เบลเซอร์ส - ลิลลาร์ด : การทำน้อยให้ได้มากจนเป็นทีมน่าจับตาของ NBA 2022-23

Nawapon Kiatpisan

เบลเซอร์ส - ลิลลาร์ด : การทำน้อยให้ได้มากจนเป็นทีมน่าจับตาของ NBA 2022-23 image

ใครจะเชื่อว่าการประกอบร่างสร้างทีมใหม่ของพอร์ตแลนด์ เทรลเบลเซอร์ส จะสามารถฟื้นตัวได้ทันตา พวกเขาสตาร์ทฤดูกาล 2022-23 อย่างยอดเยี่ยม (สถิติปัจจุบัน ชนะ 4 แพ้ 0 เกม) และ ผลงานของ ดาเมียน ลิลลาร์ด ก็ได้พิสูจน์แล้วว่า องค์กรคิดไม่ผิดที่เลือกเขาเป็นหัวใจสำคัญของทีมต่อไป


อ่านเรื่อง ทำความเข้าใจ NBA Leauge Pass ช่องทางสำหรับรับชมบาสเกตบอลเอ็นบีเอ คลิก

Anfernee Simons, Damian Lillard (Portland Trail Blazers)
Getty Images

ร้อนแรงแซงทุกทีม

ลิลลาร์ด นั่งยาวตลอด 47 เกมสุดท้ายของฤดูกาลที่แล้ว เพราะอาการบาดเจ็บและทีมต้องการทิ้งซีซั่นไปเลย หลังจากตัดสินใจเทรด ซีเจ แมคคอลลัม การ์ดคู่หูของออลสตาร์ 6 สมัย ไปให้กับ นิวออร์ลีนส์ เพลิแกนส์ อย่างไรก็ตาม “เดม” ทำเอาเราเซอร์ไพรส์ทีเดียว

ตลอด 4 เกมแรก ของฤดูกาล 2022-23 เขาเฉลี่ย 33.2 แต้มต่อเกม โดยอาศัยเวลาปรับตัวแค่เกมเปิดซีซั่นที่ฟอร์มอาจจะดูกระท่อนกระแท่นเล็กน้อย กับ ซาคราเมนโต คิงส์ แต่หลังจากนั้นเขา กด 41 แต้ม 2 เกมติด ใส่ ฟีนิกซ์ ซันส์ และ แอลเอ เลเกอร์ส รวมถึงเกมล่าสุด ทำ 31 คะแนน ให้ทีมชนะทีมแกร่งของสายตะวันตก อย่าง เดนเวอร์ นักเก็ตส์ ไปได้

ความแม่นของลิลลาร์ด ในวัย 32 ปี กลับมามีประสิทธิภาพอีกครั้ง เขายิงลงระดับ 50% ระยะสามคะแนนลงห่วง 40% และ ลูกโทษ 91.6% นี่คือ เพชรฆาตคนเดิมที่แค่เขากลับมาก็พลิกฟอร์มของ เบลเซอร์ส ได้ทั้งทีม แน่นอนว่าเป้าหมายเพลย์ออฟคงไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แม้พวกเขาเพิ่งจะเริ่มสร้างองค์ประกอบทีมใหม่ในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา

grant
Getty Images

ทำน้อยให้ได้มาก

หลังจากที่ทีมยึดติดกับการมีคู่แบ็คคอร์ต (ผู้เล่นตำแหน่งการ์ด 2 คน) เอาไว้เป็นอาวุธหลักมายาวนานหลายปี ดูเหมือนว่าการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยจะส่งกระทบที่ยิ่งใหญ่ต่อเบลเซอร์สได้ชัดเจนมาก

คู่การ์ดตัวเล็กแบบ เดม - ซีเจ ที่เก่งเกมบุกนำมาสู่ปัญหาในเกมป้องกัน พวกเขาเป็นผู้เล่นที่ทำคะแนนจากชู้ตเป็นหลัก ต้องการครองบอลในมือเหมือนกันทั้งคู่ ซึ่งเราเคยเห็นมาแล้วในอดีตกับหลายทีมว่าการเพิ่งพาที่มีแค่ คู่การ์ด ที่เก่ง ทีมมักไปได้ไม่ไกล ยกตัวอย่างเช่น เดมาร์ เดโรซาน - คายล์ ลาวรี่ย์ ซึ่งเป็นทีเด็ดของทีม โตรอนโต แร็ปเตอร์ส ที่มักจะจอดป้ายไวในรอบเพลย์ออฟเสมอ

การเติมเต็มเอา เจเรมี่ แกรนท์ เข้ามาทำให้มิติเกมบุกของพวกเขาหลากหลายขึ้น แถมได้โบนัสจากความสามารถในเกมรับที่ยอดเยี่ยมของเขา ขณะที่เด็กหนุ่มอย่าง แอนเฟอร์นี่ ไซม่อนส์ ก็สามารถทดแทนส่วนของ ซีเจ ได้อย่างยอดเยี่ยม 

