ดันแคน, ดูแรนท์, ลิลลาร์ด : ย้อนรอยเกมเปิดตัวในลีก NBA วันที่ 1 พฤศจิกายน ของเหล่าสตาร์ดัง

Nawapon Kiatpisan

ดันแคน, ดูแรนท์, ลิลลาร์ด  : ย้อนรอยเกมเปิดตัวในลีก NBA วันที่ 1 พฤศจิกายน ของเหล่าสตาร์ดัง  image

ด้วยฤดูกาลที่ยาวนานทำให้ทุก ๆ วันซึ่งเป็นช่วงตารางแข่งขันของเอ็นบีเอ จะมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในอดีตมากมาย เช่นเดียวกับวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่เกิดเรื่องราวตั้งแต่การเป็นจุดเริ่มต้น และ เหตุการณ์สำคัญที่น่าจดจำ มีสตาร์ดังคนไหนเกี่ยวข้องกับวันต้นเดือน 1/11 นี้บ้าง ติดตามได้ที่นี่

NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัด คลิกเลย

Stephen Curry, Tim Duncan
Getty Images

ทิม ดันแคน ตำนานหอคอยคู่แห่งวงการเอ็นบีเอ

เด็กหนุ่มจากมหาวิทยาลัย เวค ฟอเรสท์ ถูกซานอันโตนิโอ สเปอร์ส ดราฟท์เข้ามาสู่ทีมด้วยอันดับที่ 1 ในปี 1997 และจุดเริ่มต้นของตำนานหอคอยคู่ หรือ “Twin Tower” ก็ได้เริ่มต้นทันทีที่เขาสัมผัสเกมแรกร่วมกับ เดวิด รอบินสัน อีก 1 เซ็นเตอร์ชื่อดังของสเปอร์ส

เกมแรกของ ทิม ดันแคน ในลีกเอ็นบีเอคือการลงสนามพบกับ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ ซึ่งเขาโชว์ผลงานทำ 15 แต้ม 10 รีบาวด์  2 แอสซิสต์ และ 2 บล็อค ช่วยให้สเปอร์ส บุกชนะ 107-96 คะแนน และตลอดรุกกี้ซีซั่นเขาสามารถทำดับเบิล-ดับเบิล ได้ถึง 57 ครั้งมากที่สุดของลีกในฤดูกาลนั้น

ดันแค่น กลายเป็นตำนานของลีกและทีมสเปอร์ส จากการคว้าไป 5 แชมป์ และรางวัลส่วนตัวอีกมากมาย รวมทั้งยังได้เข้าหอเกียรติยศไปเมื่อปี 2020 อีกด้วย

tracy-mcgrady-raptors-nbae-gettyimages

เทรซี่ แม็คเกรดี้ ค่ำคืนแรกไม่ได้ตัดสินทุกอย่าง

หากพูดถึงชื่อของ เทรซี่ แม็คเกดี้ หลายคนคงจำได้ว่าเขาคือผู้เล่นที่ทำคะแนนเก่งมาก ๆ ซึ่งช่วงหนึ่งเป็นคู่แข่งทั้งในฐานะผู้เล่นที่ไล่ล่าแชมป์ และ เป็นเจ้าแห่งการทำคะแนนกับ โคบี้ ไบรอันท์ เลยทีเดียว

แต่ใครจะคาดคิดว่าในเกมเปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ปี 1997 ของเขาจะเลวร้ายขนาดที่ว่าไม่สามารถทำแต้มได้เลย โดยเขาลงเล่นไปแค่ 6 นาที ในเกมที่ โตรอนโต แร็ปเตอร์ส บุกพ่าย ไมอามี่ ฮีต 101-114 คะแนน 

ทันทีดราฟท์อันดับ 9 ปี 1997 ได้ย้ายไปร่วมทีม ออแลนโด เมจิก ก็เหมือนปลาที่ได้น้ำ เขาระเบิดฟอร์มระดับซูเปอร์สตาร์ทันที และกลาเยป็นหนึ่งในการ์ดที่เล่นเกมบุกเก่งที่สุดของลีก จนกระทั่งเจออาการบาดเจ็บเล่นงานจนทำให้เขาต้องเจอขาลงในอาชีพเร็วกว่ากำหนด

billups, pistons 2004

ชอว์นซี่ย์ บิลอัพส์ ก่อนจะมาเป็นมิสเตอร์บิ๊กช็อต

บิลอัพส์ เป็นถึงดราฟท์อันดับ 3 ในปี 97 เขาถูกเลือกโดยบอสตัน เซลติกส์ และในเกมแรกที่เขาได้ลงสนามก็โชว์ฟอร์มน่าประทับใจด้วยการทำ  15 คะแนน 4 แอสซิสต์ และ 2 สตีล จากเวลาลงเล่นเพียงแค่ 17 นาที

