การแข่งขันในสายตะวันตกของเอ็นบีเอก็เข้มข้นมาตลอด หลายๆทีมมีการเสริมตัวผู้เล่น แต่บางทีมก็อาจจะคาดหวังจากผู้เล่นเก่าให้ยกระดับผลงานตัวเองก็เป็นเรื่องที่ง่ายกว่า The Sporting News จึงจัดบทวิเคราะห์ว่า ผู้เล่น 15 คน จาก 15 ทีม คนไหนบ้าง ที่จะกลายเป็นตัวแปรหรือปัจจัยสำคัญของทีมใน NBA ฤดูกาล 2022-2023

คริสเตียน วูด : ดัลลัส แมฟเวอริกส์

จากผู้เล่นอันดราฟท์ วูด ในวัย 27 ปี พิสูจน์ตัวเองให้เห็นแล้วว่าเขาดีพอจะอยู่กับทีมระดับลุ้นแชมป์ การเข้ามาร่วมงานกับ ลูก้า ดอนซิช ที่แมฟเวอริกส์ จะเป็นบันไดอีกขั้นที่เขาจะต้องก้าวขึ้นมาให้ได้

วูด มีทักษะเกมบุกที่หลากหลาย และ ดอนซิช มีความเป็นเพลย์เมกเกอร์อยู่ในตัว ซึ่ง แมฟส์ คือทีมที่ขาดการเล่นแบบ พิก แอนด์ โรล มาชัดเจนมากในฤดูกาลที่แล้ว ถ้าหากวูด เข้ามาเติมเต็มและปรับวิธีการเล่นให้ทันและเข้ากับ ลูก้า ได้ รับรองว่าแฟนๆที่นี่จะรักเขามากแน่ๆ ซึ่งจะช่วยให้ทีมมีหมัดเด็ดเพิ่มขึ้นจนอาจทำได้ดีกว่าฤดูกาลที่ผ่านมา

ไมเคิล พอร์เตอร์ จูเนียร์ : เดนเวอร์ นักเก็ตส์

หลังจากบาดเจ็บหลังจนต้องเข้ารับการผ่าตัดเป็นครั้งที่ 3 ฤดูกาลหน้า พอร์เตอร์ จูเนียร์ น่าจะกลับมาช่วยทีมได้ และ เขาต้องยกระดับเกมป้องกันของตัวเองขึ้นเพื่อไม่ให้เขากลายเป็นบ่อของทีมจนเกินไป ส่วนระยะ 3 คะแนนถ้าเขาทำได้ดีเหมือนปี 2020-2021 ที่ยิงลง 44.5% จะช่วยให้เกมบุกของทีมน่ากลัวมากๆ

ก่อนบาดเจ็บเขาเพิ่งต่อสัญญากับทีมไป 5 ปี 172 ล้านเหรียญ (ประมาณ 6.48 พันล้านบาท) ดังนั้นเพื่อเป็นการตอบแทนทีม การสร้างผลงานเพื่อให้ทีมมีโอกาสคว้าแชมป์จึงเป็นเรื่องที่ดีที่สุด

เจมส์ ไวส์แมน : โกลเด้น สเตท วอริเออร์ส

ดาวรุ่งตัวความหวังของทีมที่ยังคงรอการพิสูจน์ผลงานในสนาม เพราะนับตั้งแต่ถูกดราฟท์เข้ามาในอันดับ 2 เมื่อปี 2020 เขาได้ลงเล่นไปแค่ 39 เกม และเทรนนิ่งแคมป์ในตอนนี้ยังเป็นการเก็บตัวฝึกซ้อมครั้งแรกกับทีมอีกด้วย

แต่ด้วยทักษะการเล่นและผลงานสมัยระดับมหาวิทยาลัยที่ทำเฉลี่ย 19.7 แต้ม และ 10.3 รีบาวด์ ก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ถ้าหากเขาจะถูกคาดหวังสูง โดยเฉพาะการเล่นในตำแหน่งวงในซึ่งทีมต้องการคนที่จะมารับช่วงต่อจาก เดรมอนด์ กรีน ในอนาคต

เควิน พอร์เตอร์ จูเนียร์ : ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์

นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม ร็อคเก็ตส์ การ์ดวัย 22 ปี ก็โชว์ผลงานที่ก้าวกระโดดจากสมัยที่อยู่กับ คาวาเลียร์ส ได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะการชู้ตระยะ 3 คะแนน และความพยายามในการเล่นเกมป้องกัน

แม้ว่าฤดูกาลหน้า ร็อคเก็ตส์ จะยังคงสภาพการสร้างทีมใหม่ ซึ่งหน้าจะให้โอกาสตัวดาวรุ่งลงเล่นเป็รนหลัก นำโดย จาบารี สมิธ จูเนียร์ ดราฟท์อันดับ 3 ปีล่าสุด และ จาเลน กรีน ดราฟท์เบอร์ 2 เมื่อปีที่แล้ว ซึ่ง พอร์เตอร์ ยังไม่ได้รับการต่อสัญญาที่เป็นการการันตีว่าเขาอยู่ในแผนทำทีมระยะยาว ดังนั้นนี่คือโอกาสที่เขาจะสร้างมูลค่าให้กับตัวเอง 

คาไว เลียวนาร์ด : ลอสแองเจลลิส คลิปเปอร์ส

คลิปเปอร์ส ร่วงตกรอบเพลย์อินเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา แต่กลับคัมแบ็คคืนสนามซ้อมของ คาไว ทำให้ทีมจะยกระดับไปอีกขั้น ด้วยศักพภาพระดับเอ็มวีพีและประสบการณ์ที่เคยคว้าแชมป์มาแล้ว 2 ครั้ง 

ปัญหาเพียงอย่างเดียวที่ต้องลุ้นคือ คาไว จะมีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์และยืนระยะได้แค่ไหน บวกกับการร้างสนามไปนานอาจทำให้เขาสนิมจับหรือไม่ แต่อย่างน้อยเชื่อว่าแฟนๆของทีมอุ่นใจกว่าเมื่อมี เดอะ คลอว์ อยู่ในสนามให้พวกเขาส่งเสียงเชียร์

แอนโธนี่ เดวิส : ลอสแองเจลลิส เลเกอร์ส

ปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงาน เอดี เป็นระยะ ตลอด 2 ฤดูกาลที่่ผ่านมาเขาลงช่วยทีมได้เพียง 76 เกม ซึ่งรวมกับฟอร์มในสนามก็ยังดูว่า น้องคิ้ว ห่างหายจากจุดพีคไปนานนับตั้งแต่การคว้าแชมป์เมื่อปี 2020

ระยะ 3 คะแนนที่เคยหวังพึ่งได้ลดลงเหลือแค่ 18.6% ในซีซั่นที่ผ่านมา ถ้าหากสิ่งที่เขาพูดว่าเป็นเพราะมีอาการบาดเจ็บที่ข้อมือคือเรื่องจริง ฤดูกาลหน้าเราน่าจะได้เห็นฟอร์มการชู้ตที่มีฟอลโล่ทรูสวยๆของเขา พร้อมกับเสียงตาข่ายยามบอลพุ่งลงห่วงมากขึ้น

จาเรน แจ็คสัน จูเนียร์ : เมมฟิส กริซลีส์

หลังจากโชว์ผลงานสมราคาดราฟท์อันดับ 4 จนมีลุ้นคว้ารางวัลผู้เล่นป้องกันยอดเยี่ยมแห่งปี เจเจเจ ก็ต้องมาเจอกับข่าวร้ายที่เขาจะต้องพักยาว 4-6 เดือน (นับตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา) 

กว่าจะได้เห็นเขาลงสนามอีกครั้งอาจจะช่วงเดือนมกราคม ซึ่งกริซลี่ส์ มีโครงสร้างทีมที่พร้อมจะเข้าเพลย์ออฟได้อยู่ ดังนั้นเมื่อเขาลงสนามกลับมาอีกครั้งจะต้องเร่งคืนฟอร์มเก่งทันที ชนิดที่ว่าไม่มีเวลาให้ค่อยๆปรับตัวหรือจับจังหวะเกม ถ้าหากเขาตั้งเป้าจะเป็นผู้เล่นบิ๊กแมนระดับต้นของลีก เขาก็ต้องผ่านช่วงเวลาและบททดสอบนี้ไปให้ได้

