ฤดูกาลที่แล้วเขาสร้างสถิติเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในการทำทริปเปิ้ล-ดับเบิ้ล ได้ ตลอดซีซั่นทำไป 4 หนขณะเดียวยังสร้างสถิติมหัศจรรย์ในรอบ 50 ปี ด้วยการทำดับเบิ้ล-ดับเบิ้ล โดยปราศจากคะแนน และจบด้วยฤดูกาลด้วยการเป็นรุกกี้คนเดียวที่ทำอย่างน้อย 500 แต้ม 400 รีบาวด์ และ 300 แอสซิสต์
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้รับรางวัลผู้เล่นหน้าใหม่ยอดเยี่ยม และ ติดเพียงแค่ทีมชุด 2 ของรุกกี้ยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลนั้น แม้สาเหตุจะเป็นเพราะอะไรบาดเจ็บจนทำให้เขาพลาดลงเล่นช่วงท้ายฤดูกาล แต่ก็อดคิดไม่ได้เหมือนกันว่า ลีกเอ็นบีเอดูแคลนเขาเกินไปหรือไม่
“ท้ายที่สุด ผมไม่ใช่คนที่จะมานั่งตัดสินใจว่าใครควรติดทีมอะไร ผมก็แค่เล่นและทำไปตามแนวทาง” จอช กิดดี้ย์ ผู้เล่นดาวรุ่งวัย 19 ปี ของ โอคลาโฮม่า ซิตี้ ธันเดอร์ส ให้สัมภาษณ์ถึงการที่เขาดูเหมือนจะถูกประเมินต่ำเกินไป
“ผมคิดว่าพวกเขาสมควรที่จะติดทีมชุดหนึ่ง ดราฟท์คลาสของเรามีแต่คนที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่ระดับท็อปไปจนถึงอันดับล่างๆ ผมไม่ได้คิดอะไรเลยนอกจากการมองไปข้างหน้า เพราะอีก 20 ปีข้างหน้า คงไม่มีใครมองย้อนกลับมาแล้วพูดว่า จอช ติดทีมชุดนี้ … จอช ติดทีมชุดนั้น เรื่องนี้ไม่ใช่วันสิ้นโลกหรับผม”
กิดดี้ย์ คือหนึ่งในขุนพลของทีม “โอเคซี” ชุดสร้างทีมใหม่ ภายในระยะเวลาแค่ 1 ปี เขาสามารถพิสูจน์หลายสิ่งหลายอย่างผ่านการแสดงบนคอร์ทบาสเกตบอล โดยพรสวรรค์และความหลักแหลมที่ดูเกินวัย ทำให้เขาถูกจับตามองว่าจะก้าวขึ้นสู้ผู้เล่นระดับสตาร์ได้ไม่ยาก
“ใกล้เข้ามาแล้ว พวกเราตื่นเต้นมาก ช่วงปิดฤดูกาลเป็นไปได้ด้วยดีทีเดียว ผมได้ทำในสิ่งที่ต้องทำและจะกลับไปรวมตัวกับเพื่อนร่วมทีม พวกเขาตื่นเต้นมากและพร้อมจะลุยกับฤดูกาลใหม่กันแล้ว” การ์ดชาวออสเตรเลียกล่าวถึงช่วงปิดฤดูกาล “และแน่นอนร่างกายผมสมบูรณ์ดี พร้อมลุยสุดๆ”
กิดดี้ย์ ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเข้ายิมเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายซึ่งต้องพร้อมมากพอสำหรับการลุย 82 เกมแบบยาวๆ “ผมใช้เวลาส่วนใหญ่กับการเวดจ์เทรนนิ่ง เพื่อให้มั่นใจว่าผมแกร่งพอจะผ่าน 82 เกมไปด้วยร่างกายที่สมบูรณ์ได้ เพราะนี่คือฤดูกาลที่ยาวนาน การดูแลรักษาร่างกายคือสิ่งสำคัญสำหรับการเล่ยผู้เล่นระดับเอ็นบีเอ”
ดราฟท์อันดับ 6 เมื่อซีซั่นที่แล้วคงจะเรียนรู้ถึงความหนักหน่วงในลีกระดับสูง ที่สำคัญเขาอาจจะไม่ต้องการให้อาการบาดเจ็บมาพรากเวลาลงเล่นในสนามของเขาเหมือนช่วงท้ายฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งเขาบาดเจ็บสะโพก เพราะถึงแม้ทีมจะไม่ได้ลุ้นเข้าเพลย์ออฟแล้ว แต่โอเคซีกำลังสร้างทีมใหม่ ดังนั้นเวลาในการลงสนามเพื่อโอกาสเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และ ได้เล่นร่วมกับคนอื่นเพื่อปรับตัวเข้าหากันคือสิ่งสำคัญ
