ลองแองเจลลิส เลเกอร์ส ยืนยันว่า พวกเขาพร้อมเทรดสิทธิดราฟท์รอบแรกในมือเพิ่มเติมอีก หากได้มูลค่าการเทรดที่เหมาะสม โดยพร้อมจะให้ เลบรอน เจมส์ เป็นแกนกลางคนสำคัญของทีม
สร้างทีมโดยมี เลบรอน เจมส์ เป็นศูนย์กลาง
“ผมขอพูดอย่างชัดเจน เรามีผู้เล่นที่ดีที่สุดอย่าง เลบรอน เจมส์ อยู่กับทีม” เพลินก้า กล่าว “เขาจะอยู่กับทีมของเราไปอีก 3 ปี ดังน้ันองค์กรจะทำทุกอย่างที่ทำได้ รวมถึงสิทธิดราฟท์ที่จะใช้เทรดสำหรับการช่วยเหลือ เลบรอน ให้ได้มากที่สุด”
“คุณมีกระสุนนัดเดียวสำหรับตัวเลือกในการเทรดมากมาย ดังนั้นถ้าเราจะเทรดก็ต้องเป็นดีลที่ใช่ เราจะรอบคอบในการตัดสินใจว่าจะใช้ทรัพยากรที่มีเมื่อไหร่และอย่างไร ในการช่วยเพิ่มคุณภาพผู้เล่นในทีมของเรา” เพลินก้า มองว่ากระสุนนัดสุดท้ายนี้ควรจะยิงให้เป้าจริงๆ
“เรามุ่งมั่นที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ทีมที่ดีที่สุดอยู่รอบๆตัวของ เลบรอน ตราบใดที่นั่นเป็นการเทรดที่ดีสำหรับเรา เพราะด้วยข้อจำกัดของกฏสเตเปียน (ทุกทีมต้องถือสิทธิดราฟท์รอบแรกอย่างน้อยปีเว้นปี)”
เลเกอร์ส มีสิทธิดราฟท์ในมือแค่ไหน
เลเกอร์ส จะต้องเน้นในเรื่องสิทธิดราฟท์ ผลพวงนึงก็เกิดจากการเทรด แอนโธนี่ เดวิส มาร่วมทีม เพราะคราวนั้นพวกเขาเสียดราฟท์รอบแรกไป 3 ครั้ง (พ่วงด้วยเด็กในทีมทั้ง ลอนโซ่ บอล, แบรนด้อน อิมแกรม และ จอช ฮาร์ท)
สำหรับสิทธิดราฟท์ที่เลเกอร์ส เสียไปในตอนนั้นคือ ดราฟท์อันดับ 4 ปี 2019, ดราฟ์รอบแรกปี 2021 แบบคุ้มครองอันดับ 8-30 (ซึ่งท้ายที่สุดกลายเป็นมาเป็นการดราฟท์อันดับ 8 ปี 2022), สิทธิสลับอันดับดราฟท์ปี 2023 และ สิทธิดราฟท์รอบแรกปี 2024 (สามารถเลือกใช้เป็น 2025 ได้)
ตามรายงานของ บ็อบบี้ มาร์คส์ จากอีเอสพีเอ็น ระบุว่า ทีมเลเกอร์ส สามารถใช้สิทธิดราฟท์เทรดได้ตั้งแต่ปี 2027 รวมถึงสิทธิรอบแรกของปี 2028 และ 2029 อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถมัดรวมทั้ง 3 สิทธิเพื่อนำมาเป็นข้อเสนอในแพ็คเพจเดียวได้
สิทธิดราฟท์ในอนาคตของเลเกอร์ส
2023: เพลิแกนส์ มีสิทธิสลับอันดับกับ เลเกอร์ส
2024: เป็นของเพลิแกนส์ ยกเว้น เพลิแกนส์ ขอเลื่อนไปใช้ปี 2025 แทน
2025: เลเกอร์สเป็นเจ้าของ ยกเว้น เพลิแกนส์ เลื่อนสิทธิจากปี 2024 มาใช้ในปีนี้แทน
2026: เลกอร์สเป็นเจ้าของ
2027: เลกอร์สเป็นเจ้าของ
2028: เลกอร์สเป็นเจ้าของ
2029: เลกอร์สเป็นเจ้าของ
กินแห้วมาหลายครั้ง
ก่อนหน้านี้เราได้ยินข่าวบ่อยมากว่าเลเกอร์สเตรียมลงมือเทรด แต่พอเอาเข้าจริงพวกเขาก็ปัดการเจรจาตกไปเพราะไม่ต้องเสียสิทธิดราฟท์ในมือเกินความจำเป็น ซึ่งทีแรกพวกเขาอยากใช้สิทธิดราฟท์ 2 ครั้งเป็นส่วนหนึ่งในการแลกกับ ไครี่ เออร์วิ่ง แต่ดีลกับ บรู๊คลิน เน็ตส์ ก็ไม่ได้เกิดขึ้น
