ตัวสำรอง All-Star NBA ปี 2023 ได้ประกาศออกมาเป็นที่เรียบร้อยในวัน ศุกร์ ที่ 3 มกราคม และแน่นอนว่าต้องมีข้อถกเถียงเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
เหมือนเป็นงานประจำปีที่เมื่อประกาศรายชื่อทั้งหมดของ All-Star ออกมา การถกเถียงจะเริ่มขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ คุณไม่สามารถพูดแค่ว่าทำไมคนนี้ไม่ติด แต่ต้องตั้งคำถามว่าเขาควรจะติดแทนใครด้วย
และด้านล่างนี้คือผู้เล่นที่อยู่ในรายชื่อพลาดการติด All-Star ปีนี้ และเราได้เขียนไว้ด้วยว่าถ้าเขาได้เข้ามาจะต้องแทนที่ใคร
จะมีใครบ้างในรายชื่อนี้ ติดตามที่ด้านล่างได้เลย
อ่านบทความ : แรงบันดาลใจเบอร์ 28 ที่เลเกอร์สของ รุย ฮาชิมูระ มาจากไหน? ติดตามที่นี่
ผู้เล่นที่พลาดการติดทีม NBA All-Star 2023
การ์ดสายตะวันออก
เจมส์ ฮาร์เด้น, ซิกเซอร์ส
แทน : จรู ฮอลิเดย์
ฮาร์เด้นทำหน้าที่ได้อย่างดีสำหรับบทบาทใหม่ของเขากับ ซิกเซอร์ส และพาทีมขึ้นไปอยู่อันดับ 4 ของสายตะวันออก โดยมีค่าเฉลี่ย 21.3 แต้ม, 11.0 แอสซิสต์ (มากที่สุดอันดับสองของอาชีพ), 6.3 รีบาวด์ และ 1.2 สตีลต่อเกม ซึ่งด้วยสถิติระดับนี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่า All-Star 10 ครั้งจะพลาดการติดในปีนี้ไป
เจเลน บรันสัน, นิกส์
แทน : จูเลียส แรนเดิล
บรันสันเข้ามาเป็นเชื้อเพลิงและแรงขับเคลื่อนให้กับ นิกส์ ในฤดูกาลนี้ได้อย่างดีและกำลังพาทีมเดินหน้าเข้าสู่พื้นที่เพลย์ออฟ บรันสันในฤดูกาลนี้มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 22.8 แต้ม, 6.2 แอสซิสต์ และ 1.0 สตีลต่อเกม แต่ก็ยังไม่สามารถติดทีม All-Star ได้ในปีนี้ ซึ่งทำให้เขาต้องรอในปีหน้าเพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นอีกครั้ง (หรือจะมาแทนผู้เล่นที่บาดเจ็บในปีนี้ก็เป็นได้)
เทร ยัง, ฮอว์กส์
แทน : ตัวแทนผู้เล่นบาดเจ็บ
นี่เป็นครั้งที่สองในสามปีล่าสุดที่ เทร ยัง ไม่สามารถติด All-Star แม้ว่าเขาจะมีค่าเฉลี่ยที่ 27.3 แต้ม และ 9.9 แอสซิสต์ต่อเกม ซึ่งดีพอที่จะเป็นอันดับที่ 12 และ 3 ของลีกตามลำดับหัวข้อ แต่เนื่องจากประสิทธิภาพในการทำแต้มของเขาไม่ค่อยดีและ ฮอว์กส์ ยังไม่สามารถไต่ขึ้นมาจนมีสถิติ .500 ได้จึงทำให้ เทร ยัง อาจจะโดนลดคะแนนโหวตของโค้ชไปพอสมควร
ฟรอนต์คอร์ทสายตะวันออก
จิมมี บัตเลอร์, ฮีต
แทน : แบม อเดบาโย
