แฟนบาสชาวเอเชียคงเฝ้าลุ้นกับผลงานของ ยูตะ วาตานาเบะ ไม่น้อย เพราหลังจากที่เขาได้รับสัญญา 1 ปี จากทีม บรู๊คลิน เน็ตส์ ซึ่งทำให้เขามีโอกาสลงเล่นเคียงกับ 3 สุดยอดผู้เล่นทั้ง เควิน ดูแรนท์, ไครี่ เออร์วิ่ง และ เบน ซิมม่อน คืออยากให้นึกภาพตามว่าถ้าตรงนั้นเป็น โอม ชนาธิป พวกเราก็คงตามลุ้นและชื่นชมกับทุกวินาทีที่ผู้เล่นประเทศบ้านเกิดเดียวกันได้ลงไปสัมผัสเกม แถมยังเคียงกับซูเปอร์สตาร์เบอร์นั้นอีก ยิ่งแล้วไปกันใหญ่
อย่างไรก็ตามก่อนจะมองไปถึงจุดนั้น ทั้ง วาตานาเบะ แฟนบาสญี่ปุ่นหรือเอเชีย ต้องวกกลับมามองแค่ช่วงเทรนนิ่งแคมป์ และ สัปดาห์ปรีซีซั่นกันก่อน
รูปแบบการเซ็นสัญญาของ วาตานาเบะ
“ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นและการแสดงความยินดี อย่างไรก็ตามนี่เป็นสัญญาที่ยังไม่รับประกัน(non guaranteed contracts) แต่ผมก็จะทำให้ดีที่สุด” การโพสต์ของ วาตานาเบะ ชี้ให้เห็นถึงสภาพความเป็นจริงว่าสัญญาที่เขาได้รับยังต้องผ่านการพิสูจน์ตัวเองให้กับทีมให้ได้ก่อนด้วย เพราะถ้าเกิดว่าผลงานของเขาไม่เข้าตา เน็ตส์สามารถโละเขาทิ้งเพื่อเคลียร์ที่สำหรับผู้เล่นคนอื่นได้ทันที
ที่สำคัญคือทางเลือกของวาตานาบะ เหลืออยู่แค่ 2 ทาง ไม่อยู่ในทีมก็ต้องหลุดออกไปเลยไม่ว่าจะด้วยการโละหรือโดนเทรดก็ตาม เพราะเจ้าตัวไม่มีสิทธิเซ็นสัญญาแบบสองทาง (Two Way contract) กับทีมใดอีกแล้ว เนื่องจากลงเล่นในลีกเอ็นบีเอ มาครบ 4 ฤดูกาล ตามกฎสูงสุดของสัญญาในรูปแบบดังกล่าว ทำให้เขาไม่มีทางอยู่แบบผู้เล่นที่ไปๆมาๆ ระหว่างจีลีกกับเอ็นบีเอได้ เหมือนสมัยที่เล่นให้กับ เมมฟิส กริซลี่ย์
ดังนั้นช่วงเข้าแคมป์เก็บตัวกับทีมรวมถึงช่วงปรีซีซั่น ยูตะ มีเท่าไหร่จะต้องใส่ให้หมดเพื่อโอกาสกับเน็ตส์จะได้ไม่หลุดมือ อย่าลืมว่าเขาต้องดิ้นรนเพื่อการติด 1 ใน 15 คน ไม่มีโอกาสในตำแหน่งพิเศษ +2 จากสัญญาทูเวย์
การแย่งชิงตำแหน่งในทีมที่สูง
วาตานาเบะ ในวัย 27 ปี เล่นในตำแหน่งสมอลฟอร์เวิร์ด แต่ด้วยรูปร่างและวิธีการเล่นในยุคปัจจุบันอาจมีบางช่วงเวลาที่เขาสามารถรับบทบาทเพาเวอร์ฟอร์เวิร์ดได้
เมื่อเราลองคาดการณ์ดูว่าเน็ตส์น่าจะการันตีใครไว้ในใจบ้างแล้วสำหรับ 15 ที่นั่งช่วงเปิดฤดูกาล พวกเขามี เควิน ดูแรนท์, ไครี่ เออร์วิ่ง, เบน ซิมม่อนส์, รอยซ์ โอนีล, โจ แฮริส, นิค แคล็กซ์ตัน, แพตตี้ มิลส์, เซ็ธ เคอร์รี่, ทีเจ วาเรน, ดาลอน ชาร์ป และ คาเมรอน โธมัส รวมทั้งหมดแล้ว 11 คน ไหนจะเพิ่งเซ็น มาเคียฟ มอร์ริส มาอีกถึงแม้จะแบบไม่การันตีเหมือนกับ วาตานาเบะ แต่ดีกรีและประสบการณ์ของ มาเคียฟ ก็ดูมาภาษีกว่า
ยังเหลือตัวแบบ โดโนแวน วิลเลียมส์ ซึ่งเป็นผู้เล่นทรีแอนด์ดี ที่เซ็นมาแบบไม่การันตีอีกคน , เคสเลอร์ เอ็ดเวิร์ดส์ , เอดมอนด์ ซัมเนอร์ และ คริส คิออซซ่า ถ้าให้พูดกันง่ายๆเลยคือ จากรายชื่อมากมายก่ายกองตรงนี้ จะมีแค่ 15 คน ที่ได้ไปต่อ และ ส่วนใหญ่มักจะเป็นกลุ่มที่มีสัญญาการันตีอยู่แล้วที่มีโอกาสมากกว่า
