ทุกก้าวเดินของ ยูตะ วาตานาเบะ ในตอนนี้คือช่วงเวลาสำคัญในชีวิตของเขาอย่างมาก นักยัดห่วงชาวญี่ปุ่นซึ่งมีประสบการณ์ในลีกเอ็นบีเอมาแล้ว 5 ปี กำลังเจอช่วงเวลาท้าทายที่เป็นการเข้าใกล้ความฝันมากที่สุดของเขา นั่นคือ การได้เล่นเคียงข้างกับผู้เล่นขวัญใจในวัยเด็กอย่าง เควิน ดูแรนท์ เพียงแต่โอกาสนี้ของเขาจะยืนยาวไปได้ขนาดไหน
นอกจากนั้น วาตานาเบะ ยังได้เปิดเผยด้วยว่าเขามีความลังเลใจอย่างมากกับการต้องเลือกระหว่างการลงเล่นในจีลีกซึ่งเขาจะได้รับเวลาการลงเล่นที่เหมาะสม หรือ จะลองเสี่ยงอยู่กับทีมในเอ็นบีเอที่ไม่สามารถการันตีอะไรให้กับเขาได้เลย
ทำไม วาตานาเบะ ต้องลังเลระหว่าง เอ็นบีเอ กับ จีลีก
วาตานาเบะ ให้สัมภาษณ์ว่า เขากังวลกับการวนลูปเดิมที่แม้ว่าจะมีชื่ออยู่ในทีมระดับเอ็นบีเอ แต่เมื่อมองถึงเรื่องคุณค่าของการเป็นส่วนหนึ่งในทีมและโอกาสในการลงเล่น นั่นทำให้เขารู้สึกว่าอาจจะดีกว่าหากเขาลองใช้เวลาในจีลีกอีกสักระยะ เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับตัวเองมากกว่านี้
“ผมได้รับข้อเสนอให้เข้าร่วมทดสอบฝีมือมากมายจากทีมในลีกเหมือนที่ผมกำลังทำอยู่ตอนนี้ แต่ก็ไม่เคยมีการยื่นข้อเสนอไหนทีเ่ป็นสัญญาการันตี ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปผมก็รู้สึกว่าตัวเองจะได้ลงเล่นแค่ในฐานะผู้เล่นคนที่ 14 หรือ 15 ของทีม เหมือนกับปีที่แล้ว (กับ โตรอนโต แร็ปเตอร์ส) ผมเลยคิดเหมือนกันว่าจะดีกว่าถ้าจะไปเริ่มต้นในจีลีก ได้เวลาลงเล่นที่เหมาะสม ได้เพิ่มความมั่นใจและความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง แล้วค่อยมารอดูว่าจะมีการติดต่อจากทีมในเอ็นบีเอหรือไม่ต่อจากนั้น ซึ่งเรื่องนี้ผมได้ปรึกษากับเอเย่นต์บ่อยมากๆ”
ถือเป็นเรื่องน่าเห็นใจเหมือนกันสำหรับ ยูตะ เพราะเขามักจะได้เวลาหรือโอกาสในการลงสนามที่น้อยเกินไป ทำให้หลายๆฤดูกาลก่อนหน้านี้ไม่ได้โชว์ฝีมืออย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันยังต้องประสบปัญหาอาการบาดเจ็บเป็นระยะอีกด้วย อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาได้พบเจอที่ เน็ตส์ ก็ทำให้ไฟของเขาลุกโชนอีกครั้ง
เควิน ดูแรนท์ นักบาสขวัญใจในวัยเรียน
ถ้าคุณเป็นนักกีฬาและมีขวัญใจหรือแบบอย่างนักกีฬาระดับโลกสักคนในวัยเด็ก กระทั่งวันหนึ่งมีโอกาสที่จะได้เล่นเคียงข้างกับบุคคลเหล่านั้น ก็คงไม่มีทางที่คุณจะปฏิเสธโอกาสเหล่านั้นได้ลง เช่นเดียวกับ วาตานาเบะ ที่มี เควิน ดูแรนท์ เป็นขวัญใจนักบาสตั้งแต่ที่ตัวเขายังเป็นนักเรียนอยู่ด้วยซ้ำ
