ในที่สุด เลบรอน ก็สามารถกลับมาลงสนามให้กับ เลเกอร์ส จนได้ในเกมที่ทีมต้องพ่ายให้กับ ชิคาโก้ บูลส์ ไป 108-118 คะแนน แต่เรื่องที่น่าสนใจไม่แพ้ผลการแข่งขันในเกมนี้ก็คือเขาไม่ได้ลงเป็นตัวจริงแต่ต้องลุกออกมาจากม้านั่งสำรอง
ถามว่านี่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจไหม ก็คงต้องบอกว่าไม่เท่าไหร่เพราะว่าเขาไม่ได้ลงสนามนานถึง 13 เกม การให้เขาลุกมาจากม้านั่งสำรองน่าจะเป็นเรื่องที่ปลอดภัยกว่าสำหรับการบาดเจ็บที่เขาต้องเจอมา
การต้องเป็นตัวสำรองของ เลบรอน เจมส์ เรียกได้ว่าเป็นอะไรที่หายากสุดๆเหมือนกับการงมเข็มในมหาสมุทรก็คงไม่เกินไป เพราะตลอด 20 ปีที่ เลบรอน อยู่ใน NBA เขาลงเล่นไปแล้ว 1,680 เกม ทั้งในช่วงฤดูกาลปกติและเพลย์ออฟรวมกัน และเขาได้เริ่มลงเล่นเป็นตัวจริงถึง 1,678 ครั้งด้วยกัน
ในเกมที่เจอกับบูลส์ นี่คือครั้งที่สองเท่านั้นที่เขาลงสนามด้วยการเป็นตัวสำรอง เพราะฉะนั้นเราจะย้อนกลับไปดูครั้งแรกของเขากันหน่อยดีกว่าว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร?
อ่านบทความ: เต็งแชมป์ในเงามืด : ทำไม บัคส์ ถึงน่ากลัวสำหรับทุกทีมใน NBA
การเป็นตัวสำรองครั้งแรกของ เลบรอน เจมส์
ครั้งแรกที่ เจมส์ ต้องออกมาจากม้านั่งสำรองเราคงต้องย้อนไปไกลเลยทีเดียวเพราะมันเกิดขึ้นในปี 2007 วันที่ 11 เดือนธันวาคม ซึ่งในตอนนั้นคือช่วงที่ เลบรอน เจมส์ เล่นให้กับ คาวาเลียร์ส รอบแรก โดยที่สถานการณ์ในครั้งนั้นก็ไม่ต่างจากครั้งนี้เท่าไหร่นัก
ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2007 ทางด้านของ เลบรอน เจมส์ ได้รับอาการบาดเจ็บที่นิ้วตอนที่ เซนเตอร์ ของ ดีทรอยต์ พิสตันส์ อย่าง นาซีร์ โมฮัมเม็ด ไปฟาวล์เขาในจังหวะที่พยายามข้ามเข้าหาห่วง
จากการบาดเจ็บในครั้งนั้นทำให้ตัวเขาต้องพักเป็นจำนวนห้าเกมและต้องใส่ที่ป้องกันไว้ด้วยในตอนที่เขาได้กลับมาลงสนามอีกครั้ง ในตอนแรกโค้ชของ แคฟส์ ช่วงเวลานั้นอย่าง ไมค์ บราวน์ มีแผนที่จะส่งเขาเป็นผู้เล่นตัวจริงด้วยซ้ำแต่กลับกลายเป็นว่าสตาร์อายุน้อยคนนี้เป็นคนขอลุกออกมาจากม้านั่งสำรองด้วยตัวเอง
ความจริงแล้วเรื่องมันมีอยู่ว่าฟอร์เวิร์ดของ แคฟส์ อย่าง แอนเดอร์สัน วาเรเจา ในตอนนั้นพึ่งจะต่อสัญญากับทีมออกไปอีก 3 ปี มูลค่า 17 ล้านเหรียญในวันที่ 5 ธันวาคม เนื่องจาก วาเรเจา เป็นฟรีเอเย่นต์แบบจำกัดแต่เขาไม่ได้ตัดสินใจต่อสัญญากับทีมในช่วงปิดฤดูกาลก่อนเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น
ซึ่งนัดที่ เลบรอน จะได้กลับมาลงสนามเป็นเกมในบ้านพอดิบพอดี เขาจึงตั้งใจที่จะปกป้องเพื่อนของเขาจากฟีดแบ็คเชิงลบ เจมส์เลยมีแผนในใจว่าเขาและ วาเรเจา จะลุกออกมาจากม้านั่งสำรองด้วยกันร่วมกับ แลร์รี ฮิวจ์ส ที่กลับมาลงสนามได้อีกครั้งหลังจากเจ็บไปร่วม 11 เกม
“ผมคิดว่ามันจะเพิ่มความเข้มข้นของแฟนๆในการที่ผมและ วาเรเจา เข้ามาในเกมพร้อมๆกัน ซึ่งมันก็เวิร์คนะ” เจมส์กล่าว “ผมคิดว่าการที่ผมลงไปพร้อม วาเรเจา อาจจะทำให้บางคนที่คิดจะโห่เขาหยุดลงได้”
“(ผมก็) แค่ปกป้องเพื่อนร่วมทีมของผม”
ผลงานของตัวสำรองสุดโหด
สุดท้ายแล้วแผนนี้ก็ดำเนินไปได้ด้วยดี เพราะ ฮิวจ์ส ออกมาจากม้านั่งและกลายเป็นสตาร์ในเกมนั้นด้วยการกดไป 36 แต้ม, 4 รีบาวด์, 3 แอสซิสต์, 3 สตีล กับอีก 2 บล็อก จากการยิงลงไป 13 จาก 1 ลูกด้วยกัน ในขณะที่ เจมส์ ทำไปอีก 17 แต้ม พร้อมกับ 5 แอสซิสต์ และได้ วาเรเจา ทำไปอีก 6 แต้ม, 9 รีบาวด์
ผู้เล่นจากม้านั่งสำรองของ แคฟส์ ในวันนั้นได้กลายเป็นพระเอกอย่างแท้จริงและสุดท้ายทีมก็สามารถชนะ อินเดียนา เพเซอร์ส ไปได้ 118-105 คะแนน
ถึงแม้ผลลัพท์การแข่งขันในวันนี้กับวันนั้นอาจจะไม่เหมือนกันแต่นี่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมาอย่าง เลบรอน เจมส์