ขณะที่ตำแหน่งฟอร์เวิร์ดทีมมี เควิน ดูแรนท์ เป็นตัวยืนระดับ 30 นาที+ ต่อเกม ขณะที่ โอนีล, วาร์เรน และ แฮริส น่าจะจับจองตัวหมุนเวียนหลักๆของทีม รวมถึง ซิมม่อนส์ ก็เล่นในตำแหน่งนี้ได้ด้วย ถ้าฟอร์เวิร์ดชาวญี่ปุ่นจะหวังติดทีมให้ได้ เขาต้องงัดความพิเศษบางอย่างออกมาให้ทีมเห็น
ความสอดคล้องระหว่างทักษะส่วนตัวและระบบทีมเน็ตส์
จุดเด่นของ วาตานาเบะ ที่แสดงให้เห็นตลอด 4 ฤดูกาลในลีกก่อนหน้านี้ และ ผ่านความเห็นของเหล่าบรรดาแมวมอง คือเรื่องของเกมรับซึ่งมีทั้งลูกหนักและความคล่องตัวในการสลับประตัวผู้เล่น อย่างไรก็ตามจุดอ่อนที่ชัดเจนมากคือ ความสามารถในเกมบุกที่มีอย่างจำกัด โดยเฉพาะระยะ 3 คะแนนที่เคยเป็นอาวุธเด็ดสมัยที่เจ้าตัวเล่นในมหาวิทยาลัย กลับยังทำได้ไม่ดีพอในระดับลีกเอ็นบีเอ
ทีนี้เราก็ต้องลุ้นด้วยว่าทิศทางการทำทีมของ สตีฟ แนช เขาต้องการเติมอะไรให้กับทีมซึ่งต้องเกิดจากการประเมินผลงานเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และ การประเมินดูทีมช่วงปรีซีซั่นเพิ่มเติมจากการได้ ซิมม่อนส์ กลับมา
ถ้าหากต้องการเสริมเกมป้องกันซึ่งเป็นปัญหามาจากฤดูกาลก่อน ที่พวกเขามีเรตติ้งเกมรับอยู่อันดับ 20 จาก 30 ทีมในช่วงฤดูกาลปกติ และเลวร้ายหนักเมื่อเข้าเพลย์ออฟ เพราะกองอยู่อันดับ 14 จาก 16 ทีม
วาตานาเบะ อาจมีลุ้นพอสมควรขอแค่เขาต้องรักษาสภาพร่างกายให้ดี ถ้าจะเป็นอะไหล่ก็ต้องเรียกใช้งานได้เสมอ
แต่ถ้าหากทีมต้องการดันเกมบุกเต็มตัวอาจจะลำบากวาตานาเบะพอสมควร เพราะฤดูกาลที่แล้วเขาชู้ตระยะ 3 คะแนนลงแค่ 34.2% ซึ่งไม่ใช่ตัวเลขที่น่าพอใจสำหรับผู้เล่นลักษณะ ทรีแอนด์ดี แล้วยิ่งการบุกในลักษณะอื่นของเขาไม่โดดเด่น ก็ควรต้องเป็นความแม่นจากวงนอกนี่แหละที่จะเปิดโอกาสให้กับได้เล่นกับทีมระดับลุ้นแชมป์ได้
อย่างไรก็ตามในเรื่องการชู้ตอาจคาดหวังได้ เพราะย้อนกลับไปเมื่อ 2 ฤดูกาลก่อน ซึ่งสภาพร่างกายของเขายังไม่มีปัญหาบาดเจ็บ วาตานาเบะ ชู้ต 3 คะแนนลงถึง 40% ซึ่งเป็นระดับที่เหนือยกว่าสมัยที่เขาลงเล่นให้กับ มหาวิทยาลัย จอร์จ วอชิงตัน ปีสุดท้ายด้วย (ตอนนั้นชู้ตลง 36.4%)
ส่วนตัว วาตานาเบะ ก็เคยให้สัมภาษณ์ว่าเขามั่นใจกับฟอร์มการชู้ตของตัวเอง ขอแค่ได้รับโอกาสลงเล่นต่อเนื่อง “ช่วงที่ผมได้ลงเล่นบ่อยๆ ในฐานะผู้เล่นหมุนเวียนของทีม ผมสามารถชู้ตได้ในระดับ 40% แต่เมื่อต้องอยู่บนม้านั่งสำรองบ่อย แล้วต้องลงไปชู้ตในช่วงเวลาท้ายๆมันยากอยู่นะ ผมคิดว่าผมมีความสามารถในการชู้ตที่ดีกว่านี้ แต่ผมไม่มีเวลามาแก้ตัว นี่คือโลกที่ผมต้องสร้างผลงานภายในเวลาที่จำกัด”
สำหรับแฟนๆที่ตามลุ้นผลงานของฟอร์เวิร์ดจากแดนซามูไรคนนี้ ก็ต้องให้กำลังใจกันตั้งแต่เทรนนิ่งแคมป์ ลากยาวไปจนถึงช่วงปรีซีซั่น พร้อมกับภาวนาให้ วาตานาเบะ อย่าเจ็บอย่าป่วยและอย่าบอด (3 แต้ม) เราก็อาจจะได้เห็นชื่อของเขาลงเล่นเคียงข้างกับสุดยอดผู้เล่นระดับโลกในทีมเน็ตส์ ก็เป็นได้