เราต้องไม่ลืมว่าผลงานยอดเยี่ยมที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น เบลเซอร์ส ยังไม่ได้ใช้บริการผู้เล่นอย่าง แกรี่ เพย์ตัน ที่ 2 ซึ่งยังมีอาการบาดเจ็บอยู่ นั่นทำให้พวกเขากำลังจะกลับมามีฤดูกาลที่น่าตื่นเต้นอีกครั้ง

ส่วนหนึ่งต้องยกเครดิตให้กับทีมหลังบ้าน ที่เสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมได้แบบฉลาดมาก ๆ แต่พวกเขาจะไม่สามารถขยับปรับแต่งเพียงเล็กน้อย แต่ได้ผลลัพธ์อันมหาศาลนี้ ถ้าหากขาดศูนย์กลางของทีมอย่าง ลิลลาร์ด ที่ทำให้ผู้เล่นรอบข้างรู้สึกมีผู้นำที่พึ่งพาได้ในยามคับขัน และ สามารถลงเล่นได้อย่างสบายใจกับผู้เล่นที่มีทักษะเก่งพอจะปรับตัวได้อย่างรวดเร็วกับเพื่อนร่วมทีมใหม่ ๆ

Russell Westbrook vs. Trail Blazers (3)
(InStat)

เกมรับดีผิดหูผิดตา

อย่างที่เรากล่าวไปว่าการเข้ามาของ แกรนท์ ทำให้ระบบภายในทีมมีความยืดหยุ่นมากขึ้น เกมบุกยังคงรักษาประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงระดับเดิมเอาไว้ได้ เพราะ ตลอด 4 เกมแรก แกรนท์ ทำเฉลี่ย 17 คะแนน แม้ว่าจะเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่า แมคคอลลัม แต่วิธีการเล่นของเขาทำให้ทั้ง ลิลลาร์ด และ ไซมอน มีอิสระในฐานะตัวถือบอลมากขึ้น

แต่จุดสำคัญคือเกมรับ ที่พวกเขารั้งอันดับท้าย ๆ ของลีกมาตลอด ปี 2020 พวกเขามีเรตติ้งเกมรับอันดับ 28 จากนั้นตกลงมาที่อันดับ 29 ในปี 2021 และ ฤดูกาลที่ผ่านมาพวกเขาอยู่อันดับบ๊วยของลีกเลย

นับเฉพาะสถิติที่มีการบันทึกใน 3 เกมแรก จาก basketball-reference พอร์ทแลนด์ มีเรตติ้งเกมรับอยู่อันดับ ที่ 6 ของลีก เสียเพียง 105 แต้มจาก 100 การครองบอล และโดนคู่แข่งเจาะเฉลี่ย 107.7 แต้ม ต่อเกม น้อยที่สุดเป็นอันดับ 6 ของลีกเช่นกัน (ซึ่งถ้าเพิ่มการเสียอีก 110 แต้มกับ นักเก็ตส์ ตัวเลขจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก)

ทั้งการปล่อยคู่แข่งยิงใส่โดยรวม หรือนับแยกเฉพาะระยะ 2 แต้ม และ  3 แต้ม พวกเขาหนีจากพื้นที่ 5 อันดับสุดท้าย ขึ้นมาอยู่ระดับกลางตารางของลีก สะท้อนว่าเกมรับพวกเขาเริ่มแข็งแกร่งขึ้น จนคู่แข่งไม่สามารถบุกเป็นชู้ตลง ได้เหมือนกับฤดูกาลก่อน ๆ หน้านี้อีกต่อไปแล้ว

Portland Trail Blazers Jusuf Nurkic Anfernee Simons
Blazers.com

เปลี่ยนชั่วคราวหรือของจริง

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอาจไม่สามารถการันตีได้ว่าพวกเขาจะกลับสู่ทีมระดับเพลย์ออฟได้ แต่แนวโน้มที่ดีขึ้นคือเรื่องน่าอุ่นใจสำหรับองค์กร และ ลิลลาร์ด ที่กลับมาลงสนามด้วยความต้องการคว้าแชมป์กับทีม เบลเซอร์ส เท่านั้น

6 เกม ต่อไปพวกเขาจะเจอช่วงเวลาหนักหนาสาหัส ถ้าหากฟอร์มการเล่นยังไม่ตกลงมากนัก พวกเขาจะถือว่าสอบผ่านสำหรับโค้งแรกของฤดูกาลและอาจถูกปรับให้กลายเป็นทีมเต็งเพลย์ออฟด้วยโอกาส (อัตราต่อรอง) ที่สูงขึ้น

 

 

โปรแกรม 6 เกมต่อไป ของ เบลเซอร์ส

เปิดบ้านพบ ฮีต วันที่ 27 ตุลาคม

เปิดบ้านพบ ร็อคเก็ตส์ วันที่ 29 ตุลาคม

เปิดบ้านพบ กริซลีส์ วันที่ 3 พฤศจิกายน

เยือน ซันส์ วันที่ 5 พฤศจิกายน

เยือน ซันส์ วันที่ 6 พฤศจิกายน

เยือน ฮีต วันที่ 8 พฤศจิกายน


NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัด คลิกเลย

Nawapon Kiatpisan

Nawapon Kiatpisan Photo

NBA Lover