นอกจากเหตุการณ์ทะเลาะกันระหว่างฝึกซ้อมของ เดรมอน กรีน และ จอร์แดน พูล ที่มีการลงไม้ลงมือกันระหว่างช่วงซ้อม รวมถึงการประทบประทั่งของผู้เล่นในลีกเอ็นบีเออีกหลายเหตุการณ์ในอดีต ทั้ง แช็ค-โคบี้ หรือแม้แต่ ไมเคิล จอร์แดน กับ สตีฟ เคอร์ ในวงการยัดห่วงสหรัฐฯ เคยเกิดเหตุการณ์ “The Punch” หรือ การออกหมัดที่แรงและเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 1977 และผู้รับเคราะห์คือ รูดี้ ทอมยาโนวิช อดีตผู้เล่นระดับฮอลออฟเฟม ของวงการยัดห่วงสหรัฐฯ หมัดเดียวที่เขาโดนในคราวนั้นทำให้เขาต้องผ่าตัดใบหน้าใหม่ทั้งหมด และตัดสินใจอำลาสนามในเวลาต่อมา เกิดอะไรขึ้นกับเรื่องฉาวนี้ ติดตามได้ที่นี่

เหตุวิวาทแบบทั่วไป

ย้อนกลับไปวันที่ 9 ธันวาคม ปี 1977 ในการแข่งขันระหว่าง ลองแองเจลลิส เลกอร์ส กับ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ 2 ทีมชั้นนำของลีก ณ เวลานั้น เพราะช่วงเวลาดังกล่าวทีมม่วงทองมีสุดยอดผู้เล่นอย่าง คารีม อับดุล จับบาร์ นำทัพ ในขณะที่ทีมจรวดก็มีสุดยอดผู้เล่นอย่าง โมเซส มาโลน อยู่ในทีม

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับ 2 สตาร์ชื่อดังแต่อย่างใด

ความวุ่ยวายที่กลายเป็นเรื่องฉาวแห่งวงการเริ่มต้นจาก เคอร์มิต วอชิงตัน ผู้เล่นของทีมเลเกอร์ส หยุดจังหวะการเล่นโต้กลับเร็วของ เควิน คันเนิร์ท ด้วยการรวบเข้าที่เอว ซึ่งเป็นจังหวะตัดฟาล์วกันแบบทั่วไป แต่จากรายงานได้มีการระบุว่า คันเนิร์ต มีการสะบัดศอกใส่ที่หน้าของ วอชืงตัน นั่นทำให้ คารีม ซึ่งอยู่ใกล้เหตุการณ์ (บริเวณกลางสนาม) ต้องแยกผู้เล่นทั้ง 2 คนออกจากกัน แม้จะมีรายงานนำเสนอบ้างว่าในขณะนั้นผู้เล่นทั้งสองฝ่ายเริ่มตึง ๆ และ มีโอกาสก่อความรุนแรงใส่กัน แต่ไม่มีส่วนไหนที่รุนแรงเท่ากับเหตุการณ์ต่อจากนั้น

ลูกหลงที่รุนแรง

รูดี้ ทอมยาโนวิช เป็นผู้เล่นกัปตันทีมของ ร็อคเก็ตส์ ณ เวลานั้น ซึ่งเอาจริง ๆ ตัวเขาแทบจะไม่อยู่ในพื้นที่ของจังหวะปัญหาเลย (ทอมยาโนวิช อยู่ใต้แป้นฝั่งบุก) แต่เพราะการเป็นผู้นำทีมทำให้เขารีบตัดสินใจวิ่งไปพื้นที่กลางสนามเพราะต้องการแยกผู้เล่นของฝ่ายตัวเองออกมา

ความโชคร้ายคือ วอชิงตัน ซึ่งยืนอยู่ตรงนั้นไม่ได้คิดว่า ทอมยาโนวิช จะเข้ามาห้าม แต่ต้องการวิ่งเข้ามาหาเรื่องจึงออกหมัดสวนเข้าที่หน้าของ กัปตันทีมร็อคเก็ตส์ เข้าอย่างจัง

