แม้ว่าฤดูกาลใหม่จะเริ่มต้นไปเพียงแค่ 2 เกม สำหรับ แอลเอ เลเกอร์ส แต่การพ่ายแพ้ทั้งหมดทำให้เราเห็นปัญหาบางอย่างที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งถ้าหากทีมไม่มีการขยับเปลี่ยนแปลง สถิติของพวกเขาอาจเลวร้ายยิ่งกว่านี้ต่อไปเรื่อยๆ
10 เกมต่อจากนี้พวกเขาจะเจอทีมแข็ง ๆ ทั้ง นักเก็ตส์ 2 เกม, ทิมเบอร์วูล์ฟส์, เพลิแกนส์, คาวาเลียร์ส, คลิปเปอร์ส ในขณะที่ทีมอย่าง เบลเซอร์ส, แจ๊ซ (2 นัด) และ คิงส์ ก็ดูไม่ได้เป็นรองมากนัก ซึ่งการเริ่มต้นที่ย่ำแย่ จะกระทบกับความมั่นใจของผู้เล่น ซึ่ง ดาร์วิน แฮม ต้องลงมือทำอะไรสักอย่างกับลูกทีมแล้ว
NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก
ระยะ 3 คะแนน
ปัญหาคาราคาซังที่แก้ไม่ตกเลยสำหรับเลเกอร์สคือ ความแม่นในการยิง 3 คะแนน ขนาดมีการโละผู้เล่นชุดเดิมออกไปมากมายและเติมบรรดาผู้เล่นมือปืนมาสู่ทีม เรายังไม่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้เท่าไหร่ ยกเว้นก็แค่พวกเขาพยายามดันทุรังชู้ตกันมากเกินไป
ทั้งเกมแพ้ วอร์ริเออร์ส และ คลิปเปอร์ส พวกเขาพยายามส่องสามคะแนนมากเป็นพิเศษ ปรากฏว่า เกมกับแชมป์เก่าพวกเขาชู้ตลง 10 จาก 40 ครั้ง คิดเป็น 25% และ เกมล่าสุดกับคลิปเปอร์ส ยิงลงแค่ 9จาก 45 หน แค่ระดับ 20% หากมองย้อนกลับไปไกลกว่านั้นช่วงเกมอุ่นเครื่องพวกเขาก็ชู้ตลงแค่ 28.6%
แปลว่านี่ไม่ใช่จุดแข็งที่ทีมควรหยิบมาเล่นเป็นอาวุธหลักเลยด้วยซ้ำ แต่ถามว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นมั้ย ก็ใช่สำหรับเกมบาสเกตบอลในยุคปัจจุบัน ทั้งหมดคงจะออกมาดูดีกว่านี้ถ้าพวกเขาพยายามชู้ตระดับ 30 ครั้ง แล้วแม่นให้เกินหลัก 30% ดูก่อน จากนั้นค่อยมาว่ากันใหม่ถ้าจะขยับจำนวนชู้ตเพิ่มถ้าพวกมือปืนของทีมฟอร์มเริ่มเข้าฝักในเกมนั้น ๆ
แต้มกระจุก บอดกระจาย
สิ่งที่เหมือนกันทั้ง 2 เกมของ เลเกอร์ส คือแต้มกระจุกอยู่ที่ผู้เล่น 3 คนหลัก อย่างเกมแรกกับวอร์ริเออร์ส ก็เป็นบิ๊กทรีของทีม เจมส์ทำ 31, เดวิส 27 และ เวสต์บรูค 19 แต้ม โดยอีกคนที่ผลงานใช้ได้คือ นันน์ ที่ลงมาทำ 13 แต้ม แต่พอดูไปที่คนอื่น ๆ ที่เหลืออีก 9 คน ไม่มีใครทำได้เกิน 5 คะแนนเลย
เกมล่าสุดกับทีมร่วมเมืองเป็น วอล์กเกอร์ ที่ 4 ซึ่งโผล่ขึ้นมาทำ 26 แต้ม ร่วมกับ เดวิส 25 และ เจมส์ 20
อีกคนที่พอไปวัดไปวาคอ ทอสคาโน่ แต่สถานการณ์คล้ายกับเกมแรก ที่เหลืออีก 5 คนไม่มีใครทำได้เกิน 5 คะแนนเลย
สำหรับทีมที่มีความแข็งแกร่งในยุคนี้ พวกเขาอาจจะมีตัวสกอร์หลักที่โดดเด่น 1-2 คน แต่พวกพระรองหรือตัวประกอบอื่น ๆ ในทีมจะพอมีแต้มในระดับที่พึ่งพาได้ให้เห็น อย่าง วอร์ริเออร์ส ในเกมแรก จอร์แดน พูล ทำ 12 คะแนน และมีตัวสำรองอีก 3 คน ทำเท่ากันที่ 8 คะแนน รวมถึงตัวป้องกันอย่าง เควอน ลูนีย์ ก็ยังมี 7 แต้ม ซึ่งถ้านับแค่กลุ่มบิ๊กทรีของ เลเกอร์ส - วอร์ริเออร์ส เป็นทีมม่วงทองทำได้เยอะกว่าด้วยซ้ำ 77 - 71 คะแนน
นอกจาก เจมส์ - เอดี ไม่มีใครคงเส้นคงวา
ถ้าจะบอกว่าการชู้ต 11 ลูกไม่ลงเลยแม้แต่หนเดียวของเวสต์บรูค ทำให้ทีมแพ้คลิปเปอร์ส ก็คงไม่ผิด แต่หากเรามองกันในระยะยาว แบ็คคอร์ตของพวกเขาทุกคนแทบไม่มีความคงเส้นคงวาให้เห็นเลย
เกมแรก เวสต์บรูค ยิงลง 7 จาก 12 ครั้ง มี 19 แต้ม พอมาเกมที่สอง เหลือ 2 คะแนนและไม่มีฟิลด์โกล
วอล์กเกอร์ที่ 4 เกมแรก ยิงลงแค่ 2 จาก 7 หน มี 5 แต้ม แต่เกมกับคลิปเปอร์ส ยิงลง 9 จาก 21 ครั้ง
นันน์ เกมแรกเด่นมาก ชู้ตลง 5 จาก 9 ครั้ง ทำ 13 แต้ม พอมาเกมสอง ชู้ต 7 ครั้งไม่ลงและไม่มีแต้ม
ทอสคาโน เกมแรกไม่มีแต้มเลย จากการชู้ตลง 0 จาก 3 หน ส่วนเกมล่าสุด ยิงลง 3 จาก 7 ครั้ง มี 8 แต้ม
ส่วนพวก รีฟส์, เบเวอร์ลี่ย์ และ ไรอัน ไม่ต้องนับเลยเพราะผลงาน 2 เกมที่ลงเล่นไม่ต่างกัน และไม่เด่นด้วย
จากภาพรวมที่สรุปมาให้ดู จะเห็นว่าตัวประกอบเลเกอร์ส ไม่มีศักยภาพในการก้าวขึ้นมาเป็นตัวมือ 3 หรือ มือ 4 ที่ไว้วางใจสำหรับทีมได้เลย
ที่ยังพอมีความหวังก็คือวันที่ เดนนิส ชโรเดอร์ หายจากอาการบาดเจ็บกลับมาเป็นทางเลือกให้กับทีม รวมถึง โธมัส ไบรอันท์ ที่อาจจะไม่ได้เก่งเกมบุกมากนัก แต่คงมาช่วยสลับเล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์ให้กับ เดวิส ได้ในบางช่วง ซึ่งเขาอาจจะทำผลงานได้ดีกว่า โจนส์ หรือ เกเบรียล