ขอเครดิตผมที :สิ่งที่ เจมส์ ฮาร์เด้น สามารถทำเพื่อเป็นนักบาสผู้เสียสละใน NBA ปี 2022-2023

Nawapon Kiatpisan

ขอเครดิตผมที :สิ่งที่ เจมส์ ฮาร์เด้น สามารถทำเพื่อเป็นนักบาสผู้เสียสละใน NBA ปี 2022-2023 image

แม้ว่าการยอมเสียละเงินค่าจ้างจากที่จะได้รับจาก 47.4 ล้านเหรียญ (ประมาณ 1.8 พันล้านบาท) ลดลงมาเหลือเพียง 33 ล้านเหรียญ (ราวๆ 1.25 พันล้านบาท) ของเจมส์ ฮาร์เด้น จะถือเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม แต่ไม่แน่ใจกับการนิยามตัวเองว่า “หนึ่งในผู้เล่นที่ไม่เห็นแก่ตัวที่สุดที่อาจเคยเห็นในลีกนี้” มองได้ทั้งการพยายามยกเครดิตให้ตัวเอง อีกทางหนึ่งมันก็เป็นการเหน็บแนมผู้เล่นรายอื่นไปในตัว 

 

 

แต่หากเรามองเจตนาแบบล้วนๆ ไม่เอาอคติมาปนก็ต้องยอมรับว่าการสละเงินรายได้ต่อปีที่ 14 ล้านเหรียญ (ประมาณ 532 ล้านบาท) ก็ดูเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความใจกว้าง ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ดีและอาจช่วยให้ ฮาร์เด้น ได้มีโอกาสสัมผัสแชมป์เอ็นบีเอสมัยแรก เพราะนั่นทำให้ ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตี้ ซิกเซอร์ส เหลือเพดานค่าจ้างมากพอสำหรับเสริมตัวดีๆทั้ง พีเจ ทัคเกอร์,  ดานูล เฮ้าส์ จูเนียร์ และ มอนเทรซล์ ฮาร์เรลล์ มาจากตลาดฟรีเอเย่นต์

อย่างไรก็ตามเขาจะได้รับเครดิตแบบมหาศาลต่อจากนี้ถ้าการ์ดเครางามวัย 32 ปี สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ในฤดูกาล 2022-2023

ลดจำนวนการครองบอลและเทิร์นโอเวอร์ลง

ความท้าทายในฤดูกาลลุ้นคว้าแชมป์กับทีมซิกเซอร์ส คงไม่ใช่เรื่องการต้องแบกแต้มไว้ที่เขาอีกต่อไป ทัมนี้อุดมสมบูรณ์ด้วยตัวเกมบุกชั้นเลิศทั้ง โจเอล เอมบีต, ไทรีส แมกซี่ย์ และ โทเบียส แฮริส ยังไม่นับรวมกลุ่มมือรองที่สามารถทำระดับ 10 แต้มต่อเกมได้แบบสบายๆ อีกหลายคน

ดังนั้นขอแค่ ฮาร์เด้น กล้าๆ ที่จะลดปริมาณการถือบอลไว้ในมือกับตัวเองที่มากหรือนานจนเกินไป แล้วปล่อยให้เพื่อนร่วมทีมได้เล่นเกมบุกตามถนัดของตัวเองแบบสมดุลย์ เพียงเท่านี้เขาก็น่าจะได้รับเครดิตจากเพื่อนร่วมทีมมากขึ้นแล้ว

เช่นเดียวกับปริมาณเทิร์นโอเวอร์ ซึ่งฤดูกาลที่แล้วเขาก็ทำได้ดีมากด้วยการลดระดับจาก 4.8 ครั้งต่อเกม ช่วงที่ยังลงเล่นให้เน็ตส์ มาเหลือเพียง 3.4 ครั้งหลังจากเทรดมายังซิกเซอร์ส แต่ถ้าเขาสามารถกดตัวเลขตรงนี้ให้ลดต่ำลงไปได้กว่า 3 แล้วละก็น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้แฟนซิกเซอร์สยิ้มแก้มปริได้เลย

เพิ่มเกมป้องกันที่มีประสิทธิภาพ

ปัญหาของฮาร์เด้นที่ใครเคยดูผลงานของเขาในสนามไม่ว่าจะแบบเต็มเกมหรือไฮไลท์ ก็จะรู้ตรงกันทันทีนั่นคือสมาธิและความมุ่งมั่นในเกมป้องกัน หลายครั้งที่การ์ดออลสตาร์รายนี้เสียสมาธิ หลุดตำแหน่ง หรือ มัวแต่มองข้ามช็อตมากเกินไป จนไม่ได้ใส่ใจกับตัวประกบที่เขาต้องคอยดูแล

ในเมื่อเขาไม่จำเป็นต้องเสียแรงมากมายกับเกมบุกเพราะมีเพื่อนร่วมทีมฝีมือดีรายล้อมตัวแล้ว การเอาพละกำลังที่เหลือมาใส่เกมรับจะเป็นเรื่องที่ช่วยเปลี่ยนตัวตนของเขาในสายตาแฟนบาสเกตบอลทั่วโลกเลยก็ว่าได้

