เพียงแค่เกมแรกอย่างเป็นทางการที่ เดเมียน ลิลลาร์ด ลงเล่นให้ บัคส์ เขาก็สร้างประวัติศาสตร์ได้แล้วด้วยการเป็นผู้เล่นที่ทำแต้มในเกมเปิดตัวได้มากที่สุดตลอดกาลของแฟรนชายส์
สถิติของเขาในเกมนี้จบลงที่ 39 แต้ม, 8 รีบาวด์ และ 4 แอสซิสต์ และสร้างความสุขให้กับแฟนๆมากขึ้นไปอีกขั้นเมื่อพาทีมชนะ ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตี้ซิกเซอร์ส 118-117 คะแนน และพาทีมเก็บชัยนัดแรกไปได้ในที่สุด
แน่นอนว่าการทำแต้มของ ลิลลาร์ด นั้นยอดเยี่ยม แต่นั่นก็ไม่ใช่ทั้งหมดเพราะเขายังส่งผลกระทบอื่นๆให้กับทีมอยู่ไม่น้อย ซึ่งนั่นจะเป็นอะไรกันบ้าง? ติดตามไปพร้อมกับเราได้ที่นี่
NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก
ลิลลาร์ด ช่วย ยานนิส ได้มากแค่ไหนจากเกมแรกที่ลงเล่น?
ตัวหลักในการโจมตีเกมรับแบบ ดรอป โคฟเวอเรจ
ก่อนที่ ลิลลาร์ด จะย้ายเข้ามา คนที่น่าไว้วางใจให้โจมตีใส่ ดรอป โคฟเวอเรจ มากที่สุดคนหนึ่งก็คือ คริส มิดเดิลตัน แต่แน่นอนว่าประสิทธิภาพของเขาไม่ได้ดีมากพอที่จะกดดันเกมรับของอีกฝั่งได้อย่างสม่ำเสมอ และเมื่อทีมได้ ลิลลาร์ด เข้ามา พื้นที่ตรงนี้ก็ถือว่าดีขึ้นอย่างชัดเจน
The Bucks set screens at the logo for Damian Lillard on three plays in a row. Good luck stopping this pic.twitter.com/kEdTlkKvuO
— Kevin O'Connor (@KevinOConnorNBA) October 27, 2023
ทั้งสามลูกในควอเตอร์สองนี้ได้บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเจ้าตัวทำได้ดีแค่ไหน จากทั้งสามเพลย์นี้เป็นการเซ็ตสกรีนสูงทั้งหมดและ ลิลลาร์ด ก็โจมตีใส่ ซิกเซอร์ส ได้อย่างดีเช่นการไดรฟ์ใส่ห่วงเมื่อไม่มี เอ็มบีด ในสนาม
ส่วนลูกที่สองก็เป็น ลิลลาร์ด อีกครั้งที่พยายามโจมตีใส่ห่วง แต่เมื่อเจอ เอ็มบีด เขาก็ขยับตัวมายิงระยะกลางลงไป สุดท้ายลูกที่สามก็เป็นลูกถนัดของ ลิลลาร์ด คือ “ถ้าคุณถอยผมจะยิง” ในเพลย์นี้ เอ็มบีด ไม่ได้ลงต่ำมาก แต่ก็อย่าลืมว่าระยะที่ ลิลลาร์ด ยิงได้ไม่ต่างจาก เคอร์รี เลย เมื่อเกมรับผ่านสกรีนมาไม่ทัน ก็กลายเป็นโอกาสทองของเจ้าตัวทันที ซึ่งเขาก็เปลี่ยนเป็นแต้มได้สำเร็จ
ผู้เล่นที่ช่วย ยานนิส จบสกอร์ในควอเตอร์ 4
