เปิดทุกความลับ : ทำไม ลูก้า และ โยคิช ถึงทำ ทริปเปิล-ดับเบิล ได้เหมือนเป็นเรื่องง่าย?

Aussadang Tarapit

เปิดทุกความลับ : ทำไม ลูก้า และ โยคิช ถึงทำ ทริปเปิล-ดับเบิล ได้เหมือนเป็นเรื่องง่าย? image

การทำสถิติบน บ็อกซ์ สกอร์ ให้เป็นเลขสองหลักถึงสามอย่างหรือที่เรียกกันติดปากว่า “ทริปเปิล-ดับเบิล” เคยเป็นสิ่งที่ยากที่จะทำ หรือถ้ามีใครคนหนึ่งทำได้ ผู้เล่นคนนั้นจะได้รับการชื่นชมอย่างมากจากทั้งสื่อและแฟนๆ ซึ่งนี่คือบริบทของยุคก่อน

ตัดภาพมาที่ปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น ลูก้า ดอนซิช หรือ นิโคลา โยคิช เขาทั้งสองคนนี้กลับทำให้มันเหมือนเป็นสถิติที่ไม่ว่าจะทำเมื่อไหร่ก็ทำได้ และดูไม่ต้องใช้ความพยายามมากมายเลยด้วยซ้ำจนทุกวันนี้แฟนๆเองก็เริ่มจะชินตากันไปแล้ว

แต่ทว่าความง่ายที่ได้เห็นผ่านการถ่ายทอดสด ความจริงแล้วมันไม่ได้มาง่ายๆอย่างที่ใครคิดกัน เพราะพวกเขาต้องมีทักษะที่เหนือกว่าคนอื่นหลายอย่างกว่าจะไปถึงจุดนั้นได้ ซึ่งในบทความนี้จะพาทุกท่านเดินทางไปเจาะลึกกันในเรื่องนี้

ทำไม ลูก้า และ โยคิช ถึงทำ ทริปเปิล-ดับเบิล ได้เหมือนเป็นเรื่องง่าย? หากใครพร้อมที่จะไขกล่องความลับแล้ว ติดตามได้เลยที่บทความนี้

NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก

ทำไม ลูก้า และ โยคิช ถึงทำ ทริปเปิล-ดับเบิล ได้เหมือนเป็นเรื่องง่าย?

1. การทำแต้มด้วยประสิทธิภาพสูง

อย่างแรกที่ต้องพูดถึงคือเรื่องการทำคะแนนที่ “มีประสิทธิภาพ” ถ้าถามว่าทำไมต้องเน้นคำนี้ นั่นก็เพราะนี่คือบ่อเกิดหลายๆอย่าง อย่างที่เรารู้กันว่า โยคิช และ ดอนซิช ต่างเป็นคนที่ทำคะแนนได้ยอดเยี่ยม และมีประสิทธิภาพมากกว่าค่าเฉลี่ยของลีกอยู่ไม่น้อย

ทั้งสองคนนี้มีการเล่น 1 ต่อ 1 อย่างยอดเยี่ยม เขาพร้อมที่จะลงโทษทุกๆคน เพิ่มเติมคือพวกเขายังเป็นคนที่กดดันห่วงได้ดี ทำให้ผู้เล่นเกมรับต้องมาซ้อนในทุกๆครั้งที่ทั้งคู่พยายามทำคะแนน ส่วน ลูก้า จะพิเศษตรงที่ เขาสามารถดึงให้ผู้เล่นมารุมได้เลยทั้งๆที่อยู่วงนอกจากความแม่นยำในการยิงสามคะแนน

หากแปลงเป็นสมการง่ายๆ การปิดผู้เล่นทั้งสองคนนี้คือการเลือกยาพิษ ถ้าคุณปิด 1 ต่อ 1 ก็คงโดนทำแต้มใส่ไม่ยั้ง แต่ถ้าเลือกที่จะรุมหรือมาซ้อนพวกเขาก็จะจ่ายได้อยู่ดี