ดิ แอนเจโล่ รัสเซลล์ : มินเนโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟส์

ดีโล คือจุดเดียวที่เราชื่อว่าหากเขารักษาความคงเส้นคงวา และเป็นตัวคุมบอลที่วางใจได้ จะเป็นส่วนที่ช่วยยกระดับทีมวูล์ฟก้าวขึ้นไปสู่ทีมลุ้นเข้ารอบเพลย์ออฟลึกๆ

องค์ประกอบที่มีทั้ง แอนโธนี่ เอ็ดเวิร์ดส์, คาร์ล แอนโธนี่ย์ ทาวน์ส และ รูดี้ โกแบร์ เป็นบิ๊กทรี คือสิ่งที่สร้างความสะพรึงให้กับทีมอื่นได้แน่นอน แต่ รัสเซลล์ จะสามารถสร้างผลงานการเป็นคอนดักเตอร์ ที่คอยควบคุมและกำหนดทิศทางเกมภายใต้ส่วนผสมเหล่านี้ได้ดีแค่ไหน 

ที่กล่าวว่าให้ ดีโล สม่ำเสมอ เพราะถ้าย้อนกลับไปดูเพลย์ออฟปีก่อนที่พวกเขาแพ้ กริซลี่ส์ นั้น เขาคือ 1 ในปัจจัยแห่งความพ่ายแพ่เลย ทั้งการเสียเทิร์นโอเวอร์ง่ายๆ และ การชู้ตที่ต่ำกว่ามาตรฐานมากๆ โดยเฉพาะระยะ 2 คะแนนที่ลงแค่ 29.3%

ไซออน วิลเลียมสัน : นิวออร์ลีนส์ เพลิแกนส์

ดราฟท์อันดับ 1 ปี 2020 ฝากผลงานและลีลาการเล่นเอาไว้ในระดับที่ทำให้แฟนบาสคิดถึงเขาอย่างมาก 

ค่าเฉลี่ย 25.7 แต้ม ฟิลด์โกล 60.4% จาก 85 เกมที่ลงเล่น ทำให้เขาอยู่ระดับเดียว ชาคีล โอนีล เลยก็ว่าได้

ความดุดันยามลุยเข้าวงใน และ การเล่นได้อย่างแข็งแกร่ง ทำให้การกลับมาลงสนามอีกครั้งคราวนี้ของ ไซออน เป็นที่จับตามองมากกว่าจะช่วยพาทีม เพลิแกนส์ ที่องค์ประกอบลงตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ไปได้ไกลกว่าปีที่แล้วหรือไม่

ลู ดอร์ท : โอคลาโฮมา ซิตี้ ธันเดอร์ส

่สวิงแมนวัย 23 ปี เพิ่งได้รับการต่อสัญญากับทีมออกไปอีก 5 ปี 87.5 ล้านเหรียญ (3.3 พันล้านบาท) ทำให้เขาน่าจะเป็น 1 ในตัวผู้เล่นที่ โอเคซี วางเอาไว้ในแผนการทำทีมระยะยาว

ดอร์ท ป้องกันได้เก่งและรับบทบาททำหน้าที่ปิดทองหลังพระ ส่วนเกมบุกที่พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ ทีมก็หวังว่าเขาจะยังพัฒนาต่อไป

ดีอันเดร เอย์ตัน : ฟีนิกซ์ ซันส์

อดีตดราฟท์อันดับ 1 ปี 2018 เติบโตและกลายเป็นเสาหลักของซันส์ และเขาพึ่งจะได้รับการต่อสัญญากับทีมไปอีก 4 ปี 133 ล้านเหรียญ (ประมาณ 5.01 พันล้านบาท) 

เอย์ตัน ในวัย 24 ปี ซึ่งกำลังเข้าสูช่วงพีคของอาชีพ จะมีเป้าหมายใหญ่คือการโชว์ผลงานพาทีมคว้าแชมป์และตัวของเขาเองก็อยากเข้าไปมีชื่ออยู่ในออลสตาร์เกมด้วย