นี่เป็นการพลาดติด All-Star สองปีติดครั้งแรกของ จิมมี บัตเลอร์ ตั้งแต่ปี 2017 และ 2018 โดยในปีนี้เขามีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 22.0 แต้ม, 6.0 รีบาวด์ และ 4.9 แอสซิสต์ และเป็นผู้นำในเรื่องการสตีลที่ 2.1 ครั้งต่อเกม เขาจึงเป็นคนแรกๆที่อาจจะมีชื่อติดเป็นตัวแทนผู้เล่นบาดเจ็บของฝั่งตะวันออก
พาสคาล เซียแคม, แรปเตอร์ส
แทน : ตัวแทนผู้เล่นบาดเจ็บ
การที่ เซียแคม พลาดการติด All-Star ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะทีมของเขาอยู่ในอันดับที่ไม่สูงเท่าไหร่ แต่เขามีค่าเฉลี่ยการทำแต้มสูงสุดตลอดทั้งอาชีพที่ 25.0 แต้ม พร้อมกับ 8.0 รีบาวด์ และ 6.3 แอสซิสต์ต่อเกม อย่างที่บอกไปว่าสถิติของ แรปเตอร์ส ไม่ค่อยสู้ดีนักอยู่ที่ 23-30 จึงทำให้พอเข้าใจได้ว่าทำไม เซียแคม ถึงไม่ติดในปีนี้
การ์ดสายตะวันตก
เดวิน บุคเกอร์, ซันส์
แทน : จาเร็น แจ็คสัน หรือ พอล จอร์จ
ในฤดูกาลนี้ เดวิน บุคเกอร์ ควรติด All-Star แบบไม่มีข้อสงสัยด้วยสถิติ 27.1 แต้ม, 5.6 แอสซิสต์ และ 4.6 รีบาวด์ แต่เสียอย่างเดียวคืออาการบาดเจ็บของเขาทำให้ บุคเกอร์ ลงสนามได้ไม่มากพอถึงแม้ว่าจะมีฟอร์มระดับตัวเต็ง MVP ก็ตาม
แอนโทนี เอ็ดเวิร์ดส์, ทิมเบอร์วูล์ฟส์
แทน : จาเร็น แจ็คสัน หรือ พอล จอร์จ
ดูเหมือนว่าในปีนี้ เอ็ดเวิร์ดส์ จะทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเขาได้ติด All-Star การ์ดสายข้ามอายุ 21 ในปีนี้มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 24.9 แต้ม, 6.1 รีบาวด์, 4.5 แอสซิสต์ และ 1.7 สตีลต่อเกม การเล่นเกมรับของเขาก็ดีขึ้นและยังคงประสิทธิภาพเกมรุกเอาไว้ได้เหมือนเดิมนอกจากนั้นในฤดูกาลนี้เขายังไม่พลาดการลงเล่นเลยแม้แต่เกมเดียว หากเขาติดเป็นตัวแทนผู้เล่นบาดเจ็บของสายตะวันตกก็จะไม่น่าแปลกใจเลยซักนิด
เดอารอน ฟ็อกซ์, คิงส์
แทน : โดมันทาส ซาโบนิส
ในปีนี้นอกจาก ซาโบนิส แล้วก็มี ฟ็อกซ์ ที่เป็นผู้นำทีมอีกคนในการพา คิงส์ ขึ้นไปอยู่อันดับสามของสายตะวันตก ในปีนี้ ฟ็อกซ์ มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 24.1 แต้ม และ 6.1 แอสซิสต์ นอกจากนั้นเขายังเป็นผู้เล่นที่ทำแต้มในช่วงคลัตช์มากที่สุดของ NBA ในปีนี้อีกด้วย
ฟรอนต์คอร์ทสายตะวันตก
แอนโทนี เดวิส, เลเกอร์ส
แทน : จาเร็น แจ็คสัน หรือ พอล จอร์จ
สาเหตุเดียวที่ เดวิส ไม่ติด All-Star ในครั้งนี้ก็คืออาการบาดเจ็บที่รบกวนจนเขาลงเล่นไปเพียงแค่ 29 เกมเท่านั้น แต่เมื่อเขาอยู่บนสนามเขาจะมีค่าเฉลี่ยถึง 26.8 แต้ม, 11.9 รีบาวด์, 2.6 แอสซิสต์, 2.0 บล็อก และ 1.3 สตีลต่อเกม ซึ่งแน่นอนว่าหลับตาก็ยังเห็นว่านี่คือระดับ All-Star
NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัด คลิกเลย