ก่อนที่เราจะชินชากับการขอเทรดจากสตาร์ชื่อดังของ NBA ในยุคปัจจุบัน ครั้งหนึ่ง เมจิก จอห์นสัน สตาร์ชื่อดังของ แอลเอ เลเกอร์ส ก็เคยขอทีมให้เทรดเขาเช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นในปี 1981
อาชีพของ จอห์นสัน ในช่วงเริ่มต้นนั้นยอดเยี่ยมมากๆด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ไปได้ในปี 1979-80 แถมเขายังเป็นตัวสำคัญในการขึ้นมาเล่นแทน คารีม อับดุล-จับบาร์ ที่เจ็บข้อเท้าในนัดชิงไปอีกด้วย โดยที่เขากดไปถึง 42 แต้ม, 15 รีบาวด์ กับอีก 7 แอสซิสต์ ในเกมที่ 6 ของซีรีส์และพาทีมคว้าแชมป์ไปได้ในเกมเดียวกัน
แต่ทว่า หลังจากนั้นเพียงไม่นาน ความเชื่อใจระหว่าง จอห์นสัน และ หัวหน้าโค้ชของเขาอย่าง พอล เวสต์เฮด ก็พังลง จนสุดท้าย เวสต์เฮด ต้องออกจากงานไปในช่วงต้นของฤดูกาล 1981-82
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นไดอย่างไร? เราจะไปติดตามกันในบทความนี้
ย้อนรอย เมจิก จอห์นสัน ขอเทรดปี 1981
หลังจากที่ เมจิก ติดทีม All-Star และคว้าแชมป์ได้ตั้งแต่ปีแรกที่เข้าลีก ทางด้านของ จอห์นสัน ก็ต้องพบกับอาการบาดเจ็บในฤดูกาล 1980-81 ซึ่งทำให้เขาลงเล่นได้เพียง 37 เกมเท่านั้น
แต่สุดท้ายเขาก็กลับมาลงเล่นได้อีกครั้งในเพลย์ออฟ แต่ทว่า เลเกอร์ส ก็ต้องแพ้ให้กับ ร็อคเก็ตส์ ไปตั้งแต่รอบแรกของสายตะวันตก ส่วนหนึ่งก็เพราะว่า จอห์นสัน ฟอร์มไม่ดีเท่าไหร่นักในการทำฟิลด์โกลในเกมสุดท้ายของซีรีส์สามในห้าเกม โดยทำไปเพียง 10 แต้มจากการยิง 2-14 เท่านั้น
แม้ว่าหลังจากนั้น ทางด้านของ จอห์นสัน ก็ได้ตัดสินใจเซ็นสัญญา 25 ปี, 25 ล้านเหรียญ กับ เลเกอร์ส ในช่วงปิดฤดูกาล แต่ทว่าความหงุดหงิดของเขายังคงดำเนินต่อไปถึงช่วงต้นของฤดูกาล 1981-82 เนื่องจากเขาต้องการให้ พอล เวสต์เฮด ปรับให้ทีมมีการเล่นเกมรุกที่เร็วขึ้น แต่ทว่าหัวหน้าโค้ชคนนี้ก็ยังยืนกรานที่จะรันเกมผ่าน อับดุล-จับบาร์ ต่อไป
จนสุดท้าย จอห์นสัน ก็ถึงจุดเดือดในเดือนพฤศจิกายน ปี 1981 หลังจากที่ เลเกอร์ส เอาชนะ แจ๊ซ ไปได้ 113-110 ที่เขาได้เปิดเผยว่าเขาจะเข้าไปคุยกับ เจอร์รี บัสส์ เจ้าของทีมในตอนนั้นเกี่ยวกับการขอเทรด
“ผมไม่สามารถเล่นที่นี่ได้อีกต่อไป” จอห์นสันกล่าว (อ้างอิงจาก The New York Times) “ผมอยากไปจากที่นี่ ผมอยากถูกเทรด”
แพท ไรลีย์ เข้ามาเป็นโค้ชแทน พอล เวสต์เฮด
หลังจากที่ เมจิก ได้บอกกับสื่อว่าเขาต้องการที่จะถูกเทรด ทางด้านของ เลเกอร์ส ก็ปลดหัวหน้าโค้ช พอล เวสต์เฮด ทันที โดยใช้เวลาคิดไม่ถึง 24 ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ ซึ่งทาง บัสส์ ได้บอกว่าที่เขาตัดสินใจปลด เวสต์เฮด ออกไปนั้นไม่เกี่ยวกับ จอห์นสัน แต่เกี่ยวกับผลงานของทีมมากกว่า (ชนะ 7 แพ้ 4)
“แน่นอนว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ยากสำหรับเรา” บัสส์กล่าว (อ้างอิงจาก The Times) “มันไม่มีทางที่จะตำหนิใครได้เลย ผมรู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้เห็นทีมที่น่าตื่นเต้นอีกครั้ง ซึ่งสิ่งนี้มันเริ่มต้นจากเกมหรือสองเกมแรก”
ในตอนแรกนั้น บัสส์ ได้ให้ เจอร์รี เวสต์ เป็นโค้ชเกมรุก ส่วน แพท ไรลีย์ เป็นโค้ชเกมรับ ก่อนที่สุดท้าย เวสต์ จะลบทุกข้อสงสัยด้วยการประกาศว่า ไรลีย์ จะกลายเป็นหัวหน้าโค้ชคนใหม่ของ แอลเอ เลเกอร์ส ตลอดทั้งฤดูกาลนี้
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ก็นำมาสู่ความสำเร็จเมื่อ เลเกอร์ส โชว์ฟอร์มเดือดภายใต้บังเหียนของ ไรลีย์ ด้วยการชนะไป 50 จาก 71 เกมที่เหลือในฤดูกาลปกติ พร้อมกับการที่ จอห์นสัน มีค่าเฉลี่ยเกือบ ทริปเปิล-ดับเบิล 18.6 แต้ม, 9.6 รีบาวด์ และ 9.5 แอสซิสต์ ต่อเกม
ซึ่งแน่นอนว่าด้วยฟอร์มระดับนี้ ทางด้านของ เลเกอร์ส ก็ยังร้อนแรงต่อเนื่องด้วยการชนะในเพลย์ออฟ 12 จาก 14 เกมที่ลงเล่น จนเข้าไปคว้าแชมป์ได้อีกครั้งหนึ่ง แถม จอห์นสัน ยังได้ ไฟนอลส์ MVP เป็นครั้งที่สองอีกด้วย
ทั้ง ไรลีย์ และ จอห์นสัน ต่างก็จูงมือประสบความสำเร็จกันไปเรื่อยๆจนกลายเป็นตำนานของ NBA ชนะแชมป์ถึง 4 ครั้งในยุค 1980 และ จอห์นสัน ก็ไม่เคยเล่นให้กับทีมไหนเลยนอกจาก เลเกอร์ส
ซึ่งสุดท้ายแล้ว ถ้าจะให้สรุป การขอเทรดครั้งนั้นของ เมจิก จอห์นสัน อาจจะเป็นการขอเทรดที่ดีที่สุดของทั้งแฟรนชายส์ เลเกอร์ และตัว จอห์นสัน เองเลยก็ว่าได้
บทความที่เกี่ยวข้อง: ย้อนรอย เมจิก จอห์นสัน : มองข้ามไนกี้จนพลาดเงิน 5 พันล้าน
บทความที่เกี่ยวข้อง: เฟดอเวย์ขาเดียว : ท่าไม้ตายในตำนานของ เดิร์ค โนวิทซกี้
NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก