เน็ตส์ผลงานดีเมื่อไม่มีไครี เออร์วิง ? สถิติน่าสนใจก่อนไครีกลับมาลงสนาม

Gilbert McGregor

เน็ตส์ผลงานดีเมื่อไม่มีไครี เออร์วิง ? สถิติน่าสนใจก่อนไครีกลับมาลงสนาม image

หลังจากที่ไครี เออร์วิงต้องโดนแบนไป 8 นัดเต็มๆ สุดท้ายเออร์วิงก็มีตารางในการที่จะกลับมาลงสนามอีกครั้งในวันจันทร์ที่จะต้องเจอกับเมมฟิส กริซลีย์ ในบ้านของตัวเอง

ถึงแม้ว่าจะเปิดฤดูกาลมาได้ไม่สวยเท่าไหร่นักแต่เน็ตส์ก็เลือกที่จะแบนไครี เออร์วิงอยู่ดี แต่กลับกันในขณะที่ไม่มีเออร์วิงอยู่ในสนามทางทีมสามารถชนะไปได้ 5 เกมและแพ้แค่ 3 เกมเท่านั้น ซึ่งมันช่างดูแตกต่างกับตอนที่เขายังอยู่บนคอร์ทที่มีสถิติชนะ 2 และแพ้ไปถึง 6 เกม

ถ้าจะให้แฟร์กับตัวเออร์วิง การที่สถิติชี้มาแบบนี้ไม่ได้แปลว่าบรู๊คลินส์ เน็ตส์นั้นเป็นทีมที่ดีกว่าเมื่อไม่มีไครี เออร์วิงผู้ทำค่าเฉลี่ยในฤดูกาลนี้ไป 26.9 แต้ม 5.1 รีบาวด์และ 5.1 แอสซิสต์ในฤดูกาลนี้

ในช่วงที่ขาดไครี ดราม่าภายในทีมนั้นน้อยลงทั้งการที่ปลดโค้ชคนเก่าอย่างสตีฟ แนชออกไปเพราะผลงานที่ย่ำแย่และตั้งฌัค วอห์นขึ้นมาแทน รวมถึงเอาซิมมอนส์กลับมาในไลน์อัพอีกครั้งหนึ่งหลังจามีอาการบาดเจ็บ แน่นอนว่าการที่เน็ตส์มีเออร์วิงน่าจะกลายเป็นทีมที่ดีกว่าแต่ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาหลายๆอย่างมันไม่ได้ชี้ไปทางนั้นเท่าไหร่

นี่คือสถิติเปรียบเทียบเมื่อมีและไม่มีไครี เออร์วิงอยู่ในทีม ถึงแม้จะเป็นตัวอย่างที่ไม่ได้มากเท่าไหร่นักแต่ว่านี้ก็พอจะเป็นไอเดียได้อยู่เหมือนกัน

สถิติของเน็ตส์เมื่อมีและไม่มีไครี เออร์วิงในสนาม

 

มีเออร์วิง

ไม่มีเออร์วิง

ทั้งฤดูกาล

เกม

8

8

16

เรตติ้งเกมรุก

111.6

112.0

111.8

เรตติ้งเกมรับ

118.3

106.3

112.4

เรตติ้งสุทธิ

-6.7

5.7

-0.6

สถิติ

2-6

5-3

7-9

 

ในแวบแรกที่เราเห็น สิ่งที่สะดุดตามากที่สุดก็คือเรตติ้งเกมรับของเน็ตส์ที่ขยับจาก 118.3 ตอนเออร์วิงอยู่ลดลงเป็น 106.3 เมื่อเขาไม่อยู่ในสนาม จะเห็นได้ว่าในระยะเวลา 8 เกมที่ไครีไม่อยู่เกมรับดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หรือถ้าจะให้เปรียบเทียบแบบเห็นภาพก็คือเรตติ้งเกมรับตอนไม่มีเออร์วิงนั้นเทียบเท่ากับเกมรับอันดับ 2 ใน NBA เลยทีเดียว

เรื่องที่น่าประทับใจมากกว่านั้นคือเน็ตส์สามารถกดคู่แข่งไม่ให้ทำแต้มเกิน 100 คะแนนต่อเกมได้ในหลายนัดยกเว้นแค่เกมที่เสีย 153 แต้มให้คิงส์และ 116 แต้มที่เสียให้กับเลเกอร์สเท่านั้น การที่ได้ซิมมอนกลับมากลับมาและการโค้ชของวอห์นทำให้เกมรับดูดีขึ้นเล็กน้อย

