญ (229 ล้านบาท)
ดอนเต้ ดิวินเชนโซ่ 4.7 ล้านเหรียญ* (179 ล้านบาท)
โมเซส มูดี้ 3.9 ล้านเหรียญ (149 ล้านบาท)
แพทริก บัลด์วิน จูเนียร์ 2.3 ล้านเหรียญ (88 ล้านบาท)
ไรอัน โรลลินส์ 1.7 ล้านเหรียญ (65 ล้านบาท)
เครื่องหมาย * คือผู้เล่นที่ถือสิทธิเพลเยอร์ ออปชั่น หมายถึงเลือกได้ว่าจะรับเงินก้อนนั้นหรือลองเป็นฟรีเอเย่นต์ดูเลย
หากเราดูตามรายชื่อที่สรุปมาให้ แกนหลัก 4 คนเป็นผลงานการดราฟท์ของทีมแต่กลับกินเพดานค่าจ้างทีมไปมโหฬาร ขณะที่วิกกิ้นส์คือผู้เล่นที่เทรดมาจากมินเนโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟส์
หรือจะถึงเวลาของการถ่ายเลือดเก่าออกไป ?
การบริหารทีมกีฬาที่คว้าแชมป์หรือประสบความสำเร็จในการแข่งขันถือเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมสำหรับแฟนๆ แต่ถ้าหากมันนำมาสู่การล่มสลายทางการเงินแล้วทำให้ทีมตกต่ำไปยาวนานหลายปี ก็คงไม่ใช่เรื่องที่ใครปรารถนาอยากจะเจอนัก
ปีที่ผ่านมา วอริเออร์ส เพิ่งโดนภาษีฟุ่มเฟือยไป 170.3 ล้านเหรียญ (6.5 พันล้านบาท) ซึ่งมากที่สุดในลีก และเป็นเพียง 1 จาก 8 ทีมที่โดดภาษีส่วนนี้เกินระดับ 100 ล้านเหรียญ ในขณะที่อีก 7 ทีมซึ่งโดนลีกปรับยังโดนรวมกันแค่ 136.6 ล้านเหรียญ (ประมาณ 5.2 พันล้านบาท) เท่านั้น
เดิมทีปรัญชาการทำงานของ วอร์ริเออร์ส คือการสร้างทีมเพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืนสำหรับรุ่นก่อนก็คือ 4 เสาหลักที่คว้าแชมป์ร่วมกันในปีที่แล้ว และตอนนี้พวกเขามีดาวรุ่งทั้ง เจมส์ ไวส์แมน, โจนาธาน คูมิงก้า, โมเซส มูดี้ และ แพทริก บัลด์วิน อยู่ในทีม ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาพร้อมจะปั้นและสร้างเป็นสตาร์ของยุคต่อไปในฤดูกาลหน้าเลยหรือไม่
ถ้า วอร์ริเออร์ส จะเริ่มเดินหน้าเลยเราอาจจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในบางส่วนตั้งแต่ซีซั่นหน้าแบบค่อยเป็นค่อยไป ยังไงเสียปัญหาที่ว่าพวกเขาจะล่มสลายเพราะจมไปกับรายจ่ายจำนวนมหาศาล คงไม่เกิดขึ้น ทีมบริหารหลังบ้านพวกเขาก็มีฝีมือที่ดีอยู่แล้ว แถมโค้ชอย่าง สตีฟ เคอร์ ก็สามารถสอดแทรกผู้เล่นดาวรุ่งให้มีทิศทางการเติบโตที่ดีอยู่เสมอ บางทีกลุ่มสายเลือดใหม่ของพวกเขาอาจโผล่ขึ้นมาเป็นตัวหลักตั้งแต่ฤดูกาล 2022-2023 นี้เลย แต่หากทีมยังประสบความสำเร็จต่อเนื่องก็ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจยอมจ่ายถ้าหากรายได้โดยรวมของทีมยังเติบโตอยู่จนบัญชีตัวเลขไม่ได้ขาดทุนหนักจนเกินไป