จากสถิติในฤดูกาลที่ผ่านมา ยานนิสเป็นผู้เล่นดีที่สุดเป็นอันดับสองในการทำแต้มช่วงควอเตอร์สี่โดยมีค่าเฉลี่ยทั้งหมด 8.6 แต้มต่อเกม แต่เรื่องน่าเศร้าก็คือผู้เล่นของ บัคส์ คนอื่นๆไม่มีใครเลยที่จบสูงกว่าอันดับ 70
เพราะฉะนั้นการได้ ลิลลาร์ด ผู้ที่มีค่าเฉลี่ยในการทำแต้มควอเตอร์สี่ปีที่แล้วถึง 8.0 แต้มต่อเกมเข้ามานั้น จึงช่วยตรงนี้เอาไว้ได้เยอะมากๆเพราะเกมรับจะโฟกัสเพียงแค่การหยุด ยานนิส ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว นี่จึงเป็นอีกข้อดีหนึ่งของ เดเมียน ลิลลาร์ด ที่แสดงให้เห็นภายในเกมแรกที่ลงเล่น
DAME CALLED GAME. https://t.co/ECeDl36Aem pic.twitter.com/sr8MWbz2mN
— NBA (@NBA) October 27, 2023
การแบกรับหน้าที่ในเกมรุกแทน ยานนิส
38.8 เปอร์เซ็นต์ นี่คืออัตราการใช้งานของ ยานนิส อันเทโทคุมโป ในปีที่ผ่านมา หากอ้างอิงจาก Basketball Reference และไม่มีใครคนไหนเลยของ บัคส์ ที่มีอัตราการใช้งานถึง 30 เปอร์เซ็นต์ นี่จึงชี้ให้เห็นเลยว่า ยานนิส ต้องรับหน้าที่หนักแค่ไหนในการเป็นคนสร้างเกมรุกให้กับทีม
แต่ในเกมแรกที่ ลิลลาร์ด ได้ลงเล่น เขาสามารถสร้างเกมรุกแทน ยานนิส ได้อย่างดี ทั้งถือบอล, โจมตีห่วง หรือการสร้างเกม สุดท้ายเมื่อจบเกม ลิลลาร์ดนั้นมีอัตราการใช้งานอยู่ที่ 30.3 เปอร์เซ็นต์ เมื่ออ้างอิงจาก PBP Stats
ด้วยตัวเลขแบบนี้ก็สามารถพูดได้เหมือนกันว่า ยานนิส ไม่ต้องคอยสร้างเกมคนเดียวอีกต่อไป แต่ ลิลลาร์ด มายกภาระนั้นออกไปได้ด้วย แม้กระทั่งการดูด้วยตาก็สามารถยืนยันได้แล้วว่า ยานนิส ลดบทบาทลงจริงๆ
เกมรับที่ ลิลลาร์ด และ บัคส์ ต้องหาทางพัฒนา
หลายๆครั้งในเกมนี้ ลิลลาร์ด ยังคงโดนลากเข้ามาให้เล่นเกมรับอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าทีมจะพยายามซ่อนเขาเอาไว้ตรงไหนก็ตาม ซึ่งตรงนี้อาจเป็นปัญหาหนักมากกว่านี้ในเพลย์ออฟ
ถึงจะพูดแบบนี้ แต่ในเกมวันนี้เขาก็เล่นได้ไม่แย่ เพราะฉะนั้น บัคส์ ยังมีเวลามากถึง 81 เกมในการคิดตริตรองว่าจะใช้ ลิลลาร์ด อย่างไรในเกมรับให้ทีมมีผลเสียน้อยมากที่สุด ซึ่งเรื่องนี้ก็คงต้องรอดูกันในอนาคต
บทความที่เกี่ยวข้อง : หยุดไม่อยู่! เปิดแผนเด็ดท้ายเกมนักเก็ตส์ ส่ง เลเกอร์ส พ่ายนัดเปิด NBA
บทความที่เกี่ยวข้อง : เจาะแหวนแชมป์ NBA นักเก็ตส์ : มีความหมายอะไรอยู่ภายใต้ความสวยงาม?
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand