ทำไม ซิกเซอร์ส, เพลิแกนส์ และ ฮอว์กส์ มีโอกาสทำผลงานทะลุเป้าใน NBA 2022-23

Stephen Noh

ทำไม ซิกเซอร์ส, เพลิแกนส์ และ ฮอว์กส์ มีโอกาสทำผลงานทะลุเป้าใน NBA 2022-23 image

ในการแข่งขันเอ็นบีเอทุกซีซั่นจะมีการประเมินผลงานล่วงหน้าของแต่ละทีมเอาไว้ อย่างฤดูกาลที่แล้ว คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส, เมมฟิส กริซลี่ส, ฟีนิกซ์ ซันส์, โตรอนโต แร็ปเตอร์ส และ มินเนโซต้า ทิมเบอร์วูล์ฟส์ คือกลุ่มที่สร้างผลงานได้เกินเป้าหมาย 

สำหรับฤดูกาล 2022-23 ที่กำลังจะมาถึง เรามองว่ามี 3 ทีมที่สามารถสร้างผลงานเกินคาดได้ นั่นคือ ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส, นิวออร์ลีนส์ เพลิแกนส์ และ แอตแลนต้า ฮอว์กส์ ทำไม The Sporting News จึงให้มุมมองเช่นนั้น ติดตามได้ที่นี่

 

 

James-Harden-FTR
[NBA Getty Images]

 

ซิกเซอร์ส มีดีกว่าที่เคยเป็น

เราเชื่อในทีมซิกเซอร์ส และ เชื่อในตัวของ เจมส์ ฮาร์เด้น ที่จะสามารถหาวิธีการกลับมาเป็นผู้เล่นระดับท็อป 15 ของลีกได้ในซีซั่นหน้า แม้ว่าจะมีการโจมตีเกี่ยวกับผลงานเมื่อฤดูกาลที่แล้วของเขามากมายก็ตาม แต่พี่เครายังเป็นผู้เล่นระดับออลสตาร์ ทำเฉลี่ย 22 แต้ม กับ 10.3 แอสซิสต์ และ 7.7 รีบาวด์ 

ฮาร์เด้น ในตอนนี้ อาจไม่ได้กลับไปสร้างผลงานระดับเอ็มวีพีของลีก แต่ความสามารถของเขาและการเสียสละค่าจ้าง 15 ล้านเหรียญ (ประมาณ) ต่อปี ของเขาก็มากพอที่จะยกระดับให้ซิกเซอร์สก้าวหน้าไปอีกหลายระดับในฤดูกาลหน้า

 

 

การได้ตัว ดี แอนโธนี่ เมลตัน มาเติมเต็มช่วยให้เกมป้องกันของทีมแน่นนขึ้น ขณะที่ทักษะการยิง 3 คะแนนของเขาก็ไม่เลวเลย ชู้ตลงระดับ 36.1% ยิ่งรวมกับผู้เล่นเดิมในทีมทั้ง มาทิสส์ ทายบูลลี่ และ ดานูล เฮ้าส์ ทำให้ ซิกเซอร์ส มีกลุ่มทรีแอนด์ดี ให้ใช้งานมากถึง 3 คน

จุดเพิ่มเติมที่น่าสนใจอีกด้านคือตำแหน่งวงใน พวกเขาได้ตัว พีเจ ทัคเคอร์ ซึ่งพิูจน์ความสามารถในการเป็นตัวป้องกันชั้นเยี่ยม และ มอนเทรซล์ ฮาร์เรลล์ เซ็นเตอร์จอมขยันที่มีฝีมือทั้งรุกและรับเข้ามาสู่ทีม ขณะเดียวกันพัฒนาการของ พอล รีด ดาวรุ่งวัย 23 ปี ก็ช่วยให้ตำแหน่งฟร้อนท์คอร์ตของทีมแกร่งพอจะสู้กับทุกทีมในฤดูกาลหน้า

การเดินหน้าซ่อมแซมส่วนที่เป็นจุดบอดได้อย่างโดดเด่น ทำให้ซิกเซอร์ส น่าจะเจอฤดูกาลที่พวกเขาสตาร์ทเครื่องในรอบเพลย์ออฟติดเสียที

 

Brandon Ingram CJ McCollum Zion Williamson 100122
Getty Images

 

เพลิแกนส์ ทึ่เติบโตกว่าปีที่แล้ว

หลังจากสตาร์ทด้วยผลงาน ชนะ 2 แพ้ 14 เกม ในที่สุดเพลิแกนส์ ก็เจอวิธีการที่นำพาให้พวกเขาทะลุเข้าสู่รอบเพลย์ออฟได้สำเร็จ ทีมจัดการเสริมผู้เล่นสำคัญอย่าง ซีเจ แมคคอลลัม เข้ามา และอดีตการ์ดจาก เบลเซอร์ส โชว์ผลงานทำเฉลี่ย 24.3 แต้ม ที่สำคัญเป็นการเติมของที่ถูกจุด เพราะก่อนการเข้ามาของ ซีเจ เพลิแกนส์ คือทีมยิง 3 คะแนนห่วยที่สุดเป็นอันดับ 3 ของลีก ทั้งความพยายามชู้ตและลูกชู้ตที่ลงห่วง