2. ทักษะ คอร์ท-แมปปิง (Court Mapping) และ มุมมองรอบสนาม

คอร์ท แมปปิง หากให้แปลง่ายๆก็คือการรู้ตำแหน่งของผู้เล่นอีก 9 คนในสนามว่าพวกเขาอยู่ตรงไหน ไม่ใช่แค่พวกตัวเอง แต่ต้องรวมถึงคู่ต่อสู้ด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ก็เป็นผลพวงต่อจากข้อแรก เมื่อคุณโดนซ้อนหรือโดนรุมจากการเข้าทำแต้ม สิ่งที่ต้องคิดในหัวเพียงเสี้ยววินาทีก็คือ “เพื่อน และ คู่แข่ง” ยืนอยู่ตรงไหนบ้าง เพื่อที่จะหาตัวว่างให้ทำแต้มได้ง่ายที่สุด

ส่วนในกรณีที่ไม่ได้มีการ ดับเบิลทีม เกิดขึ้น สิ่งนี้ก็ยังจำเป็นเมื่อเพื่อนร่วมทีมเล่นเพลย์ต่างๆ เพราะพวกเขาที่เป็นคนถือบอลต้องรู้ตัวตลอดว่าเพื่อนจะว่างจะเพลย์นั้นในช่วงไหน

ทั้งสองคนนี้เป็นผู้เล่นที่เมื่อเพื่อนมีช่องว่าง หากพวกเขาเห็นว่ามันจะนำไปสู่แต้มได้ พวกเขาจะส่งให้ทันทีหรือเรียกง่ายๆว่าพร้อมปล่อยบอลทุกเมื่อหากเพื่อนอยู่ในตำแหน่งที่มีโอกาสจะทำแต้มได้

3. การส่งที่แม่นยำ

เมื่อมีทุกอย่างแล้ว ทักษะที่สำคัญอีกอย่างที่ขาดไปไม่ได้ก็คือการส่งที่แม่นยำ หากใครได้ดูทั้งสองคนนี้เล่นบ่อยๆจะรู้เลยว่าพวกเขามีการส่งด้วยน้ำหนักที่แม่นยำ และพอเหมาะพอเจาะในการทำแต้มมากๆ หากว่าส่งต่ำไป เบาไป สูงไป หรือแรงไป การที่จะจะบอลแล้วทำคะแนนได้เลยก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย

แถมเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจมากกว่านั้นก็คือวิธีการส่งเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย พวกเขามีการส่งที่น่าเร้าใจหลายครั้งหลายหน แต่หนึ่งสิ่งที่ยังคงอยู่ในลูกส่งเหล่านั้นก็คือความแม่นยำ

4. ขนาดตัวและความสูง

นี่อาจเป็นสิ่งที่หลายคนอาจจะมองข้ามไปเพราะมันเป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่การที่ผู้เล่นสูง 6 ฟุต 7 นิ้ว และ 6 ฟุต 11 นิ้วมีทักษะขนาดนี้ได้นั้นก็เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาแล้ว และด้วยขนาดตัวที่สูงและใหญ่นี่เองที่เปิดทางให้พวกเขาทำ ทริปเปิล-ดับเบิล ได้เป็นว่าเล่น

เมื่อต้องเจอกับคู่แข่งที่ตัวเล็กกว่า พวกเขาสามารถลงโทษได้ทุกเมื่อ แต่ถ้าอีกฝั่งไม่ยอมก็ต้องส่งคนมาช่วย ทีมของทั้งคู่ก็จะว่างขึ้นมาหนึ่งคน ถึงตอนนั้นทั้งคู่ก็ส่งให้เพื่อนที่ว่างทำแต้ม และด้วยความสูงนี้ทำให้การเล่นเป็นเพลย์เมคเกอร์ง่ายขึ้นไปอีกขั้น เพราะเขาสามารถส่งบอลได้สูงกว่าผู้เล่นคนอื่นๆและมองเห็นสนามในมุมที่กว้างกว่าคนอื่น