เพราะการที่เขาอุตส่าห์ยอมลดค่าจ้างตัวเองให้ทีมได้เสริมแกร่งแล้ว ถ้าตัวฮาร์เด้นเองกลับไม่พัฒนาขึ้นในด้านใดด้านหนึ่งบ้าง สุดท้ายแล้วจากพ่อพระที่ควรได้รับอาจจะกลายเป็นบทตัวร้ายในสายตากองเชียร์ และเชื่อว่าสิ่งที่คนคาดหวังคงไม่ใช่ระดับที่เขาต้องก้าวขึ้นไปติดทีมป้องกันยอดเยี่ยม แต่ขอแค่ไม่เป็นบ่อน้ำมันเหมือนอดีตที่ผ่านมาก็ซูฮกให้แล้ว

เปลี่ยนจาก 3 แต้มเชิงปริมาณ ให้เป็นอาวุธที่มีคุณภาพ

แม้ว่าจุดเด่นของฮาร์เด้นที่เป็นภาพติดตาแฟนบาสหลายคนคือการยิงระยะ 3 แต้มแบบแสกหน้าตัวประกบ ไม่ว่าจะด้วยการโยกและสับหลอก หรือ สเต็ปแบคชู้ต แต่สิ่งที่คนดูการแข่งขันแบบเต็มเกมบ่อยๆจะรู้ดีว่าเขายิงต่อเกมเยอะมาก จนเป็นที่มาของการมีไฮไลท์ลูกพิฆาตติดรายการทางสื่อออนไลน์ทุกสัปดาห์ 

ตลอดอาชีพเขาพยายามยิง 3 คะแนนต่อเกมเฉลี่ย 7.6 ครั้ง ลงห่วงที่ 36.1% ถ้าหากจะลองเทียบกับคนที่มีอัตราการยิงใกล้เคียงกับเขาก็คือ เคลย์ ทอมป์สัน ในปี 2018-2019 หรือช่วงก่อนเจ็บยาว โดยมือปืนจากโกลเด้น สเตท วอริเออร์ส ซึ่งเน้นสไตล์จับแล้วยิง มีค่าเฉลี่ยลองชู้ตระยะ 3 คะแนนต่อเกมอยู่ที่ 7.7 ครั้ง แต่มีจำนวนลูกลงที่แม่นกว่าอยู่ที่ 40.2% และปีนั่น เคลย์ ทำเฉลี่ย 21.5 แต้ม 

สิ่งที่เราต้องการสื่อคือ ฮาร์เด้น ซึ่งมีทักษะเกมบุกเหนือกว่า ธอมป์สัน สามารถหาโอกาสทำสกอร์ด้วยวิธีการที่หลากหลายกว่า ทั้งการลุยเข้าหาห่วงเพื่อลุ้นเอาฟาล์วด้วย หรือ การพูลอัพระยะ 2 คะแนน นั่นแปลว่าเขาไม่จำเป็นต้องใช้ปริมาณการยิง 3 คะแนนที่เปลืองเหมือนพวกชู้ตเตอร์ธรรมชาติ 

ส่วนถ้ามีจังหวะส่องเหน่งๆ หรือ ลูกที่เป็นมุมถนัด เขาก็สามารถลองยิงจากระยะเหนือเส้นโค้งได้่อยู่ และภาพรวมที่เราคิดว่าจะดีต่อซิกเซอร์สคือ การที่ ฮาร์เด้น จะลดการลองยิงระยะ 3 คะแนนให้ไม่เกิน 6 ครั้งต่อเกมส์ และเพิ่มระดับความแม่นให้อยู่ที่ใกล้ๆ 40% เพราะเชื่อว่าถ้าเขาตัดลูกพยายามฝืนชู้ตออกไป เปอร์เซ็นต์ 3 คะแนนตลอดชีวิตของเขาจะสูงกว่านี้มาก

และการลดโอกาสตัวเองลงในจังหวะฝืนๆ อาจทำให้มือปืนที่แท้จริงของทีมได้ทำงานที่ถนัดเพิ่มขึ้นด้วย

จาก 3 สิ่งที่เรากล่าวมาถ้าหากฮาร์เด้นทำได้ ก็ถือว่าคำพูดที่เขานิยามด้วยเองว่า “หนึ่งในผู้เล่นที่ไม่เห็นแก่ตัวที่สุดที่อาจเคยเห็นในลีกนี้” คงจะดูมีน้ำหนักมากขึ้น

เงื่อนไขสุดท้ายที่จะทำให้เขาได้เครดิตไปเต็มๆคงไม่ต้องอธิบายให้ยาว นั่นคือ พาทีมคว้าแชมป์ให้ได้ รับรองว่าเครดิตหลั่งไหลมาที่เขาแบบไม่ขาดสายแน่นอน

Nawapon Kiatpisan

Nawapon Kiatpisan Photo

NBA Lover