เปิด 3 อุปสรรคด้านสภาพอากาศของนักแข่ง MotoGP ที่ทุกคนหวาดผวา

Nuttanon Chankwang

เปิด 3 อุปสรรคด้านสภาพอากาศของนักแข่ง MotoGP ที่ทุกคนหวาดผวา image

ขึ้นชื่อว่าเป็นนักแข่ง MotoGP ทุกคนต้องมีจิตใจที่แข็งแกร่งกล้าหาญ ไม่หวั่นเกรงต่ออุปสรรค เพราะความใจกล้าคือสิ่งสำคัญที่ตัดสินว่า ใครจะดีพอที่จะคู่ควรกับความสำเร็จใน MotoGP

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกอุปสรรคที่นักแข่งใน MotoGP จะก้าวผ่านไปอย่างง่ายดาย เพราะปัญหาหนึ่งที่นักแข่งทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้นในทุกสนามแข่งขัน คือปัญหาเรื่องสภาพอากาศ

เนื่องจากปัญหาด้านสภาพอากาศไม่ใช่สิ่งที่นักแข่งควบคุมได้ นั่นจึงทำให้พวกเขาไม่อยากเจอสักเท่าไหร่ นอกจากนี้ปัญหาด้านสภาพอากาศยังมีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งสร้างความหนักใจให้กับนักแข่งได้หลากหลายแบบอีกด้วย

วันนี้ The Sporting News รวบรวม 3 ปัญหาด้านสภาพอากาศอันเลวร้ายซึ่งนักแข่ง MotoGP ไม่อยากเจอมากที่สุด

จะมีอะไรบ้าง ติดตามพร้อมกับเรา

เปิด 3 อุปสรรคด้านสภาพอากาศของนักแข่ง MotoGP ที่ทุกคนหวาดผวา

อากาศร้อนจัด 

Marc Marquez MotoGP 032623
Getty Images

MotoGP ไม่ใช่กีฬาที่ถูกกับอากาศร้อนอยู่แล้ว เพราะความร้อนที่มากเกินไปส่งผลเสียต่ออะไรหลายอย่าง ทั้งเรื่องของสภาพยางในการแข่งขัน และสภาพร่างกายของนักแข่ง

ด้วยการเป็นนักบิดที่ต้องใส่ชุดยางร้อน ๆ ซิ่งมอเตอร์ไซด์กลางแจ้งนานกว่า 40 นาที จึงทำให้โดยปกตินักแข่ง MotoGP ต้องเสียน้ำออกจากร่างกายอย่างมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

ดังนั้นหากนักแข่ง MotoGP เจออากาศที่ร้อนเกินไป พวกเขาก็สามารถตกอยู่ในภาวะสภาพร่างกายขาดน้ำได้โดยง่าย เนื่องจากเสียเหงื่อมากเกินไปเพราะอากาศร้อน จนนำมาซึ่งสภาวะขาดน้ำของร่างกาย ซึ่งไม่ใช่เรื่องดี เพราะก่อให้เกิดอาการช็อคได้ง่าย ๆ

ปกติทาง MotoGP จะหาทางไม่ให้นักแข่งต้องไปแข่งท่ามกลางอากาศร้อนจัดเป็นปกติ อย่างไรก็ตามในฤดูกาล 2023 กับสนามแข่งใหม่ที่ประเทศอินเดีย นักแข่งต้องแข่งท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด จน ฆอร์เก้ มาร์ติน ผู้ชนะในสนามนี้ เกิดสภาวะขาดน้ำ และเกือบเป็นลมทันทีหลังจากจบการแข่งขัน

ฝนฟ้าคะนอง 

Getty Images

ในขณะที่อากาศร้อนคือสิ่งที่นักแข่ง MotoGP พยายามเลี่ยงให้ได้มากที่สุด … ในทางตรงกันข้าม เรื่องของฟ้าฝนก็เป็นสิ่งที่นักแข่งเลี่ยงไม่ได้ และต้องเตรียมพร้อมที่จะรับมือตลอดเวลา

แน่นอนว่า นักแข่งย่อมไม่อยากเจอฝนระหว่างการแข่งขัน เพราะว่าฝนสามารถส่งให้ทิศทางของการแข่งขันพลิกไปอีกทางได้ เนื่องจากนักแข่งบางคนขี่รถท่ามกลางสายฝนไม่เก่ง ก็จะเสียเปรียบคนอื่นที่แข่งในอากาศฝนตกได้ดี

นอกจากนี้ หากมีฝนตก การเซ็ตรถก็จะยากขึ้น เพราะต้องเซ็ตรถต่างออกไปจากสภาพอากาศปกติ เนื่องจากเวลาฝนตกนักแข่งจะทำเวลาได้ช้ากว่าปกติ จึงต้องเซ็ตรถอีกแบบ รวมถึงการใช้ยางที่ต้องใช้ยางกับสนามเปียก ซึ่งต่างออกไปจากสภาพอากาศปกติเช่นกัน

ดังนั้น เมื่อเกิดฝนตกหนักในการแข่งขัน สำหรับนักแข่งหลายคนคือหายนะเพราะทำให้แผนที่วางเอาไว้พังไม่เป็นท่า หรือบางคนที่ขับในฝนไม่เก่ง ก็แทบจะปิดโอกาสชนะของพวกเขาในทันที

แต่ที่แย่ที่สุดคงเป็นเรื่องของการยกเลิกการแข่งขัน เพราะหากฝนตกหนักมากเกินไป การแข่งขันก็จะถูกยกเลิกด้วยเรื่องความปลอดภัยของนักแข่ง ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ข่าวดีของทุกฝ่าย โดยเฉพาะแฟน ๆ ที่ตั้งใจรอการแข่งขันช่วงสุดสัปดาห์ แต่อดดูเพราะฝนตกหนัก ซึ่งก็เกิดให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง

ลมแรง

ปัญหาลมแรงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ของนักแข่ง แต่ออกแนวน่ารำคาญ เหมือนมีแมลงที่มาบินวนอยู่หน้าเรา แต่ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ยอมไปสักที 

ในความเป็นจริงแล้ว สภาพลมนั้นส่งผลกระทบต่ออุณหภูมิของสนามแข่ง ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงความร้อนและเย็นของพื้นสนามได้ และส่งต่อมาที่ยางของนักแข่ง ดังนั้นหากมีลมแรงกระทันหันก็อาจจะทำให้ความร้อนของผิวสนามเปลี่ยนแปลง จนแผนการเลือกยางของนักแข่งกลายเป็นความผิดพลาดได้

นอกจากนี้ ลมที่แรงมาก ๆ ยังสามารถทำให้นักแข่งล้มในการแข่งขันได้เช่นกัน หากนักแข่งก่อความผิดพลาด ลมก็สามารถเป็นปัจจัยที่เข้ามาทำให้นักแข่งต้องจบการแข่งขันก่อนเวลาอันควร 

แหล่งอ้างอิง

https://www.boxrepsol.com/en/motogp-en/motogp-weather-station/

https://www.crash.net/motogp/news/1036729/1/jorge-martin-dehydration-caused-last-lap-scare

ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา The Sporting News 

Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand

Nuttanon Chankwang

Nuttanon Chankwang  Photo

บรรณาธิการบริหาร The Sporting News Thailand