จากการจัดอันดับเป็นประจำทุกปีโดย Forbes ซึ่งจะมีการสอดส่องและรวบรวมข้อมูลนักกีฬาจากทุกวงการว่าใครคือนักกีฬาที่สร้างรายได้มากที่สุดในรอบปี และสำหรับปี 2022 ลิโอเนล เมสซี่ ดาวเตะทีมชาติอาร์เจนตินา ของสโมสรปารีส แซงต์ แชร์กแมง คือนักกีฬาที่ทำรายได้รวมสูงสุดโดยกวาดเงินไป 130 ล้านเหรียญ (ประมาณ 4.94 พันล้านบาท)
รายได้รวมไม่ได้มีแค่ค่าเหนื่อยหรือเงินรางวัล
การจัดอันดับรายได้รวมของนักกีฬาจะไม่ได้นับเพียงแค่ค่าจ้างหรือค่าเหนื่อยที่ผู้เล่นได้รับจากสโมสรหรือเงินรางวัลจากรายการแข่งขันเท่านั้น แต่จะนับรวมการเป็นพรีเซนเตอร์ของผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์ต่าง ๆ อีกด้วย
ตัวอย่างเช่น โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ยอดนักเทนนิสชาวสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งประกาศแขวนแร็คเก็ตไปเมื่อเดืนที่ผ่านมา สร้างรายได้จากการแข่งขันเพียงแค่ 7 แสนเหรียญ (หรือประมาณ 26 ล้านบาท) เท่านั้น แต่ด้วยชื่อเสียงและคุณลักษณะอันโดดเด่นทำให้เขาโกยเงินจากบทบาทพรีเซนเตอร์ไปมากถึง 90 ล้านเหรียญ (ประมาณ 3.42 พันล้านบาท) ทำให้เขารั้งอันดับของทำเนียบนักกีฬาที่สร้างรายได้มากที่สุดในปี 2022 ทั้ง ๆ ที่ผลงานในสนามและโอกาสลงแข่งขันของเขาในช่วงนั้นถือว่าน้อยเอามาก ๆ
เมสซี่ ครองบัลลังก์รวยสุด
สำหรับปี 2022 เมสซี่ คือนักกีฬาที่สร้างรายได้รวมมากที่สุดอยู่ที่ 130 ล้านเหรียญ(ประมาณ 4.94 พันล้านบาท) แบ่งออกเป็นค่าเหนื่อยจากสโมสร 75 ล้านเหรียญ (ประมาณ 2.85 พันล้านบาท) และ รายได้จากงานพรีเซนเตอร์หรือผู้สนับสนุนแบรนด์ 55 ล้านเหรียญ (ประมาณ 2.1 พันล้านบาท) ทำให้เขาขยับขึ้นไปครองบัลลังก์งนักกีฬาสร้างรายได้มากที่สุดอีกครั้ง หลังจากเคยอยู่ในตำแหน่งนี้เมื่อปี 2019
หากนับเฉพาะค่าเหนื่อยจากสโมสร เมสซี่ รั้งอันดับ 1 ด้วยเช่นกัน แต่สำหรับรายได้จากนอกสนามแข่งขัน เขารั้งอันดับที่ 3 ร่วมกับ คริสเตียโน โรนัลโด ดาวยิงทีมชาติโปรตุเกส จากสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
นักกีฬาที่สร้างรายได้มากที่สุด 10 อันดับแรกของปี 2022
ชื่อ | กีฬา | รายได้รวม | ค่าเหนื่อย/เงินรางวัล | รายได้ส่วนอื่น |
Lionel Messi | ฟุตบอล | 130 ล้านเหรียญ (4.94 พันล้านบาท) | 75 ล้านเหรียญ(2.85 พันล้านบาท) | 55 ล้านเหรียญ (2.09 พันล้านบาท) |
LeBron James | บาสเกตบอล | 121.2 ล้านเหรียญ (4.61 พันล้านบาท) | 42.1 ล้านเหรียญ (1.6 พันล้านบาท) | 80 ล้านเหรียญ (3.04 พันล้านบาท) |
Cristiano Ronaldo | ฟุตบอล | 115 ล้านเหรียญ(4.37 พันล้านบาท) | 60 ล้านเหรียญ (2.28 พันล้านบาท) | 55 ล้านเหรียญ (2.09 พันล้านบาท) |
Neymar | ฟุตบอล | 95 ล้านเหรียญ (3.61 พันล้านบาท) | 70 ล้านเหรียญ (2.66 พันล้านบาท) | 25 ล้านเหรียญ (951 ล้านบาท) |
Stephen Curry | บาสเกตบอล | 92.8 ล้านเหรียญ (3.53 พันล้านบาท) | 45.8 ล้านเหรียญ (1.74 พันล้านบาท) | 47 ล้านเหรียญ (1.79 พันล้านบาท) |
Kevin Durant | บาสเกตบอล | 92.1 ล้านเหรียญ (3.5 พันล้านบาท) | 42.1 ล้านเหรียญ (1.6 พันล้านบาท) | 50 ล้านเหรียญ (1.9 พันล้านบาท) |
Roger Federer | เทนนิส | 90.7 ล้านเหรียญ (3.45 พันล้านบาท) | 90 ล้านเหรียญ(3.42 พันล้านบาท) | 0.7 ล้านเหรียญ (26.6 ล้านบาท) |
Canelo Álvarez | มวย | 90 ล้านเหรียญ (3.42 พันล้านบาท) | 85 ล้านเหรียญ (3.23 พันล้านบาท) | 5 ล้านเหรียญ (190 ล้านบาท) |
Tom Brady | อเมริกันฟุตบอล | 83.9 ล้านเหรียญ (3.19 พันล้านบาท) | 31.9 ล้านเหรียญ (1.21 พันล้านบาท) | 52 ล้านเหรียญ (1.98 พันล้านบาท) |
Giannis Antetokounmpo | บาสเกตบอล | 80.9 ล้านเหรียญ (3.07 พันล้านบาท) | 39.9 ล้านเหรียญ (1.51 พันล้านบาท) | 41 ล้านเหรียญ (1.56 พันล้านบาท) |
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าฟุตบอลจะไม่ใช่กีฬาที่ครองอิทธิพลของการสร้างรายได้แบบผูกขาดมากนัก เพราะ 4 จาก 10 อันดับแรกคือผู้เล่นจากวงการเอ็นบีเอ และหากเรานับรวม ทอม เบรดี้ เข้าไปด้วย จะเท่ากับว่าวงการมะกันเกมส์ เข้ามาติดโผถึงครึ่งหนึ่ง และพวกเขาสร้างรายได้จากการเป็นพรีเซนเตอร์มากกว่าค่าจ้างในฐานะนักกีฬาอาชีพกันทั้งหมดอีกด้วย
แชมป์เก่าหายไปไหน
สำหรับ คอเนอร์ แมคเกรเกอร์ ยอดนักสู้ MMA ชาวไอร์แลนด์ซึ่งครองตำแหน่งนักกีฬาสร้างรายได้มากที่สุดในปีที่แล้ว หลุดจากโผ 10 อันดับแรก หล่นไปอยู่อันดับ 34 ทำรายได้รวมอยู่ที่ 43 ล้านเหรียญ (ประมาณ 1.63 พันล้านบาท)