“ผมมีโอกาสได้ลงเล่นเป็นฝ่ายตรงข้ามกับเขามาก่อน และผมรู้ดีว่าเขาน่าทึ่งมากแค่ไหน อย่างไรก็ตามเมื่อผมได้ฝึกซ้อมร่วมกับเขา ผมก็แบบว่า เฮ้ยนี่คือ ดูแรนท์ คนที่เราดูมาตลอด … ผมเลยตั้งใจที่จะฝึกฝนอย่างหนักและมั่นใจว่าตัวเองจะพัฒนาขึ้นมากกว่านี้ ขนาด เคดี อยู่ในลีก 15 ปี ประสิทธิภาพการเล่นของเขายังแทบไม่ตกลงมาเลย ผมจึงคิดว่าทุกอย่างต้องมีเหตุผล” วาตานาเบะ กล่าวถึงโอกาสที่ได้เคียงข้างกับ ดูแรนท์ ในช่วงเวลาการฝึกซ้อมกับทีมเน็ตส์
นอกจากนั้นนักบาสชาวญี่ปุ่นยังได้ประกบกับ เคดี อีกด้วย “ระหว่างการซ้อม ผมมักจะได้จับคู่กับ เคดี แม้แต่ในการซ้อมทีมกันเอง เพราะผมกับเคดี เล่นในตำแหน่งพาวเวอร์ฟอร์เวิร์ดเหมือนกัน ซึ่งผมก็พยายามอย่างเต็มที่นะ แม้จะมีหลายๆเรื่องที่ผมทำไม่ได้แบบเขา ด้วยความสัตย์จริงเลยผมไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ”
แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ หลังจากเข้าแคมป์ฝึกซ้อมกับเน็ตส์ แต่เราเชื่อว่าการได้กำลังใจจากโอกาสที่ยากจะหาได้ น่าจะช่วยให้ ยูตะ ฮึกเหิมอีกครั้งและคงเดินหน้าเต็มกำลังเพื่อโอกาสเป็นผู้เล่นตัวหลักของทีมๆนี้ ที่เขาจะได้เคียงข้างกับผู้เล่นคนโปรดในวัยเด็ก
นอกเหนือจาก ดูแรนท์ แล้ว วาตานะเบะ ยังได้อีกกำลังใจสำคัญที่เคียงข้างเขาเสมอมา
ภรรยาผู้สนับสนุนและให้กำลังใจเสมอมา
วาตานาเบะ มักจะเล่าเรื่องทุกอย่างให้กับภรรยาของเขาฟังอยู่เสมอ แม้กระทั่งช่วงที่เขารู้สึกว่าต้องตัดสินใจเรื่องเส้นทางบาสเกตบอลที่จะไปต่อ ซึ่งเขาบอกว่าภรรยาของเขาเข้าใจและสนับสนุนในทุกสิ่งที่เขาเลือก
“ผมเคยบ่นกับเธอว่า ถึงเวลาที่ผมจะหยุดทำในสิ่งที่ทำมาตลอดหรือยัง ?” วาตานาเบะเผยถึงนาทีที่เขากำลังจะถอดใจจากการลงร่วมแคมป์กับทีมใน NBA แต่เพียงเพราะภรรยาของเขายืนยันว่าอยากให้ลองทำในสิ่งที่ต้องการจนถึงที่สุด โดยเธอพร้อมจะเคียงข้างและอยู่เป็นกำลังใจให้เสมอ จึงทำให้เขาตัดสินใจด้วยความสุขุมยิ่งขึ้น
เมื่อใจเย็นลง วาตานาเบะ จึงขอสู้ต่อกับสิ่งที่พยายามมาโดยตลอด “มีผู้เล่นมากมายที่ไม่ได้ลงเอยด้วยการได้รับสัญญาแบบการันตีจากต้นสังกัด มันคือสถานการณ์ที่ต้องเลือกระหว่างการได้อยู่ในรายชื่อของผู้เล่นเอ็นบีเอต่อไป หรืออาจจะยอมทิ้งโอกาสเหล่านั้นเพื่อไปเล่นกับจีลีก การอยู่ในสถานการณ์แบบเดิมๆมาเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกันเป็นเรื่องยากสำหรับผมจริงๆ ผมเครียดนะ แต่นั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมตัดสินใจอยู่ที่นี่ต่อไป”