ดาเมียน ลิลลาร์ด : พอร์ทแลนด์ เทรล เบลเซอร์ส

เสาหลักของทีมทีกลายเป็นตัวแทนแห่งความซื่อสัตย์ในลีกเอ็นบีเอยุคนี้ อย่างไรก็ตามฤดูกาลที่ผ่านมาเขาไม่สามารถลงช่วยทีมได้มากนักหลังจากได้รับบาดเจ็บจนพักยาวค่อนซีซั่น และ เบลเซอร์ส ก็พลาดเพลย์ออฟหนแรกในรอบ 9 ปี 

ฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึง ลิลลาร์ด จะต้องเค้นฟอร์มเก่งระดับการ์ดแนวหน้าของลีกคืนกลับมา โดยปีที่แล้ว การ์ดวัย 32 ปี เพิ่งจะมีฟิลด์โกล ที่แย่สุดในอาชีพ 40.2% และ สามแต้มลงแค่ 32.4% พร้อมกับประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมใหม่อย่าง เจรามี่ แกรนท์ ให้ลงตัวเพื่อยกระดับให้พอร์ทแลนด์ เป็นทีมกลุ่มเพลย์ออฟเหมือนเดิมให้ได้ 

ดี แอรอน ฟ็อกซ์ : ซาคราเมนโต คิงส์

ถ้าคิงส์ จะสถานปนาตัวเองให้กลายเป็นยอดทีมของฝั่งตะวันตก ฟ็อกซ์ คือปัจจัยสำคัญอย่างมาก ความเร็วและความสามารถในเกมบุกของเขาคือระดับการ์ดชั้นนำของลีก 

แต่ ฟ็อกซ์ อาจต้องพิสูจน์ตัวเองในฐานะผู้เล่นที่จะต้องไปถึงระดับออลสตาร์ เพิ่มความสม่ำเสมอ และศักยภาพในการชู้ต รวมถึงการเล่นให้เข้าขากับ โดแมนทาส ซาบอนิส ให้มากขึ้นอีกด้วย

เดวิน วาสเซลล์ : ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส

ดราฟท์อันดับ 11 เมื่อปี 2020 ของสเปอร์ส เริ่มฉายแววความเก่งในฤดูกาลที่ 2 เมื่อเขาได้เวลาลงเล่นมากขึ้นผลงานโดยรวมก็ดีขึ้นตามไปด้วย ที่สำคัญเขากำลังถือสัญญาการันตีปีสุดท้าย ดังนั้นการพิสูจน์ผลงานกับทีมที่กำลังสร้างใหม่แบบนี้ คือโอกาสดีที่จะได้รับการต่อสัญญาด้วยตัวเลขที่มากขึ้นหลายเท่า

การจากไปของ เดชอนเต้ เมอร์เรย์ ยิ่งเปิดโอกาสลงสนามของ การ์ดวัย 22 ปี รายนี้อีกด้วย ดังนั้นเขาต้องรีบคว้าช่วงเวลานี้ไว้ ที่สำคัญเขามีโอกาสพัฒนาตัวเองกับโค้ชที่ปั้นผู้เล่นเก่งมากที่สุดคนหนึ่งของลีก

มาลิค บีสลี่ย์ : ยูท่าห์ แจ๊ซ

ถ้ามองกันในแง่เกมบุก บีสลี่ย์ คือหนึ่งในผู้เล่นที่ทักษะการทำแต้มรอบด้านทีน่าสนใจมาก ทำเฉลี่ยระดับ 20 แต้ม กับ มินเนโซต้า ทิมเบอร์วูล์ฟส์ และอายุการใช้งานก็ยังอีกยาวไกล เพราะเพิ่งจะอายุ 25 ปี

การย้ายมาอยู่กับ แจ๊ซ ที่กำลังสร้างทีมใหม่ อาจจะต้องลุ้นเล็กน้อยว่าออกหัวหรือก้อยเกี่ยวกับบทบาทในทีมของเขา แต่ถ้าหาก บีสลี่ย์ ได้เวลาลงสนามที่เยอะก็ถือว่าจังหวะดีที่เขาจะได้โชว์ของให้ทีอื่นๆในลีกเห็นถึงการเป็นการ์ดคุณภาพ ที่เหมาะสำหรับการอยู่กับทีมลุ้นแชมป์ได้เช่นกัน