จากผู้เล่นที่เจอปัญหารุมเร้าจนได้ลงสนามแค่ 72 เกม ในช่วง 4 ฤดูกาลหลังสุด แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ จอห์น วอลล์ ได้เจอช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมในอาชีพบาสเกตบอลอีกครั้ง
หลังจากต้องทนนั่งเฉย ๆ และดูเด็กดาวรุ่งลงเล่นที่ ร็อคเก็ตส์ มา 1 ฤดูกาล ถึงเวลาที่อดีตดราฟท์อันดับ 1 จะแสดงให้ทั่วทั้งลีกเห็นแล้วว่า เขายังเป็นนักบาสฝีมือดีที่คู่ควรอยู่กับทีมลุ้นแชมป์ หลังจากสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาอันโหดร้ายมากมายในชีวิตมาได้สำเร็จ
NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก
อดีตอันหอมหวาน
วอลล์ โดดเด่นมาตั้งแต่สมัยลงให้กับมหาวิทยาลัยเคนตักกี้ แล้ว และเป็นผู้เล่นดราฟท์อันดับ 1 ในปี 2010 ซึ่งถูกเลือกโดยวอชิงตัน วิซาร์ดส์ ซึ่งตลอดระยะเวลา 10 ปี เขาใช้ชีวิตนักบาสในฐานะผู้เล่นมือ 1 ของทีม ก้าวสู่การติดออลสตาร์ไป 5 ครั้ง, คว้าแชมป์สแลมดั๊งค์ เมื่อปี 2014 รวมถึงการถูกยกให้เป็น 1 ในผู้เล่นตำแหน่งการ์ดที่น่าจับตามองมากที่สุดในช่วงเวลานั้น
แม้จะไม่ได้มีความโดดเด่นในการชู้ตระยะไกลเหมือนการ์ดสมัยใหม่ แต่วอลล์ มีความเร็วเป็นอาวุธ เข้าสามารถสลัดตัวประกบได้อย่างง่ายดายและเข้าทำคะแนนในระยะกลางหรือใกล้ขอบห่วง นอกจากนั้นเขายังเป็นผู้เล่นที่เก่งในการส่งลูกให้เพื่อนร่วมทีมทำคะแนน โดยตลอดอาชีพเขาทำเฉลี่ย 9.1 แอสซิสต์ ต่อเกม ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก ๆ
เจ็บทั้งกายและใจ
จุดเปลี่ยนสำคัญในอาชีพนักบาสของวอลล์ คืออาการบาดเจ็บหัวเข่าที่รุนแรงและเรื้อรัง อาจด้วยเพราะสไตล์การเล่นที่ใช้หัวเข่าค่อนข้างเปลือง ซึ่งจะคล้ายกันกับกรณีของ เดริก โรส ซึ่งทำให้จำนวนการลงสนามของเขาลดน้อยลง
แม้ว่าเขาจะเคยบาดเจ็บเข่าในปี 2012 แต่เส้นทางที่พลิกผันจริง ๆ เกิดขึ้นในฤดูกาล 2017-2018 ซึ่งเป็นซีซั่นที่เขาเพิ่งต่อสัญญาก้อนโตกับวิซาร์ดส์ แต่หนนี้อาการบาดเจ็บดูจะเล่นงานหนักกว่าเดิมทั้งเข่าซ้ายที่กลายเป็นปัญหาเรื้อรัง และยังบาดเจ็บเพิ่มเติมบริเวณส้นเท้าซ้ายจนต้องเข้ารับการผ่าตัดซึ่งนำมาสู่อาการแผลติดเชื้อ รวมถึงความซวยสุด ๆ ในการลื่นล้มในบ้านจนเอ็นร้อยหวายฉีกขาด ทั้งหมดนี้ทำให้เขาพักยาวเป็นหลักปี และ กลายเป็นผู้เล่นส่วนเกินของทีมวิซาร์ดส์ จนถูกเทรดไปอยู่กับ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ ในเวลาต่อมา
ชีวิตที่ร็อคเก็ตส์เขาก็ต้องกลายเป็นส่วนเกินอีกครั้ง หลังจากลงเล่นให้ทีมจรวดช่วงหนึ่งจนได้รับบาดเจ็บ ในฤดูกาล 2020-2021 และในซีซั่นต่อมาทีมต้องการส่งผู้เล่นดาวรุ่งลงสนามจึงทำข้อตกลงกับ วอลล์ ว่า ขอให้นั่งดูเกมเฉย ๆ โดยที่ไม่ต้องลงเล่น ซึ่งท้ายสุดทั้งสองฝ่ายต่างก็เจรจายกเลิกสัญญากันได้ลงตัว
