นิวยอร์ก นิกส์ ได้ตัว จาเรน บรันสัน ในขณะที่แฟนๆของ ดัลลัส แมฟเวอริกส์ หลายคนก็เซ็งที่ไม่สามารถเก็บการ์ดรายนี้ไว้กับทีมได้ จนต้องวิ่งวุ่นหาการ์ดฝีมือดีคนใหม่เข้าสู่ทีม อย่างไรก็ตามสำหรับแฟนบาสที่เน้นดูไฮไลท์เป็นหลัก หรือชอบผู้เล่นหวือหวา เน้นครอสโอเวอร์สวยๆ รวมทั้งสร้างสถิติที่น่าตื่นตาตื่นใจ ก็คงไม่ค่อยรู้จัก บรันสัน มากนัก อีกทั้งพอเปิดดูแมฟส์ทีไร ก็มักจะโฟกัสกันไปที่ ลูก้า ดอนซิช เป็นหลัก

กระทั่งคุณค่าของเขาถูกถ่ายทอดผ่านสัญญาที่ได้รับ ชื่อของเขาถูกพูดถึงมากขึ้นหลังจากนิกส์ ประกาศว่าเซ็นสัญญากับการ์ดวัย 26 ปี ด้วยค่าจ้าง 4 ปี 104 ล้านเหรียญ (3.78 พันล้านบาท) ซึ่งนิกส์ ก็มีหลายจุดในทีมที่ต้องการพัฒนาเพื่อลุ้นกลับเข้าเพลย์ออฟ ซึ่งบรันสันก็ตอบโจทย์ทีมตลาดใหญ่รายนี้หลายเรื่องอยู่

เราจะมาเจาะลึกดูกันว่า การ์ดแบบฉบับโอลด์สคูล ที่อยู่แบบอันเดอร์เรตมานานคนนี้ มีดีอะไรบ้าง

เกมบุกระยะ 2 แต้ม

2 ซีซั่นที่ผ่านมา บรันสันมีค่าเฉลี่ยทำ 10.7 แต้มต่อการครองบอลจากพิกแอนด์โรลในฐานะผู้เล่นถือบอล

ซึ่งเจ้าตัวทำได้ดีเป็นอันดับที่ 3 จากบรรดา 113 ผู้เล่น ที่ได้ถือบอลอย่างน้อย 250 ครั้งในช่วง 2 ฤดูกาล แล้ถ้ากางชื่อออกมาให้ดูจะพบว่า 4 ใน 5 อันดับแรกคือ ผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์ล้วนๆ 

ผู้เล่นที่ทำแต้มสูงสุดต่อ 1 การครองบอลจากการเล่นพิกแอนด์โรล

- คาไว เลียวนาร์ด 1.11 แต้มต่อการครองบอล

- สเตฟเฟ่น เคอร์รี่ 1.08 แต้มต่อการครองบอล

- เจเลน บรันสัน 1.07 แต้มต่อการครองบอล

- ดาเมียน ลิลลาร์ด 1.04 แต้มต่อการครองบอล

- เควิน ดูแรนท์ 1.03 แต้มต่อการครองบอล

ถ้ามองในรายละเอียดที่ลงลึกไปกว่านั้นใน 5 อันดับแรกปรากฏว่า บรันสันคือคนที่มีความชัวร์หรือแม่นยำที่สุดในการเข้าทำจากจังหวะพิกแอนด์โรล โดยมีสถิติสูงถึง 54.2% ตามมาด้วย เลียวนาร์ด 51.7% และ ดูแรนท์ 48.5%

การเล่นลูกพูลอัพ จัมพ์ช็อตของเขาก็มีประสิทธิภาพที่สูงมาก โดยชู้ตลงมากถึง 48.5% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งลีกซึ่งอยู่ที่ 41.2% วิธีการเล่นดังกล่าวจะคล้ายๆกับ คริส พอล ยอร์ดการ์ดของฟินิกซ์ ซันส์ ที่มักจะเลี้ยงหาพื้นที่ด้านในเส้น 3 คะแนน ถ้าหากมีช่องว่างก็จะขึ้นชู้ตทันที ซึ่ง พอล คือราชาในด้านนี้โดยมีความแม่นยำอยู่ที่ 52%

ในทีม นิกส์ อาจจะมีผู้เล่นดาวรุ่งอย่าง อาร์เจ บาร์เร็ตต์ ที่มาแชร์การครองบอลกับ บรันสัน แต่ถ้าเทียบกันแล้ว นิกส์ ควรพยายามให้บรันสันเป็นตัวครองบอลในจังหวะเรียกเพลย์พิกแอนด์โรลมากกว่า เพราะ บาร์เร็ตต์ มีค่าเฉลี่ยในการได้คะแนนจากจังหวะดังกล่าวเพียง 0.77 คะแนนเท่านั้น

