หลังจากถูกวางเอาไว้เป็นเต็ง 1 สำหรับการคว้าแชมป์ในซีซั่น 2022-2023 ตอนนี้สภาพทีมของ บอสตัน เซลติกส์ รองแชมป์เก่าคงจะว้าวุ่นกันน่าดู เพราะมีเรื่องให้แก้ปัญหากันตั้งแต่หน้าบ้านยันหลังบ้าน
ยิ่งข่าวล่าสุดเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บที่ต้องผ่าเข่าของ โรเบิร์ต วิลเลี่ยมส์ ที่ 3 ซึ่งเดิมทีคาดว่าพักราวๆ 4-6 สัปดาห์ แต่จากการยืนยันล่าสุดปรากฏว่า วิลเลี่ยมส์ ต้องพัก 8-12 สัปดาห์ นานกว่าเดิมถึงเท่าตัว
ไหนจะเรื่องของ อิเม อูโดก้า โค้ชของทีมที่ต้องพักงานยาว 1 ฤดูกาล ซึ่งผลกระทบโดยตรงคือจะขาดฝีมือการคุมทีมข้างสนามของเขา แล้วคนที่เซลติกส์เอามาแทนคือ โจ มาซซูล่า ที่แม้จะได้รับการยอมรับจากผู้เล่นในทีมพอสมควร แต่เทียบประสบการณ์แล้วยังดูห่างไกลในการคุมทีมระดับลุ้นแชมป์
ความสามารถของโค้ชขัดตาทัพ
มาซซูล่า เคยเป็นโค้ชอยู่ 2 ฤดูกาลกับ แฟร์มอนต์ สเตท ทีมระดับดิวิชั่น 2 ของบาสเกตบอลชายระดับมหาวิทยาลัย แม้ว่าจะสถิติใช้ได้ ชนะ 43 และ แพ้ 17 เกม แต่ประสบการณ์จากเกมคนละระดับอาจกลายเป็นปัญหาและอย่างที่กล่าวไป เซลติกส์ สร้างทีมมาถึงตอนนี้เพื่อลุ้นแชมป์
แบรด สตีเว่นส์ ประธานฝ่ายปฏิบัติการของทีมอาจจะต้องหาแผนสำรองเผื่อไว้ ไม่ว่าจะลิสต์รายชื่อเฮดโค้ชที่เหมาะสมกับทีมซึ่งต้องพร้อมรอเสียบงานนี้ทันที ถ้าหากผ่านช่วงต้นฤดูกาลไปแล้วสัก 20-25 เกม แล้วการทำทีมของ มาซซูล่า ดูมีปัญหา
แม้ว่าจะอยู่เป็นทีมงานและซึมซับวิธีการทำทีมของ อูโดก้า มาโดยตรง แต่เรื่องการแก้เกมน่าจะเป็นของแสลงสำหรับโค้ชมือใหม่ งานนี้ก็ต้องรอเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า มาซซูล่า จะคว้าโอกาสที่มีสร้างชื่อหรือพังตัวเองมากกว่ากัน
ปัญหาวงในหลังจากเสีย วิลเลียมส์ ที่ 3
ขณะเดียวกันการก้าวขึ้นมาของ มาซซูล่า ยังต้องมาเจอช่วงเวลาที่ทีมมีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บโดยเฉพาะในรายของ โรเบิร์ต วิลเลี่ยมส์ที่ 3 ซึ่งเป็นตัวป้องกันชั้นยอดของทีม แถมผลงานฤดูกาลที่แล้วยังอุตส่าห์ทำ 10 แต้ม 9.6 รีบาวด์ และ 2.2 บล็อค ทั้งหมดเป็นสถิติค่าเฉลี่ยดีดีที่สุดในอาชีพ แม้ว่าตัวเลขจะไม่สูงแต่พัฒนาการของเขาที่ต้องหยุดในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลถือเป็นเรื่องน่าเสียดาย แล้วต้องมาลุ้นอีกว่ากลับมาจะเหมือนเดิมหรือไม่
สถิติช่วงหนึ่งของฤดูกาลที่ระบุว่า ผู้เล่นที่บุกใส่ วิลเลี่ยมส์ที่ 3 (หรือโดนเขาประกบ) จะมีฟิลด์โกลแย่ลง 6.4% จากมาตรฐานปกติที่ทำได้ ซึ่งเป็นส่วนต่างที่มากที่สุดสำหรับผู้เล่นที่เคยป้องกันการชู้ตมากกว่า 500 ครั้งขึ้นไป
ขณะเดียวกัน เรตติ้งเกมรับของวิลเลียมส์ ยังอยู่ที่ 102.3 ต่อ 100 การครองบอล ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งทีมซึ่งป้องกันดีที่สุดเป็นอันดับ 2 ของลีก โดยเซลติกทั้งทีม มีเรตติ้งป้องกันอยู่ที่ 106.9 แค่มองจากตัวเลขก็ถือว่ากระทบมากแล้ว และการขาดเขาในสนามคือการเสียตัวป้องกันพื้นที่วงในที่เคลื่อนที่เร็วมากพอสำหรับการช่วยสลับตัวประกบ ดังนั้นปัญหาเกมรับจะมีโอกาสพังแบบโดมิโนได้เลย
และต้องไม่ลืมด้วยว่าก่อนหน้านั้น ดานิโล่ กัลลินารี่ ที่ทีมเพิ่งไปเซ็นสัญญามาเพื่อช่วยเสริมเกมบุกของชุดสำรอง ก็ต้องพักทั้งซีซั่นไปก่อนหน้านั้นแล้ว ต้องวัดใจกับ มัลคอล์ม บรอกดอน การ์ดตัวใหม่ที่เทรดมาจาก อินเดียนา เพเซอร์ส แล้วว่าจะช่วยทีมได้มากขนาดไหน
บรรยากาศภายในทีมที่ต้องระมัดระวัง
ข่าวร้ายต่างๆนานาที่เกิดขึ้นกับทีมย่อมกระทบกับสภาพจิตใจและสมาธิของผู้เล่น ปัญหารุมเร้าที่เกิดขึ้นอาจจะต้องอาศัยผู้เล่นเก๋าๆเช่น แอล ฮอลฟอร์ด คอยคุมบรรยากาศในทีมให้อยู่
แผลเรื่องสภาพจิตใจอาจจะยังไม่เกิดทันที แต่ถ้าหากพวกเขาเริ่มต้นช่วงปรีซีซั่นได้ไม่น่าประทับใจ รวมทั้งการออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ได้ไม่ดี จะเริ่มมีคำถามจากสื่อ แฟนๆ และ ประเด็นดราม่า มากดดันพวกเขาแน่นอน ที่สำคัญการลงเล่นในฐานะรองแชมป์เก่าน่าจะเป็นมาตรฐานที่กดดันพวกเขาเอาไว้อยู่แล้วเช่นกัน เพราะยังไงความคาดหวังที่สูงมักจะตามมาด้วยการแบกรับที่ต้องใช้พลังเยอะไปตามๆกัน
