การแข่งขันศึกยูโรบาสเกต หรือ บาสเกตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป นอกจากจะเป็นเวทีแห่งการชิงชัยของ 24 ประเทศ ยังอาจกลายเป็นพื้นที่สำหรับการเตรียมตัวของเหล่าบรรดาทีมในเอ็นบีเอ ได้อีกด้วย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ นิวออร์ลีน เพลิแกนส์ ซึ่งปีที่แล้วกลายเป็นทีมม้าตีนปลาย ฟอร์มแรงท้ายฤดูกาลไล่ตบทั้ง ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส และ แอล.เอ. คลิปเปอร์ส ผ่านรอบเพลย์อิน ไปแพ้ ฟินิกส์ ซันส์ แบบมีทรงการเล่นที่ดีทีเดียว
ที่บอกว่า เพลิแกนส์ อาจจะได้ประโยชน์เป็นเพราะเราได้เห็นฟอร์มการเล่นของ โยนาส วาลันชูนาส เซ็นเตอร์ตัวเก๋า บวกกับ การที่ ไซออน วิลเลียมสัน ดราฟต์อันดับ 1 เมื่อปี 2019 จะหวนคืนสนาม ซึ่งถ้าหาก วิลลี่ กรีน เฮดโค้ชของทีมจูนความเก๋ากับพลังหนุ่มให้เข้ากันได้ จะส่งบวกต่อทีมมหาศาล
บทบาทสมมติ โยนาส + โดแมนตาส = โยนาส + ไซออน
แม้ลิธัวเนียจะมีผลงานที่ไม่ดีนัก แต่ฟอร์มของ วาลันชูนาส เฉิดฉายมากทีเดียว โดยเฉพาะการจับคู่เล่นร่วมกับ โดแมนตาส ซาบอนิส ฟอร์เวิร์ดกึ่งเซ็นเตอร์จากซาคราเมนโต้ คิงส์ ซึ่งมีรูปแบบการเล่นบางส่วนคล้ายคลึงกับ วิลเลียมสัน ถึงแม้ว่าความสูงและน้ำหนักตัวของทั้งคู่จะต่างกันก็ตาม
ซีซั่นที่ผ่านมา ซาบอนิส ทำคะแนนจากพื้นที่ใต้แป้นเฉลี่ย 12.5 คะแนนต่อเกมส์ มากที่สุดอันดับ 10 ของลีกเอ็นบีเอ ขณะที่ วิลเลียมสันเคยทำระดับ 20.3 แต้มต่อเกมในปีรุกกี้ แม้ตัวเลขจะห่างมากโข แต่ทำให้พอจินตนาการได้ว่า สิ่งที่จะเป็นประโยชน์กับ เพลิแกนส์ คือ จะปรับบทบาทของ วาลันชูนาส ยังไงให้เหมาะกับวิธีการเล่นของ ไซออน โดยที่ทีมได้ประโยชน์สูงสุด ขณะเดียวกัน วาลันชูนาส ก็ได้ใช้ความถนัดของตัวเองในสนามไปพร้อมกันด้วย
ใช้ความสารพัดประโยชน์ปลดล็อคเกมบุกเพื่อทีม
ถ้าว่ากันตามตรง วาลันชูนาส อาจยังไม่ใช่เซ็นเตอร์ระดับเกรด A แต่คงอยู่ในกลุ่ม B+ ที่สามารถทำอะไรได้หลายอย่าง ฤดูกาลที่แล้วในเอ็นบีเอ เขาทำเฉลี่ย 17.8 แต้ม โดยมาจากพื้นที่วงใน 10.8 คะแนน สูงที่สุดของทีม (แต่แย่ที่สุดของตัวเองนับตั้งแต่ปีรุกกี้)
การกลับมาของ ไซออน อาจทำให้เจ้าตัวต้องลดบทบาทการเล่นพื้นที่ใต้แป้นลง อย่างไรก็ตามของดีที่ วาลันชูนาส โชว์ให้ทีมเห็นปีที่แล้วคือ เขาซัด 3 แต้มลงตลอดซีซั่น 57 ลูก มากที่สุดตลอดอาชีพการเล่น โดยแม่นยำอยู่ที่ 36.1% (ช่วงสตาร์ท 23 เกมแรก เขายิงลง 1.3 ครั้งต่อเกม และแม่นถึง 51.7%)
ถ้าใครจำได้ วาลันชูนาส เคยจัด 3 คะแนนลง 7 ลูกรวดตั้งแต่ครึ่งแรกใส่ แอล.เอ. คลิปเปอร์ส มาแล้ว
นั่นแปลว่า วาลันชูนาส สามารถเล่นทั้ง 2 บทบาท พัฒนการขยับออกมาชู้ตระยะ 3 คะแนนเพื่อเปิดพื้นที่ให้กับผู้เล่นอย่าง ไซออน ลุยหาห่วงได้มากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากกับการเล่นยุคสมอลบอลแบบนี้
แล้วอย่าลืมว่าตัวอื่นๆของ เพลิแกนส์ ทั้ง แบรนดอน อินแกรม, ซีเจ แมคคอลัม, เทรย์ เมอร์ฟี่ และ เดวอนเต้ แกรห์ม ก็สามารถยิงจากระยะเหนือเส้นโค้งได้เช่นกัน … คือ เพิ่มออปชั่นการบอมบ์จากข้างนอกเข้าไป แล้วถ้าทีมรับเผลอถ่างเกมรับมากเกินไป ก็ยังมีไซออนที่เป็นอาวุธหนักคอยทำลายวงใน
แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ทีมต้องการแต้มจากใต้แป้น เขาก็จะได้ทำหน้าที่เดิมที่เคยถนัด อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ วิลเลียมสันออกไปนั่งพัก หรือ เกมที่พวกเหล่าบรรดามือปืนพากันออกทะเล
2 ประสานที่อาจทำให้กำเนิด ทวินทาวเวอร์ยุคใหม่
ต่อเนื่องจากด้านบนเราอาจได้เห็นการประสานงานมากขึ้นระหว่าง 2 ผู้เล่นตัววงใน วิลเลียมสัน โพสต์ ไดรฟ์ แล้วคิกบอลออกนอกให้ วาลันชูนาส หรือ จะเป็น พ่อหนุ่มลิธีวเนีย ที่อาจส่งบอลเข้าพื้นที่ด้านในให้กับดาวรุ่งตัวเก่งของทีมดั๊งค์ใส่ห่วงแบบทรงพลัง
เอาเข้าจริงทั้ง โจนาส และ ไซออน มีไอคิวบาสที่ดีทั้งคู่ รวมทั้งยังมีเซนส์ในการส่งบอลจังหวะที่อาจเปลี่ยนเป็นคะแนนได้เลยในทันที โดยวาลันชูนาส ทำเฉลี่ยปีที่แล้ว 2.6 แอสซิสต์ (สูงสุดในอาชีพ) ขณะที่ วิลเลียมสัน ทำเฉลี่ย 4.2 แอสซิสต์ ในช่วง 17 เกม ที่ได้ลงเล่นปี 2020-2021
ถ้าการประสานงานเหล่านี้ใช้ได้ผล พวกเขาอาจกลายเป็นทวินทาวเวอร์ยุคใหม่ของวงการเอ็นบีเอ