ยังไม่ทันเปิดฤดูกาล ชิคาโก้ บูลส์ ก็ได้รับข่าวร้ายเมื่อ ลอนโซ่ บอล การ์ดตัวหลักของทีมจะต้องพักต่ออีกอย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ หลังจากจะต้องเข้ารับการผ่าเข่าแบบส่องกล้องเพื่อชำระล้างสิ่งแปลกปลอมและเนื้อเยื่อที่ตายแล้วบริเวณที่ปวด ทำให้เขาจะพลาดการลงเล่นช่วงเปิดฤดูกาลกับทีมอย่างแน่นอน
ถ้ายังจำกันได้ฤดูกาลที่แล้ว บูลส์ กลายเป็นทีมที่เล่นน่ากลัวมากเมื่อมี 3 ประสานตัวหลักลงพร้อมกันทั้ง บอล, เดมาร์ เดโรซาน และ แซ็ค ลาวีน ทำเอาแฟนๆบูลส์ ที่อาจจะตามเชียร์กันมาตั้งแต่สมัยยุค เดริค โรส หรือ ไกลกว่านั้น คือ ไมเคิล จอร์แดน ฝันหวานเลยว่าทีมอาจคว้าแชมป์แรกในรอบ 24 ปี
แต่พอ บอลเจ็บ ดูเหมือนว่า บูลส์ ก็จบเหมือนกัน และจากอาการบาดเจ็บที่ยืดเยื้อยาวนาน และ กินเวลามาจนถึงฤดูกาลใหม่นี้ ซึ่งทำให้แฟนบูลส์รวมถึงเพื่อนร่วมที คงคิดถึงเขาไม่น้อง
โลกส่วนตัวที่สูงแต่ไม่เท่าความพยายามที่มี
ลอนโซ่ เป็นผู้เล่นในตำแหน่งการ์ดที่ถูกจัดได้ว่าพูดน้อยมาก เขาเป็นเงียบๆไม่แสดงอาการหรือท่าทางมากนัก “เขาเป็นเด็กที่เงียบมากและไม่ค่อยพูดกับใครเท่าไหร่ เป็นคนที่ใช้ชีวิตในแบบของตนเอง ซึ่งอาจจะดูเย็นชาไปบ้าง แต่ผมคิดว่าเขาโฟกัสกับเรื่องบาสเกตบอลเป็นหลัก เขาไม่ค่อยสนใจสิ่งที่เกิดขึ้นรอบข้าง” จอร์แดน คล้ากสัน อดีตการ์ดเพื่อนร่วมกล่าวถึงบุคลิกของ บอล สมัยร่วมงานกันที่เลเกอร์ส
“เขาเป็นคนสงบ เยือกเย็น และสุขุม นั่นคือรูปแบบการเล่นของเขา” ร็อบ เพลินก้า รองประธานฝ่ายปฏิบัติการของเลเกอร์ส ยืนยันอีกเสียงเกี่ยวกับนิสัยใจคอของผู้เล่นรายนี้
แม้ว่าอดีตดราฟท์อันดับ 2 จะทำตัวผิดกับธรรมชาติของตำแหน่งที่เล่น แต่เขาก็พิสูจน์ผลงานบนสนามของเขาได้ดี มีพัฒนาการมาเรื่อยๆนับตั้งแต่ช่วงอยู่กับ เลเกอร์ส. นิวออร์ลีนส์ เพลินแกส์ และ กับทีมล่าสุดอย่าง ชิคาโก้ บูลส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชู้ตระยะ 3 คะแนน ซึ่งเคยเป็นปัญหาสมัยเข้าลีกมาในช่วงแรกกลับกลายเป็นอาวุธเด็ดที่ทีมขาดไม่ได้
ตลอด 2 ฤดูกาลแรกกับเลเกอร์ส เขาชู้ตระยะ 3 คะแนนลงแค่ 31.5% และลุกโทษยิ่งแล้วใหญ่แค่ 43.6% แต่หลังจากแอบซุ่มยกระดับการชู้ตมาเรื่อยๆ เขาชู้ตระยะ 3 คะแนนได้แม่นกว่าลูกโทษในปีรุกกี้เสียอีก โดยฤดูกาลแรกกับบูลส์ เขาชู้ต 3 คะแนนลง 42.3% และลูกโทษเพิ่มขึ้นเป็น 75%