แต่ช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดของการ์ดรายนี้ไม่ใช่เรื่องอาการบาดเจ็บทางร่างกาย แต่เป็นปัญหาทางจิตใจที่ทำให้เขาเกือบตัดสินใจฆ่าตัวตายมาแล้ว เพราะเขาหดหู่กับเส้นทางที่แปรผันของตัวเอง รวมทั้งต้องเสียคุณแม่และคุณยายในช่วงเวลาห่างกันไม่ถึงปี ในช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนัก
“มันคือช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดที่ผมเคยเจอ มีอยู่หนึ่งผมคิดว่าจะฆ่าตัวตาย” วอลล์ กล่าวในคลิปสัมภาษณ์บนทวิตเตอร์หลังจากได้รับสัญญากับ คลิปเปอร์ส ในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าหลังจากที่เขาตั้งหลักได้ทุกสิ่งก็กลายเป็นแค่ช่วงเวลาโหดร้ายที่ทุกชีวิตอาจต้องเจอ เพื่อก้าวไปเจอกันที่ดีกว่า
ก้าวข้ามกำแพงแห่งความทุกข์
“จากทั้งหมดที่ผมเจอมา ผมคิดว่าถ้าผมผ่านมันไปได้ ผมคงจะผ่านทุกปัญหาในชีวิตนี้ได้ ทุกคนต่างเคยต้องก้าวผ่านบางสิ่งมา คุณรู้มั้ย เราทุกคนต่างก็ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก ไม่มีใครผ่านสิ่งเหล่านั้นได้ง่ายๆ แต่ผมก็มั่นใจนะว่าคงจะมีน้อยคนที่จะก้าวข้ามในสิ่งที่ผมเพิ่งจะผ่านมาได้”
“สำหรับผมการกลับมาอยู่บนจุดสูงสุดในสิ่งที่ผมอยากจะเป็น และได้เห็นแฟน ๆ ยังต้องการดูผมเล่น การได้รับการสนับสนุนจากบ้านเกิด แค่ให้โอกาสเท่านี้ มันก็มีความหมายกับผมมากแล้ว”
การลงสนามให้กับ แอลเอ คลิปเปอร์ส ในเกมพบกับ แอลเอ เลเกอร์ส ถือเป็นเกมทางการเกมแรกในรอบ 18 เดือนของเขา และถึงแม้จะถูกลดบทบาทไปเป็นตัวสำรองเขาก็ยังโชว์การเล่นที่ยอดเยี่ยมในหลายจังหวะ จบเกมด้วยการทำไป 15 คะแนน ชู้ตลง 7 จาก 15 ครั้ง เก็บ 4 รีบาวด์ กับ 3 แอสซิสต์ พร้อมกับขโมยบอล 1 ครั้ง จากเวลาลงเล่น 25 นาที
หลังจบเกมผู้เล่นในลีกเอ็นบีเอทั้งอดีตและปัจจุบันต่างแห่กันทวีตชื่นชมเกี่ยวกับผลงานของวอลล์ ในขณะที่มีการแซวกันเล็กน้อยในโลกออนไลน์ด้วยว่า วอลล์ ที่เหมือนจะหายสาบสูญไปจากวงการเอ็นบีเอ กลับมาฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมกว่า รัสเซลล์ เวสต์บรูค ทั้งที่รายหลังลงสนามมาอย่างต่อเนื่อง แต่กลับทำได้แค่ 2 คะแนน โดยพยายามชู้ต 11 ครั้งแต่ไม่ลงห่วงเลยสักครั้ง
เสียงชื่นชมมากมายคือของขวัญในวันที่เขาก้าวข้ามทุกอย่างมาได้ และในวัย 32 ปี เขายังมีโอกาสสำหรับการสร้างความสำเร็จในชีวิตไม่ว่าจะในฐานะนักบาสเกตบอล หรือ สิ่งใดก็ตามที่เขาต้องการจะทำ เพราะเขาได้เคยก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตมาได้แล้ว