แต่ถ้าหากเราคิดอีกมุมการที่ได้เออร์วิงกลับมาก็จะได้ความสามารถในเกมรุกของเขามาช่วยทีมซึ่งดีมากพอที่จะกลบความผิดพลาดในเกมรับของตัวเขาออกไปได้เหมือนกัน

ถ้าเราจะพูดถึงเกมรุกของเน็ตส์ การถกเถียงเรื่องนี้อาจจะต้องเริ่มที่เควิน ดูแรนท์ผู้ที่ทำแต้มสูงสุดให้กับทีมที่ทำไป 30.6 แต้มต่อเกมในฤดูการนี้และการที่ไม่มีเออร์วิงหน้าที่ของดูแรนท์ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย

สถิติของเควิน ดูแรนท์เมื่อมีและไม่มีเออร์วิง

 

เมื่อมีเออร์วิง

เมื่อไม่มีเออร์วิง

ตลอดทั้งฤดูกาล

เกม

8

8

16

นาทีต่อเกม

37.8

35.7

36.8

แต้มต่อเกม

32.5

28.8

30.6

โอกาสยิง

20.1

18.6

19.4

โอกาศยิงลูกโทษ

10.1

8.6

9.4

รีบาวด์ต่อเกม

5.6

7.5

6.6

แอสซิสต์ต่อเกม

4.4

6.0

5.2

นาทีในการลงเล่นของดูแรนท์เมื่อไม่มีเออร์วิงนั้นลดลง ต้องขอบคุณการชนะที่ขาดลอยของทีมด้วยเหมือนกันในกรณีนี้นอกจากเรื่องนาทีการลงเล่นตัวเลขหลายๆอันก็ทำให้เราได้เห็นอะไรมากขึ้นเหมือนกัน

ด้วยการที่ไม่มี 5.1 แอสซิสต์ต่อเกมของเออร์วิง ดูแรนท์ได้รับหน้าที่ในการเป็นเพลย์เมคเกอร์มากขึ้นแตะค่าเฉลี่ย 6.0 แอสซิสต์ต่อเกมในช่วงที่ไม่มีเออร์วิง ด้วยการที่เขาต้องรับหน้าที่ในการสร้างสรรค์เกมมากขึ้นทำให้จำนวนการยิงต่อเกมของเขาลดลงอย่างเห็นได้ชัดเช่นเดียวกับแต้มของเขาที่น้อยลงจาก 32.5 แต้มเป็น 28.8 แต้มต่อเกม

เราไม่ได้กำลังสื่อว่า 28.8 แต้มนั้นเป็นการทำสกอร์ที่ต่ำแต่ถ้าไครี เออร์วิงกลับมาอาจจะทำให้หน้าที่เพลย์เมคเกอร์ของดูแรนท์น้อยลงและไปโฟกัสกับหน้าที่การทำแต้มมากกว่านี้และสามารถเก็บลูกโทษได้มากขึ้นเช่นกัน

นอกจากนั้นถ้าไครีกลับมาลงสนาม เน็ตส์อาจจะดันให้ซิมมอนส์ไปเล่นในหน้าที่สร้างสรรค์เกมเพิ่มอีกคนและอาจจะทำให้เกมรุกนั้นดูลื่นไหลมากขึ้นก็เป็นได้

เออร์วิงได้กลับมาในตอนที่สถานการณ์ของทีมกำลังไปอย่างถูกทิศถูกทางซึ่งนั้นอาจจะสวนทางกับสถิติที่ได้แสดงให้เห็น ณ ตอนนี้ สิ่งที่น่าสนใจคือเมื่อเขากลับมา เออร์วิงจะกลมกลืนไปกับทิศทางนี้ของทีมหรือจะทำให้ทีมกลับไปเป็นอย่างเดิม หากเขาสามารถไปกับทิศทางของทีมได้จริงๆแฟนเน็ตส์ก็เตรียมเฮกันได้เลย

NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก

Gilbert McGregor

Gilbert McGregor Photo

Gilbert McGregor first joined The Sporting News in 2018 as a content producer for Global editions of NBA.com. Before covering the game, McGregor played basketball collegiately at Wake Forest, graduating with a Communication degree in 2016. McGregor began covering the NBA during the 2017-18 season and has been on hand for a number of league events.