ทอมยาโนวิช ร่วงลงกับพื้นทันทีโดยใบหน้าที่อาบเลือด ซึ่งความรุนแรงในจังหวะดังกล่าวทำให้เหตุการณ์โดยรอบสงบลงอย่างรวดเร็ว ความรุนแรงเพียงหมัดเดียวนั้นทำให้ใบหน้าของ ทอมยาโนวิช พังยับเยิน จมูกของเขาหัก มีรอยกะโหลกร้าว และอาการบาดเจ็บที่ใบหน้าส่วนอื่น ๆ รวมถึงภาวะน้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลังรั่ว ซึ่งทำให้เขาต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อสร้างใบหน้าใหม่

บทลงโทษของผู้กระทำ

วอชิงตัน ถูกบทลงโทษจากลีกด้วยการปรับเงิน 10,000 เหรียญ หรือถ้าหากคิดตามเรตอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ราวๆ 40,000 เหรียญในยุคปัจจุบัน (ประมาณ 1.5 ล้านบาท) และโดนแบนจากเกมอีก 60 วัน

แต่หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพียง 2 สัปดาห์ เลเกอร์ส จัดการเทรดส่งตัว วอชิงตัน ไปให้กับทีม บอสตัน เซลติกส์ โดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องหรือถูกเรียกคุยมาก่อน และในช่วงเวลาที่ทราบเรื่องคือตอนที่เขากำลังเดินทางไปยังสนามซ้อมของทีมด้วยซ้ำไป

เจอร์รี่ เวสต์ ซึ่งขณะนั้นเป็นโค้ชของทีมเลเกอร์ส ให้สัมภาษณ์แบบตรงไปตรงมาเลยว่า “นั่นคือช่วงเวลาที่ทีมควรโอบกอดและแสดงความห่วงใยต่อวอชิงตัน แต่ในเมื่อเป็นการตัดสินใจขององค์กร และตัวผมเองก็ไม่อยากตกงาน ดังนั้นผมจึงตัดสินใจทำในสิ่งที่สร้างความหนักใจกับตัวเองมากที่สุดเช่นกัน”

แม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะสงบลง ไม่มีการสานต่อเรื่องเลวร้ายระหว่างผู้เล่นทั้งสองทีม แต่ วอชิงตัน กลายเป็นผู้เล่นที่ถูกตัดสินใจไปแล้วว่า สกปรก และ ไร้ซึ่งน้ำใจนักกีฬามากที่สุดคนหนึ่งของวงการ

ชีวิตหลังจากนั้นของทอมยาโนวิช

หลังจากพักฟื้นไม่กี่เดือน ทอมยาโนวิช ก็สามารถกลับมาลงสนามได้ อย่างไรก็ตามเขาลงเล่นในลีกเอ็นบีเอ อีกเพียง 3 ซีซั่น ก่อนตัดสินใจประกาศเลิกเล่น โดยมีข้อสังเกตุว่าสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะอาการกระทบกระเทือนที่ยังหลงเหลืออยู่จากหมัดของ วอชิงตัน

แม้ว่าเขาจะหันหลังให้กับอาชีพนักยัดห่วง แต่ ทอมยาโนวิช ก็ได้รับงานเป็นผู้ช่วยโค้ชของทีมร็อคเก็ตส์ และต่อมาก็ก้าวขึ้นเป็นเฮดโค้ชของทีม รวมถึงมีช่วงเวลาที่ได้คุมแอลเอ เลเกอร์ส ในปี 2004-2005 อีกด้วย

สมัยเป็นผู้เล่น ทอมยาโนวิช โดดเด่นมาตั้งแต่ระดับมหาวิทยาลัย เขาถูกเลือกเข้าสู่ลีกในอันดับที่ 2 ปี 1970 มีดีกรีติดออลสตาร์ 5 สมัย และ ยังมาคว้าแชมป์กับทีมในบทบาทของโค้ชปี 1994 และ 1995 ท้ายที่สุดเขาได้รับการเสนอชื่อเข้าสู่หอเกียรติยศในปี 2021