ส่วนการใช้สำหรับผู้เล่นอย่าง บัดดี้ ฮีลด์ และ ไมล์ส เทอร์เนอร์ ดูเป็นสิ่งที่ไม่คุ้มค่าเท่าไหร่ เช่นเดียวกับ การเจรจากับ ยูท่าห์ แจ๊ซ ที่สุดท้ายทำให้ โบยาน บ็อกดาโนวิช โดนเทรดไปอยู่กับ ดีทรอยท์ พิสตันส์ ทำเอาแฟนๆ เลเกอร์ส เซ็งไปตามๆกัน
อย่างไรก็ตาม อาเดรียน วอจนารอฟสกี้ จาก อีเอสพีเอ็น ให้มุมมองที่น่าสนใจว่า “การที่เลเกอร์สยังถือสิทธิเหล่านั้นไว้ จะทำให้พวกเขาสามารถเหลือกระสุนนัดสุดท้ายสำหรับการสร้างเทรดใหญ่ๆ เพราะระหว่างซีซั่นอาจเกิดอะไรขึ้นก็ได้”
กำหนดเส้นตายของการเทรดจะจบลงในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ดังนั้น เลเกอร์ส จะยังคงเป็นทีมที่มีข่าวลือเรื่องการเทรดบ่อยแน่นอน จนกว่าพวกเขาจะเลือกใช้กระสุนนัดสุดท้ายนี้
Wait and See อาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเลเกอร์ส
แม้ว่าผลงานในฤดูกาลที่แล้วของเลเกอร์สจะน่าผิดหวังมากก็ตาม แต่การที่พวกเขาเลือกถือสิทธิดราฟท์ในมืออันน้อยนิดต่อไปเพื่อรอดูสถานการณ์ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เหตุผลอย่างแรกเพราะพวกเขาเพิ่งได้โค้ชใหม่เข้ามาทำทีม ซึ่งเรายังไม่เห็นภาพเลยว่า ดาร์วิน แฮม จะสร้างเลเกอร์สออกมาเป็นอย่างไร
ขณะเดียวกันพวกเขาเพิ่งลงมือเทรด ทาเลน ฮาร์ทอน ทัคเกอร์ และ สแตนลี่ย์ จอห์นสัน เพื่อไปแลกเอา แพทริก เบฟเวอรี่ เข้ามา ทั้งยังเซ็น เดนนิส ชโรเดอร์ มาจากกระดานฟรีเอเย่นต์ รวมถึงตัวอื่นๆหน้าใหม่ทั้ง โธมัส ไบรอันท์ , ดาเมียน โจนส์, ฮวน ทอสกาโน่ แอนเดอร์สัน, ลอนนี่ วอล์กเกอร์ ที่ 4 และ พวกเด็กดราฟท์หรือสัญญาทูเวย์ คือ ถ้าว่ากันตามตรงพวกเขามีการปรับเปลี่ยนองค์ประกอบทีมเยอะมาก
แม้ว่าการเปลี่ยนจะไม่ใช่ผู้เล่นตัวสำคัญ แต่การรอดูเคมีของทีมรวมถึงการได้เห็นเพชรเม็ดงามที่อาจโผล่มาในช่วงปรีซีซั่น อาจช่วยทำให้พวกเขาบริหารจัดการเทรดได้ลงตัวและตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น
ยกตัวย่างว่า ถ้าทั้ง เคนดริค นันน์ และ เดนนิส ชโรเดอร์ สามารถเล่นได้ดีมากๆ ไหนจะมี เบฟเวอรี่ ที่มาตรฐานเกมป้องกันสูงอยู่แล้ว ผสมกับภาพรวมทีมอาจออกตัวได้สวย ก็น่าจะทำให้พวกเขากล้าพ่วงสิทธิดราทฟ์ 2 สิทธิแปะไปกับเวสต์บรูค แล้วเทรดเพื่อแลกตัววงในดีๆ มาช่วยงาน เดวิส สำหรับโอกาสคว้าแชมป์ไปเลย แบบนี้เป็นต้น
หรือหากไม่เวิร์คทีมเล่นกันไม่ได้เลย พวกเขาอาจยอมทนกับเวสต์บรูคไปอีกปี เพื่อรอให้หมดสัญญาไปเลย แล้วเก็บสิทธิเทรดเอาไว้สำหรับการสร้างทีมในอนาคต หรือ ใช้สำหรับช่วงปิดฤดูกาล ไปเลยก็ได้เช่นกัน
ทั้งนี้ทั้งนั้น นี่เป็นการยกตัวอย่าง เพียงต้องการสะท้อนให้เห็นว่าบางทีการไม่ทำอะไรแบบกระต่ายตื่นตูม อาจช่วยเซฟต้นทุนที่ไม่จำเป็นไว้ได้ และ อาจสร้างผลประโยชน์ที่คุ้มค่ากับการลงทุนมากกว่าถ้าหากได้เห็นปัญหาที่แท้จริง และได้เตรียมการวางแผนมาดี โดยที่ไม่มีตัวแปรด้านอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อ