อย่างจากผ่่านพ้นช่วงปรีซีซั่นมา 2 เกม กับ เน็ตส์ ซึ่ง วาตานาเบะ ทำผลงานได้น่าประทับใจพอสมควร โดยเฉพาะเกมกับ ซิกเซอร์ส ที่เขาได้ลงสนามเพียง 16 นาที แต่สามารถทำได้มากถึง 10 คะแนน กับอีก 4 รีบาวด์ แต่เจ้าตัวมองว่าบทบาทและความท้าทายในทีมเน็ตส์ ยังมีอีกมากเหลือเกิน
ความสามารถในเกมรับที่ยังต้องปรับให้เข้ากับทีมใหม่
วาตานาเบะ มีความสามารถในเกมป้องกันที่โดดเด่นมาตั้งแต่สมัยอยู่กับ แร็ปเตอร์ส และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ เน็ตส์ ตัดสินใจเซ็นสัญญากับเขาในช่วงก่อนเข้าช่วงเทรนนิ่งแคมป์
“ในทีมนี้มีผู้เล่นมากมายที่เล่นแบบตัวต่อตัวได้เก่งมาก ซึ่งไม่ใช่ผมเลย ดังนั้นผมจึงต้องงัดเอาจุดเด่นอื่นมาทำประโยชน์ให้กับทีมซึ่งจะช่วยให้บทบาทของผมชัดเจนยิ่งขึ้น”
“ที่แร็ปเตอร์ส กับ เน็ตส์ มีระบบการเล่นที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ผมต้องปรับเปลี่ยน ซึ่งข้อผิดพลาดของผมคือการที่ยังประกบติดผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามมากเกินไปซึ่งเป็นความเคยชินในการเล่นกับแร็ปเตอร์ส”
“ท้ายที่สุดแล้วบทบาทของผมคือการทุ่มเททุกช่วงเวลาที่อยู่ในสนามและสร้างความแข็งแกร่งให้กับเกมรับ ทีมนี้มีผู้เล่นมากมายที่สามารถทำสกอร์ได้ ผมเองก็ต้องค้นหาสิ่งที่ผมต้องทำเพื่อทีมให้ได้เร็วที่สุด และใช้สิ่งนั้นเป็นจุดแข็งที่ทำให้ทีมต้องการผู้เล่นแบบผม”
แม้ว่าจุดเด่นของ วาตานาเบะ จะเป็นเรื่องของเกมรับ แต่อย่าลืมว่าเขามีทักษะการชู้ตระยะ 3 คะแนนที่ดีพอใช้ ตลอดอาชีพเขายิงลง 35.2% แต่ในช่วงพีคสุดๆปี 2020-2021 เขาเคยกดรัดับ 40% มาแล้ว ซึ่งถ้าเจ้าตัวสามารถเรียกฟอร์มชู้ตกลับมา และปรับตัวเข้ากับเกมรับของทีมเน็ตส์ ซึ่งไม่ใช่ทีมที่ป้องกันได้ดีนัก ขึ้นมาได้ เขาจะกลายเป็นผู้เล่นที่มีคุณลักษณะแตกต่างจากภาพรวมของทีม ถ้าหากสตีฟ แนช ต้องการพัฒนาทีมโดยต้องใช้บริการตัว ทรีแอนด์ดี วาตานาเบะ อาจกลายเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ และถึงแม้ แนช จะยังดื้อกับการสร้างทีมเกมบุกอย่างเดียว เชื่อได้ว่า ยูตะ ก็ยังเป็นเป้าหมายของทีมอื่นๆในลีกอยู่ดี
โอกาสที่จะได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอในลีกเอ็นบีเอของยูตะ วาตานาเบะ เป็นสิ่งที่น่าติดตามจริงๆ