อ่านเรื่อง: เช็ท โฮล์มเกรด จะกลับมาเหมือน เบล็ค กริฟฟิ่น โจเอล เอมบีด หรือ เบน ซิมมอนส์ ได้หรือไม่
“เป้าหมายของเราคือทำให้ดีกว่าปีที่แล้ว คุณต้องค่อยๆปรับปรุงเพราะคงเป็นเรื่องยากที่จะเปลี่ยนจากทีมที่สร้างขึ้นมาใหม่ไปสู่ตำแหน่งแชมป์ในหนึ่งปี แต่ผมคิดว่าเรามีฤดูกาลที่น่าภาคภูมิใจ เราลงไปสู้ทุกคืน สู้กับทีมที่มีประสบการณ์มากกว่า อายุเยอะกว่า มีความสามารถสูงกว่า” กิดดี้ย์ ยอมรับว่า โอเคซี อาจยังไม่ใช่ทีมที่จะก้าวขึ้นมาเฉิดฉายได้ทันที แต่ก็มองว่าพวกเขาควรมีเป้าหมายที่ชัดเจนเช่นกัน
“ผมคิดว่ามันน่าจะดีถ้าเราออกมาพร้อมกับความคิดที่ว่าเราชนะใครก็ได้ มันจะช่วยให้เราก้าวไปอีกขั้น ผมตื่นเต้นกับทีมตอนนี้นะ เราคือกลุ่มคนที่หิวกระหาย เราทำงานอย่างหนักร่วมงานตลอดซัมเมอร์ซึ่งทำให้ผมตื่นเต้นมากที่เห็นว่าเราทำอะไรได้บ้างในซีซั่นที่จะมาถึง”
การมองโลกในแง่บวกแบบไม่เกินจริงของกิดดี้ย์ แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของตัวเขาเอง เช่นเดียวกับทีมที่เจ้าตัวก็ต้องการให้พัฒนาในทุกๆเกมที่ลงเล่น
โอเคซี เพิ่งได้สิทธิดราฟท์อันดับ 2 และพวกเขาเลือก เช็ท โฮล์มเกรน เข้ามาเสริมศักยภาพทีมพลังหนุ่ม แต่โชคร้ายเหลือเกินที่ โฮล์มเกรน บาดเจ็บต้องปิดเทอมยาวในซีซั่นหน้า ทำให้การ์ดออสเตรเลีย อาจจะต้องอัพเกรดอะไรบางอย่าง เพื่อให้ทีมไปได้ไกล (ชนะเกมได้มากขึ้น) กว่าปีที่แล้ว
“เรื่องชู้ต คือสิ่งสำคัญสำหรับผมเช่นกันในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา” กิดดี้ย์ ซึ่งยังชู้ตได้ไม่ค่อยดีนัก เขายิงห่วงลงแค่ 41.9% และ ลูกโทษ 70.9% แต่ที่อาการน่าเป็นห่วงคือระยะ 3 คะแนนที่ลงเพียง 26.3% จาก 54 เกมที่ลงเล่นปีก่อน แต่ปัญหาอาจจะถูกคลี่คลายเพราะ ธันเดอร์ส พึ่งนำตัว ชิป เอนเกลแลนด์ ปรมาจารย์ด้านการชู้ตที่อยู่กับสเปอร์สมายาวนาน 17 ปี มาช่วยโค้ชให้หนุ่มๆในทีม
“ผมใช้เวลาส่วนใหญ่ในการชู้ตในยิมด้วย โดยมี ชิป อิงแลนด์ (เอนเกลแลนด์) อยู่กับผม เขาคือโค้ชด้านการชู้ตที่ดีที่สุด ถ้าหากไม่ใช่ที่สุดในโลกก็คงเป็นที่สุดสำหรับผมนี่แหละ เขาสุดยอดจริงๆ”
กิดดี้ย์ยังบอกอีกว่า เอนเกลแลนด์ ไม่ถึงกับสั่งให้เขาเปลี่ยนวิธีชู้ต แต่ก็มีวิธีการหรือเทคนิคการสอนที่แปลก จนเปรียบเทียบว่าทุกสิ่งที่โค้ชรายนี้ทำเหมือนเกิดขึ้นโดยฝีมือของพ่อมด
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ กิดดี้ย์ ตื่นเต้นมากๆ คือการได้เห็นตัวเองอยู่ในเกมบาสเกตบอลยอดฮิตอย่าง NBA2K23 โดยตัวเขาในเกมมีพลังอยู่ที่ 82 คะแนน
“มันเจ๋งมากๆ ที่ได้อยู่ในเกมที่ผมเล่นมานานแล้ว มันสนุกมากเลยที่ผมได้เล่นกับเพื่อนร่วมทีม หรือเล่นคนเดียว ส่วนเรื่องค่าพลังหรอ ผมแฮปปี้กับมันนะ”
“แค่ 2 ปีในการเข้าลีกผมก็ได้อยู่ใน 2k ผมก็ดีใจมาก แต่สิ่งที่ผมรอคอยเลยคือฤดูกาลหน้าค่าพลังของผมจะแตกต่างจากปีนี้หรือไม่”
สำหรับเจ้าพ่อมดน้อยแห่งออสเตรเลียแล้ว ดูเหมือนว่า เขาจะมองทุกอย่างไปข้างหน้าอย่างเดียวจริงๆ