ชาร์ลส์ บาร์คลีย์ คืออดีตนักบาสเกตบอลที่ประสบความสำเร็จและกลายเป็นตำนานของลีกเอ็นบีเอ แต่หลังจากที่เขาประกาศหันหลังให้กับบทบาทผู้เล่นในสนาม เขากลับมาสร้างรายได้ที่มากยิ่งกว่าเดิมเมื่อนำเอาประสบการณ์และชื่อเสียงเก่า ๆ มารับหน้าที่เป็นนักวิเคราะห์ของช่อง TNT นับตั้งแต่ปี 2000
นี่คือตัวอย่างของบุคคลที่ยังคงเอาชีวิตวนเวียนอยู่กับสิ่งที่ตัวเองรัก แม้ร่างกายจะโรยราจนลงแข่งขันไม่ไหว แต่ความรู้และอัตลักษณ์ที่โดดเด่นคือคุณค่าที่ยังติดตัวเขาเปรียบได้กับคำว่า “ตำแหน่งอยู่ไม่นาน แต่ตำนานจะอยู่ตลอดไป” ทำให้เขาสามารถสร้างรายได้ก้อนที่โตกว่าเดิม แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือการได้มีอาชีพที่สร้างความสุขกับสังคมและกลิ่นอายของบรรยากาศเดิม ๆ ที่เจ้าตัวคุ้นชิน
ความสุขจากชีวิตที่ลงตัว
ล่าสุดอดีตดราฟท์อันดับ 5 ปี 1984 ยืนยันถึงความมุ่งมั่นในอาชีพนักวิเคราะห์ต่อไปด้วยการต่อสัญญากับช่องกีฬาจากค่าย วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ออกไปอีก 10 ปี ซึ่งไม่ใช่แค่บาร์คลีย์เท่านั้น แต่ทีมงานของ “Inside the NBA” ต่างพร้อมอยู่โยงกับช่องนี้ต่อไป ทำให้เราจะยังคงเห็น เออร์นี่ จอห์นสัน, แชคิล โอนีล และ เคนนี่ สมิธ ทำงานร่วมกันในรายการที่เพิ่งคว้ารางวัล สตูดิโอโชว์ ของลีกเอ็นบีเอ ต่อไป
“เราทุกคนเป็นครอบครัวใหญ่ เออร์นี่ เคนนี่ และ แชคิล ต่างเป็นเหมือนพี่น้องของผม และผมจะไม่อยู่ที่นี่ถ้าไม่ใช่เพื่อพวกเขาและผู้คนที่น่าทึ่งทุกคนที่มีส่วนร่วมในงานของเรา ผมจะไม่โกหกเลยนะ แต่นี่คือข้อตกลงที่เปลี่ยนแปลงชีวิตผมเลย ผมมีความสุขที่สามารถทำรายการสดเพื่อหาเลี้ยงชีวิตตัวเองได้”
ความสำเร็จของรายการ “Inside the NBA” มาจากหลายส่วนที่ทำงานร่วมกันอย่างหนัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า บาร์คลีย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสตาร์ที่ยิ่งที่สุดในวงการกีฬาทั้งในฐานะผู้เล่นและนักวิเคราะห์เกม คือ บุคลากรคนสำคัญ ดังนั้นรายได้ของเขาจึงมีมูลค่าสูงเป็นประวัติศาตร์สำหรับนักวิเคราะห์ในสตูดิโอ ซึ่งเขาได้พิสูจน์ว่าการสร้างสมดุลความสุขแห่งชีวิตจากการได้ทำงานที่รัก อยู่กับสังคมที่รัก และมีรายได้มากพอจะดูแลคนที่รัก เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น
รายได้หลายทาง
ตามรายงานของ Celebrity Net Worth ได้ระบุไว้ว่า บาร์คลีย์ มีทรัพย์สินราว ๆ 50 ล้านเหรียญ (ประมาณ 1.9 พันล้านบาท) ซึ่งตัวเลขที่แท้จริงอาจสูงกว่านั้น เพราะเจ้าตัวทำเงินกว่า 40 ล้านเหรียญ (ประมาณ 1.52 พันล้านบาท) นับตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นผู้เล่นเอ็นบีเอ และ เขายังรับค่าจ้างอีกปีละ 10 ล้านเหรียญ (ประมาณ 380 ล้านบาท) ต่อปีจากการเป็นนักวิเคราะห์เกมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