นี่คือสิ่งที่น่ากลัวเพราะไม่ว่าทีมอื่นจะพยายามทำอย่างไรกับทั้งสองคนนี้ ทักษะและร่างกายที่เขามีก็พร้อมที่จะสร้างหนทางในการสวนกลับตลอดเวลา เพราะฉะนั้นการมีร่างกายที่ใหญ่และสูงถือว่าเป็นความได้เปรียบอย่างยิ่ง

5. การเก็บรีบาวด์

สิ่งที่ได้ตามมาจากขนาดตัวก็คือการชิงพื้นที่วงในเพื่อรีบาวด์ ไม่ว่าจะเป็นเกมรุกหรือเกมรับก็ตาม ซึ่งเรื่องนี้ โยคิช คือเจ้าพ่อเลยทีเดียว เขาไม่ใช่คนกระโดดสูงหรือมีร่างกายที่ดีอะไรมากนัก แต่ในเรื่องการชิงพื้นที่เขาคือเบอร์หนึ่ง พอบวกกับความสูงเดิมแล้วก็ยิ่งทำให้ได้เปรียบในจุดนี้

ส่วน ดอนซิช ที่มักจะถูกซ่อนในเกมรับ ก็ใช่ตรงนี้ให้เป็นประโยชน์ด้วยการช่วยทีมเก็บรีบาวด์เรื่อยๆ จากความกว้างของตัวเขาแล้ว การที่เจ้าตัวจะเก็บรีบาวด์ได้เรื่อยๆตลอดทั้งเกมจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ

6. การเล่นโดยมีผู้เล่นทั้งสองคนนี้เป็นศูนย์กลางในเกมรุก

การเล่นของ แมฟเวอร์ริกส์ และ นักเก็ตส์ นั้น ส่วนใหญ่แล้วจะให้ผู้เล่นทั้งสองคนนี้เป็นศูนย์กลางในการสร้างเพลย์, ทำแต้ม, สกรีน หรือง่ายๆก็คือแต่ละเพลย์บอลแทบจะผ่านมือของทั้งคู่แน่นอน นี่จึงเป็นอีกที่มาว่าทำไมพวกเขาถึงมีสถิติสุดยอดแบบนี้ได้ แถมพวกเขายังทำมันได้แบบมีประสิทธิภาพอีกต่างหาก

เมื่อผนวกรวมทักษะและร่างกายแบบนี้เข้าด้วยกันแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้มาก็คือการที่พวกเขาสามารถทำสถิติ ทริปเปิล-ดับเบิล ได้เหมือนเป็นเรื่องง่าย ทั้งที่จริงแล้วมันไม่ง่ายเลย เพราะผู้เล่นบางคนก็มีทุกอย่างแต่ทำแต้มได้ไม่ดี, หรือมีทุกอย่างแต่ตัวเล็กไปจึงทำให้เก็บรีบาวด์ได้น้อย เพราะฉะนั้นการได้เห็นผู้เล่นที่ครบเครื่องแบบนี้ในยุคนี้ นับเป็นอะไรที่สุดยอดมากจริงๆ

บทความที่เกี่ยวข้อง : รู้จัก ร็อบบี อวิลา : เซ็นเตอร์ผู้ได้รับฉายาว่า นิโคลา โยคิช ระดับวิทยาลัย

บทความที่เกี่ยวข้อง : ไขข้อสงสัย : แอนโธนี เอ็ดเวิร์ดส์ กระโดดสูงแค่ไหนตอนบล็อกลูกยิงท้ายเกมของเพเซอร์ส

ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา

Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH

Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th

Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand

Aussadang Tarapit

Aussadang Tarapit Photo

นักวิเคราะห์บาสเกตบอล NBA ของ The Sporting News ผู้เจาะลึกทุกเพลย์การเล่น