โครงสร้างของทีมที่เต็มไปด้วยผู้เล่นอายุน้อยทำให้ทีมมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อีกมาก อย่างเช่น เฮิร์บ โจนส์ กลายเป็นตัวป้องกันที่โดดเด่น ในขณะที่ เทรย์ เมอร์ฟี่ย์ ก้าวขึ้นมาเป็นมือปืนที่วางใจได้ หลังกด 3 คะแนนแม่นยำ 38.2% ขณะที่ โฆเซ่ อวาราโด พัฒนาขึ้นมาเป็นการ์ดสำรองชั้นดี ที่ครองใจแฟน ๆ ด้วยความขยันและทุ่มเทในทุกจังหวะ และตัวดราฟท์อันดับ 8 อย่าง ดายสัน แดเนียล โชว์ทักษะเกมป้องกันให้เราเห็นกันไปแล้วในช่วงพรีซีซั่น ดูแววแล้วอาจได้แบ่งเวลาลงเล่นในบทบาทสวิงแมนของทีม

 

 

อย่างไรก็ตามอิมแพคที่ใหญ่สุดคงหนีไม่พ้น ไซออน วิลเลียมสัน ที่หลายคนคงได้เห็นความสุดยอดไปแล้วในช่วงเกมอุ่นเครื่อง และก่อนบาดเจ็บเขาคือเด็ดปีศาจที่ทำเฉลี่ย 27 แต้ม, 7.2 รีบาวด์ กับอีก 3.7 แอสซิสต์ ต่อเกม ด้วยสไตล์การเล่น ผสมกับความแข็งแกร่ง เชื่อว่าตัวเลขการเป็นทีมรีบาวด์เกมบุกอันดับ 3 และ ได้แต้มจากลูกโทษในอันดับที่ 8 ของลีก (หลังจากการเข้ามาของ ซีเจ แมคคอลลัม) จะเพิ่มขึ้นไปอีก เมื่อทีมมี ไซออน ลงสนามในซีซั่นนี้

และเราเชื่อว่า จะไม่มีทีมใดผ่่าน เพลิแกนส์ ไปได้โดยปราศจากรอยฟกช้ำดำเขียว

 

dejounte murray hawks
Getty Images

แอตแลนต้า ฮอว์กส์ สมดุลมากขึ้น

มีการตั้งคำุถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพในเกมบุกของ ฮอว์กส์ ว่าจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีจริง ๆ หรือไม่ เมื่อตัดสินใจเอา เดชอนเต้ เมอร์เรย์ มาเล่นร่วมกับ เทร ยัง ในตำแหน่งการ์ดคู่กัน เพราะทั้งคู่ต่างเป็นผู้เล่นที่ต้องการถือบอลไว้ในมือเพื่อเล่นเองค่อนข้างเยอะ

อย่าลืมว่าทรงเดิม ๆ ของฮอว์กส์ คือทีมที่มีเกมบุกอันดับ 2 ของลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และการปรับส่วนสำคัญจุดนี้ถือว่าเสี่ยงพอสมควร

นอกจากนั้นพวกเขายังเสียตัวบุกเก่ง ๆ ออกจากทีมไปทั้ง ดานิโล กัลลินารี่ และ เควิน ฮัวเตอร์ แต่ก็ปรับแต่งทีมจนได้ผู้เล่นแนวสร้างสมดุลอย่าง จัสติน ฮอลิเดย์ และ เมอร์เรย์ ซึ่งชู้ต 3 คะแนนระดับ 34.5% เข้ามาสู่ทีม

การนำเข้าผู้เล่นแนวทูเวย์ที่ดีทั้งเกมบุกและป้องกัน ก็เพื่อไม่ให้ทีมความแกร่งในเกมบุกและเป็นการแก้ปัญหาเกมรับ เพราะฤดูกาลที่แล้วทีมเหยี่ยวดูแลรังของตัวเองไมเ่ป็นเลย พวกเขามีเรตติ้งเกมรับอยู่อันดับ 26 ของลีก

ฮอลิเดย์ เข้ามาเติมเต็มการเป็นตัวป้องกันที่มีสัญชาตญาณการเคลื่อนที่ เขารู้ว่าควรต้องไปอยู่ตรงไหนเวลาใด ขณะที่ เมอร์เรย์ คือการ์ดที่ป้องกันเก่งในการป้องกันคนถือบอล ส่วน ดีอันเดร ฮันเตอร์ คือตัวรับที่เก่งสุดในทีม และเขาพิสูจน์ให้เห็นมาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว

ทีมยังมีผู้เล่นอย่าง ออนเยก้า โอคองวู บิ๊กแมนที่เจ็บไปนานจากปีก่อนมาช่วยเป็นแบ็คอัพในตำแหน่งเซ็นเตอร์ให้กับ คลินท์ คาเปล่า ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายของเขาได้รับการประคบประหงมมากขึ้น

เมื่อเราดูจากผู้เล่นโดยรวมในทีมจะเห็นว่า ฮอว์กส์ มาในเส้นทางของทีมที่สมดุลมากขึ้นทั้งรุกและรับ ส่วน เทร ยัง น่าจะได้อิสระในเกมบุกเต็มที่มากกว่าเดิม เพราะไม่ต้องพะวงว่าเขาจะเป็นบ่อน้ำมันในเกมป้องกันเหมือนซีซั่นที่ผ่านมา จากองค์ประกอบเหล่านี้ ฮอว์กส์ พร้อมก้าวขึ้นสู่รอบชิงชนะเลิศสายตะวันออกอีกครั้ง เหมือนที่พวกเขาทำได้ในฤดูกาล 2020-2021

Stephen Noh

Stephen Noh Photo

Stephen Noh started writing about the NBA as one of the first members of The Athletic in 2016. He covered the Chicago Bulls, both through big outlets and independent newsletters, for six years before joining The Sporting News in 2022. Stephen is also an avid poker player and wrote for PokerNews while covering the World Series of Poker from 2006-2008.