นอกจากนั้น บาร์คลีย์ ยังรับงานกับแบรนด์อีกมากมายทั้ง Capital One, Dick's Sporting Goods และ Subway Barkley รวมถึงยังสร้างธุรกิจของตัวเองภายใต้ชื่อ Round Mound Media ซึ่งเป็นบริษัทโปรดักชั่น เฮ้าส์ อีกด้วย
อย่างไรก็ตามสัญญา 10 ปี ฉบับที่เขาเพิ่งจรดปากกากับ TNT จะสร้างทรัพย์สินก้อนโตให้เขาอีกมากมาย ไม่ว่าจะในรูปแบบทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม
ไม่ต้องเหนื่อยวิ่งก็รวยได้
รายละเอียดของสัญญาอาจจะยังไม่มีการเปิดเผย แต่คาดการณ์จากฐานรายได้เก่าที่เขาอยู่ปีละ 10 ล้านเหรียญ (380 ล้านบาท) ทำให้มีการประเมินว่าค่าจ้างก้อนใหม่ของเขาน่าจะอยู่ระหว่าง 15-19 ล้านเหรียญต่อปี (570 - 720 ล้านบาท) ต่อปีและเมื่อนับรวมกับเงื่อนไขของสัญญาที่จะมอบงานผลิตสารคดีและโครงการอื่น ๆ ผ่านบริษัทโปรดักชั่น เฮ้าส์ ของเขา ทำให้ตัวเลขรวมของการเซ็นสัญญาครั้งนี้อยู่ที่ 10 ปี 200 ล้านเหรียญ (ประมาณ 7.6 พันล้านบาท)
หากเรานับสัญญาฉบับใหม่ของ บาร์คลีย์ ในฐานะนักวิเคราะห์เกมการแข่งชัน เขามีรายได้เทียบเท่ากับผู้เล่นตัวหลักของ NBA อยู่หลายคน หากยกตัวอย่างผู้เล่นที่ชื่อคุ้นหูและมีเรตค่าจ้างสูสีกับ บาร์คลีย์ ในฤดูกาลหน้า
ลอนโซ่ บอล, โบยาน บอกดาโนวิช และ ทิม ฮาร์ดาเวย์ จูเนียร์ รับอยู่หลัก 19 ล้านเหรียญ (ประมาณ 723 ล้านบาท)
ไมลส์ เทอร์เนอร์, สตีเว่น อดัมส์ และ โดแมนตาส ซาบอนิส รับอยู่หลัก 18 ล้านเหรียญ (ประมาณ 685 ล้านบาท)
มาร์คัส สมาร์ท และ โอจี อนูโนบี้ รับอยู่ที่หลีก 17 ล้านเหรียญ (ประมาณ 647 ล้านบาท)
คอลิน เซ็กส์ตัน และ เดชอนเต้ เมอร์เรย์ 2 การ์ดระดับออลสตาร์ รับยู่ที่ 16 ล้านเหรียญ (ประมาณ 609 ล้านบาท)
ไทรัส โจนส์, ลู ดอร์ท และ มาลิค บีสลีย์ และ จูซูฟ เนอร์กิซ ที่รับแถวๆ 15 ล้านเหรียญ (ประมาณ 571 ล้านบาท)
ขณะเดียวกัน บาร์คลีย์ ยังทำงานวิเคราะห์เกมการแข่งขันระดับ NCAA อีกด้วย และคาดว่าเขาจะยังคงดำเนินบทบาทนี้ต่อไปอีก
นักวิเคราะห์ผู้มั่งคั่ง
จากข้อมูลของ Spotrac บาร์คลีย์ทำเงินได้ทั้งหมด 40.6 ล้านเหรียญ (ประมาณ 1.54 พันล้านบาท) ตลอด 16 ฤดูกาลของเขาใน NBA หรือเฉลี่ยแล้วประมาณ 2.5 ล้านเหรียญ (ประมาณ 95 ล้านบาท) ต่อปี
โดยฤดูกาลสุดท้ายของเขาในปี 1999-2000 กับทีมฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ คือซีซั่นที่เขารับเงินมากที่สุดในอาชีพ อยู่ที่ 9 ล้านเหรียญ (ประมาณ 341 ล้านบาท) กลายเป็นว่า บาร์คลีย์ กำลังสร้างรายได้ในฐานะนักวิเคราะห์เกมสูงกว่าสมัยเป็นผู้เล่น
แม้ว่าจะเป็นการเปรียบเทียบโดยไม่ได้นำเอาอัตราเงินเฟ้อมาคำนวน แต่แท้จริงแล้วสิ่งที่น่าชื่นชมคือ บาร์คลีย์ ยังคงสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำจากวงการกีฬาที่เขารัก ซึ่งเหมือนกับที่เขากล่าวเอาไว้ว่า เขามีความสุขที่อาชีพนักวิเคราะห์ในรายการสดสามารถสร้างรายได้ที่หล่อเลี้ยงชีวิตของเขา