แต่เพราะความไม่ชัดเจนว่าเขาเก่งในตำแหน่งพ้อยท์การ์ดหรือชู้ตติ้งการ์ด ทำให้เขาต้องย้ายทีมอยู่บ่อยครั้ง กระทั่งปี 2002 ซึ่งเป็นเหมือนจังหวะเปลี่ยนชีวิต ที่เขาได้ไปร่วมทีมดีทรอยท์ พิสตันส์ ซึ่งนอกจากผลงานของเขาจะดีขึ้นทันตา เขายังคว้า 1 แชมป์ กับ 1 MVP รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จอีกด้วย

 

Durant Sonics

เกมนัดแรกของ เควิน ดูแรนท์ กับ โซนิกส์

หลังจากถูกเลือกเข้ามาสู่ลีกในลำดับที่ 2 ของการดราฟท์ปี 2007 ดูแรนท์ ก็กลายเป็นเครื่องจักรทำสกอร์ของลีกในทันที และ ฉายแววให้เห็นตั้งแต่เกมแรกที่ลงให้กับ ซีแอทเทิล ซูเปอร์โซนิกส์ พบกับ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ โดย “เคดี” ในวัย 19 ปี ประเดิมลีกเอ็นบีเอด้วยการทำ 18 แต้ม 5 รีบาวด์ กับ 3 สตีล

แม้สถิติการชู้ตในเกมเปิดตัวของเขาจะไม่แม่นเท่าไหร่นัก แต่ตลอดทั้งปีรุกกี้เขาสามารถโชว์ผลงานได้ยอดเยี่ยม ยิ่งถ้าเทียบกับดราฟท์อันดับ 1 ในปีเดียวกัน อย่าง เกร็ก โอเด็น ที่เบลเซอร์ส เลือกไปยิ่งเห็นภาพชัด

ดูแรนท์ พัฒนาตัวเองแบบก้าวกระโดดกลายเป็นฟอร์เวิร์ดที่ชู้ตแม่น แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจไม่ทราบมาก่อนคือปีแรกกับโซนิกส์ “เคดี” ลงเล่นในตำแหน่งชู้ตติ้งการ์ด ก่อนจะปรับมาเป็นสมอลฟอร์เวิร์ดในภายหลังเหมือนอย่างทุกวันนี้

Damian Lillard
Getty Images

ดาเมียน ลิลลาร์ด การ์ดผู้จงรักภักดี

พอร์ทแลนด์ เทรลเบลเซอร์ส เหมือนได้ปล้นผู้เล่นที่อาจจะเก่งสุดในปี 2012 ด้วยการดราฟท์มาในอันดับ 6 แม้จะไม่ชัดเจนว่าเขา กับ แอนโธนี่ เดวิส (ดราฟท์อันดับ 1) ใครจะยอดเยี่ยมกว่ากัน แต่ เดม คือตำนานของ เบลเซอร์ส เป็นที่แน่นอนแล้ว

เพียงแค่เกมแรกที่ประเดิมสนามในลีกเอ็นบีเอ ลิลลาร์ด ก็ฉายแววความเป็นซูเปอร์สตาร์ทันที หลังทำคนเดียว 23 แต้ม และ 11 แอสซิสต์ ช่วยให้ เบลเซอร์ส ชนะ เลเกอร์ส 116-106 คะแนน และ ตลอด 9 ฤดูกาลที่ผ่านมา หากไม่รับรวมปีรุกกี้ เขาคือผู้เล่นที่ทำเฉลี่ยระดับ 20+ แต้มต่อเกมใน 1 ซีซั่นให้กับทีมมาตลอด