อาการบาดเจ็บที่กินระยะเวลาการหายหน้าหายตาไปเกือบ 1 ปีเต็ม ทำให้คนรอบข้างคิดถึงเขามากๆ เช่นเดียวกับ อาตูรัส การ์นิซอวอส รองประธานฝ่ายบฏิบัติการบาสเกบอลของบูลส์ “เราคิดถึงเขาอย่างมาก เราคิดถึงรูปร่างของเขา เราคิดถึงความทะเยอทะยานของเขา พวกเราเล่นได้แย่ลงในครึ่งหลังของซีซั่น”
ฤดูกาลที่แล้ว บูลส์ กำลังฟอร์มโหดมากออกตัวด้วยสถิติ ชนะ 22 แพ้ 13 เกม ตลอด 35 นัดแรกที่ลอนโซ่ ลงช่วยทีมได้ แต่หลังจากเขาบาดเจ็บผลงานทีมก็แย่ลงชนะช่วงที่เหลือของฤดูกาลปกติแค่ 24 เกม และแพ้ 23 นัด เขาเพลย์ออฟไปก้ไม่รอดหลังจากโดนมิลวอกี้ บัคส์ ตบกระจุย 4-1 เกม
พูดน้อย ...โต้ (กลับ) หนัก
สิ่งที่เห็นได้ชัดคือความจี๊ดจาดในการเล่นเกมเร็วของบูลส์ลดประสิทธิภาพลงไป ทั้งความเร็วและการหวัง
ธรรมชาติของ ลอนโซ่ คือการเล่นเพื่อสร้างสรรค์เกม แม้ว่าเขาอาจจะไม่ได้มีความปราดเปรียวหรือเหนือชั้นแบบ คริส พอล แต่เขาเป็นคนที่สามารถกระจายเกมบุกให้กับทีมได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะการเร่งสปีดของเกม การตัดสินใจส่งบอลจังหวะโต้กลับเร็วที่สามารถสร้างความได้เปรียบในการเล่นให้กับทีมได้เสมอ
แม้กระทั่ง เดโรซาน ยังเคยกล่าวว่า “เป็นความแตกต่างที่เจ๋งและน่าตื่นเต้นมากๆ จังหวะของเกมสามารถเปลี่ยนได้ทันทีเมื่อ โซ่ ก้าวลงมาในสนาม”
ในทีมที่มีเครื่องจักรทำสกอร์ทั้ง เดโรซาน และ ลาวีน ไหนจะ นิโกล่า วูเซวิช ดังนั้นการเล่นแบบพาสเฟิร์ส (ผู้เล่นประเภทเลือกส่งลูกมากกว่าการชู้ตเอง) ภายใต้ไอคิวบาสเกตบอลที่สูงของบอล จึงมีประโยชน์กับทีมอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวะโต้กลับที่เรามักจะเห็นการจ่ายบอลจากแดนตัวเอง หรือ การเลี้ยงบอลขึ้นมา แล้วสามารถสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมทำคะแนนได้ง่ายๆ
จากสถิติเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ค่า Pace ซึ่งใช้ชีวิตวัดความการเล่นด้วยความรวดเร็วของทีมมีมากถึง 100.11 เมื่อมี ลอนโซ่ แต่จะลดลงเหลือ 98.91 เมื่อไม่มีการ์ดผู้นี้อยู่ในสนาม เช่นเดียวกับคะแนนจากการเล่นโต้กลับเร็ว จาก 14.5 แต้มต่อเกม ก็ลดลงเหลือแค่ 11.4 คะแนนต่อเกม
เสียงฝีเท้าที่ดังกว่าใครช่วยทีมได้เสมอ