การบุกที่เน้นความแน่นอนและไหลลื่น

นิกส์ คือ 1 ในทีมชั้นแนวหน้าของลีกเรื่องการเสียเทิร์นโอเวอร์ การได้บรันสันเขามาคุมบอลอาจช่วยลดเทิร์นโอเวอร์ของทีมได้ เพราะนอกจากบรันสันจะไม่ใช่พวกเล่นเสี่ยงแล้ว เขายังมีอัตราค่าสัดส่วนแอสซิสต์ต่อเทิร์นโอเวอร์ อยู่ในระดับบนๆของลีก

เมื่อลองเทียบกับผู้เล่นที่ลงเล่นอย่างน้อย 2,000 นาทีในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บรันสันทำแอสซิสต์เฉลี่ยราวๆ 5.5 ครั้งต่อเกม ถือว่าไม่มากไม่น้อย แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ เมื่อเทียบกับผู้เล่น 109 คน ที่มีค่า Usage Rate มากกว่า 20% ขึ้นไป บรันสัน อยู่ในอันดับที่ 5 สำหรับอัตราค่าสัดส่วนแอสซิสต์ต่อเทิร์นโอเวอร์ โดยมีเรตติ้งอยู่ที่ 3.04 (คิดง่ายๆ ว่าได้ 3 แอสซิสต์ เสีย 1 เทิร์นโอเวอร์)

เขาไม่ใช่คนที่เน้นจ่ายลูกเหนือชั้น หลายๆแอสซิสต์ของบรันสันมาจากการส่งบอลแบบทั่วไป นอกจากนั้นเขายังช่วยให้เกมไหลลื่น เพราะมีอัตราการครอบครองบอลไว้กับตัวแค่ 4.78 วินาที ซึ่งจะทำให้บอลเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ มากกว่าการดึงบอลไว้กับตัว

เช่นเดียวกับอัตราการไดรฟ์เข้าหาห่วงที่ 13.6 ครั้งต่อเกม ซึ่งมากกว่าผู้เล่นทุกคนในทีมนิกส์ แต่สิ่งที่ยอดเยี่ยมกว่าคือ 41.7% ของการไดรฟ์ จะจบลงด้วยการจ่ายบอลต่อให้กับเพื่อนร่วมทีม ซึ่งจะช่วยพัฒนาการได้จับแล้วส่องระยะ 3 คะแนนแบบโล่งๆ ซึ่งปีที่แล้วพวกเขาทำได้ห่วยเป็นอันดับ 2 ของลีก เพราะความพยายามส่วนใหญ่เป็นการต้องฝืนชู้ตเอง โดยไม่มีเพื่อนร่วมทีมปั้นให้

การเล่นแบบไม่มีบอลในมือ

ทักษะการเล่นออฟบอลของ บรันสัน ก็ไม่ธรรมดา เขาสามารถปรับบทบาทจากตัวคุมบอล มาเป็นตัววิ่งหาพื้นที่เพื่อทำคะแนน หรือ คอยป่วนเกมป้องกันได้ดี ฤดูกาลที่แล้วการเล่นออฟบอลของเขาประสานง่านกับลูก้า ดอนซิช ได้ดีมาก และการมาร่วมทีมกับนิกส์ เขาจะได้โอกาสเล่นบทบาทนั้นอีกครั้งกับ จูเลียส แรนเดิล ฟอร์เวิร์ดตัวเก่งของทีม

โดยธรรมชาติ แรนเดิล เป็นพวกผู้เล่นที่เก็บบอลไว้กับตัวนาน (คล้ายกับดอนซิช) และสถิติหนึ่งที่น่าสนใจคือ ผู้เล่นวงในแบบ แรนเดิล ดันเป็นตัวจ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีมชู้ต 3 คะแนนลงมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจาก ดอนซิช เมื่อเทียบกันในช่วง 2 ฤดูกาลหลังสุด

ภาพรวมของ บรันสัน จะเข้ามาช่วยนิกส์พัฒนาในเกมบุก อย่างไรก็ตามทั้งหมดขึ้นอยู่กับการปรับตัวเข้าหากันของผู้เล่นด้วย ถ้าหาก บรันสัน แรนเดิ้ล และ บาร์เร็ตต์ สามารถจูนกันติด ก็เชื่อว่านิกส์ จะกลายเป็นทีมที่มีเกมบุกทรงพลังทีมนึง ส่วนเรื่องที่ต้องลุ้นเหนื่อยหน่อยก็คือพวกเขาจะสามารถยกระดับเกมป้องกันได้หรือไม่