Anthony Davis Pelicans

แอนโธนี่ เดวิส ดราฟท์ที่มอบความหวังให้เพลิแกนส์

เดวิส คือความหวังของทีมนิวออร์ลีนส์ ฮอร์เน็ตส์ ในปี 2012 คล้าย ๆ กับที่ทีมและแฟน ๆ หวังในตัว ไซออน วิลเลียมสัน ในปี 2019 เพราะ “เอดี” ครบเครื่องและเป็นผู้ตัวใหญ่ที่มีทักษะรอบด้านจริง ๆ

เขาเปิดตัวเกมแรกกับทีมด้วยการทำ 21 แต้ม 7 รีบาวด์ แต่ฮอร์เน็ตส์ แพ้ให้กับ ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส ไปด้วยสกอร์ 95-99 คะแนน แม้เขาจะไม่สามารถพาทีมลืมตาอ้าปากขึ้นมาได้ชัดเจนนัก แต่ฝีมือของเขาทำให้ทุกวันนี้ เพลิแกนส์ (ชื่อปัจจุบันของทีม) มีทรัพย์สมบัติดี ๆ ในทีมเต็มไปหมด ทั้งผู้เล่นและสิทธิดราฟท์ จากการที่ เลเกอร์ส มาเทรดสู่ขอตัว เดวิส ไปเมื่อปี 2019-2020

2 เหตุการณ์สำคัญ วันที่ 1 พฤศจิกายนในอดีต

นอกจากการจะเป็นวันเปิดตัวในลีกเอ็นบีเอของผู้เล่นชื่อดังในยุคปัจจุบันแล้ว ยังมี 2 เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นสำหรับ สเตฟเฟ่น เคอร์รี่ และ เดอร์ริก โรส อีกด้วย

Stephen Curry 101122
(NBAE via Getty Images)

ปี 2015 สเตฟเฟ่น เคอร์รี่ ทำ 53 คะแนน ใส่ เพลิแกนส์

เกมที่ 3 ของฤดูกาล 2015-16 ซึ่ง เคอร์รี่ ออกตัวได้อย่างร้อนแรง และเกมกับ เพลิแกนส์ เรดาร์การจับเป้าของเขาแม่นเป็นพิเศษ หลังจากชู้ตลง 17 จาก 27 ครั้ง สามแต้วลง 8 จาก 14 หน ลูกโทษลงหมด 11 ครั้ง ซึ่งเหตุการณ์นั้นทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นคนที่สองต่อจาก ไมเคิล จอร์แดน ในปี 1989-901 ที่ทำได้ 118 แต้ม จาก 3 เกมแรกที่ลงเล่น

Derrick Rose Minnesota Timberwolves NBA

ปี 2018 เดอร์ริค โรส ทำสูงสุดในอาชีพ 50 แต้ม

ทุกคนต่างจำภาพความเป็นสุดยอดการ์ดของ โรส ในฐานะผู้เล่นชิคาโก้ บูลส์ แต่เกมที่เขาทำแต้มได้มากที่สุดในอาชีพกลับเกิดขึ้นสมัยที่เขาลงเล่นให้กับ มินเนโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟส์ 

หลังจากบาดเจ็บเข่าหนัก โรส ก็ไม่มีฟอร์มที่ใกล้เคียงผู้เล่นระดับเอ็มวีพีอีกเลย กระทั่งเกมที่ ทิมเบอร์วูล์ฟส์ เปิดบ้านเฉือนชนะ ยูท่าห์ แจ๊ซ 128-125 คะแนน น่าจะเป็น 1 ในวันที่ โรส จะจดจำไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน

เขาชู้ตลง 19 จาก 31 ครั้ง สามคะแนนลง 4 จาก 7 หน และทำอีก 6 แอสซิสต์ หลังจบเกมเสียงเชียร์ของเขาดังไปทั้งสนาม และ ในโลกโซเชียลต่างสดุดีเขาทั้งเพื่อนร่วมลีกมากมาย และแฟน ๆ จากทั่วโลก จนท้ายที่สุด เหตุการณ์ดังกล่าวถูกยกให้เป็นโมเมนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี ของฤดูกาล 2018-2019 อีกด้วย


อ่านเรื่อง ทำความเข้าใจ NBA League Pass ช่องทางสำหรับรับชมบาสเกตบอลเอ็นบีเอ คลิก

Nawapon Kiatpisan

Nawapon Kiatpisan Photo

NBA Lover