วิ่งป้องกันเฉลี่ย 1.22 ไมล์ ด้วยตัวคนเดียว เป็นสถิติสูงที่สุดอันดับ 8 ของลีก นั่นคือตัวเลขในจังหวะที่ ลอนโซ่ ต้องวิ่งไล่ป้องกันแบบโยกไปโยกมาต่อเกม เขาทำหน้าที่ทั้งการสวิตช์ตัว ไล่ปิดผู้เล่นที่ว่างแทนเพื่อนที่หลุดตำแหน่ง รอโฉบตัดบอลที่ถูกจ่ายข้ามโซน วิ่งโถมเข้าใส่เพื่อป่วนการขึ้นยิงแทบทุกลูกของคู่แข่ง
ศักยภาพด้านเกมรับของบอลอาศัยทั้งไอคิว ความเข้าใจเกม ความขยัน และที่สำคัญที่สุดคือความฟิต ความหลากหลายในด้านทักษะทำให้เขาเป็นผู้เล่นแบบออลอราวน์ คือสามารถทำได้หลายสิ่ง ส่งผลให้ตลอด 35 เกมที่เขาลงเล่นกับ บูลส์ ปีก่อน เขามีค่าเฉลี่ย 12.9 แต้ม 5.5 รีบาวด์ 5.1 แอสซิสต์ 1.8 สตีล และ 1 บล็อค
ผลกระทบของบูลส์ที่เจอในซีซั่นก่อน และ ช่วงเริ่มฤดูกาลนี้ต้องรีบหาทางแก้ไขคือเกมรับเมื่อปราศจาก ลอนโซ่ ในสนาม ปีที่แล้วพวกเขามีเรตติ้งเกมรับอยู่ที่ 107 อยู่อันดับ 4 ของลีก แต่พอทีมขาดการ์ดคนนี้ เรตติ้งเกมรับพวกเขาหล่นไป 114.3 รั้งอันดับ 26 หรืออันดับ 5 จากท้ายตาราง
ไลน์อัพแห่งความตาย ที่ฆ่าได้ทุกทีม
ถ้าเราเอาแค่สถิติส่วนตัวของ ลอนโซ่ ออกมา เผินๆดูแล้วคงไม่กระทบกับทีมเท่าไหร่ ส่งผู้เล่นทำคะแนนระดับ 10 แต้มซักคน หรือผู้เล่นจ่ายบอลเก่งๆ ลงไปแทน ก็อาจจะได้ความโดดเด่นด้านใดด้านนึงแทนกันไปได้เลย แต่การแข่งขันจริงๆ ไม่ได้เหมือนในเกมคอมพิวเตอร์ หรือ เครื่องเล่นเกมต่างๆ
บอล สามารถยกระดับภาพรวมของทีม ด้วยการทำตัวเป็นเหมือนจิ๊กซอว์ชิ้นเล็ก แต่เป็นได้หลายชิ้นในเวลาเดียวกัน ทำสิ่งที่เพื่อนร่วมทีมคนอื่นพลาด หรือทำได้ไม่ดี (โดยเฉพาะเกมรับ)
ความต่อติดกับใครก็ได้จะเห็นผลมากที่สุด เมื่อเขาลงสนามพร้อมกับ นิโกล่า วูเซวิช, อเล็กซ์ คารูโซ่, เดมาร์ เดโรซาน และ แซ็ค ลาวีน ทีมบูลส์ มีค่าต่าง +/- เหนือคู่แข่งถึง 20.1 คะแนน ถือเป็นตัวเลขที่สูงมาก และทำให้การลงสนามพร้อมกันของ 5 คนนี้ คือ เดตไลน์อัพ หรือ ชุดที่ส่งลงมาเพื่อฆ่าคู่แข่งให้ตายโดยเฉพาะ
ดังนั้นการเสีย ลอนโซ่ บอล ไปในช่วงต้นซีซั่นถือเป็นเรื่องที่เสียหายสำหรับ บูลส์ อย่างมาก พวกเขาต้องเร่งหาแผนการรับมือ และลุ้นว่าอาการบาดเจ็บของการืดคนสำคัญรายนี้จะไม่บานปลายหรือลากยาวไปกว่านี้อีก เพราะแฟนๆคงตั้งตาคอยว่า บูลส์ ที่สมบูรณ์ทุกจุดจะกลับมาสร้างความยิ่งใหญ่ได้หรือไม่
