สนามเวมบลีย์ : รู้จัก Wembley Stadium บ้านของโลกฟุตบอล

Francis Phumin

สนามเวมบลีย์ : รู้จัก Wembley Stadium บ้านของโลกฟุตบอล image

สำหรับแฟนบอลทุกคน เชื่อว่าสนามฟุตบอลที่ทุกคนอยากไปเหยียบสักครั้งหนึ่งในชีวิต นั่นก็คือสนามเวมบลีย์ หรือสถานที่ที่ได้รับสมญานามว่า “Home of Football”

โดยสนามเวมบลีย์เปิดใช้บริการมานานกว่า 100 ปี มีการแข่งขันฟุตบอลหลายรายการจัดขึ้นที่นี่ และมีนักเตะชื่อดังมาลงเล่นที่สนามแห่งนี้กันอย่างมากมาย

และแม้ว่าเวมบลีย์ จะไม่ใช่สนามกีฬาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ไม่ใช่สนามกีฬาที่จุผู้ชมได้มากที่สุด แต่มันปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่า สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ และประวัติศาสตร์อันยาวนาน

สนามเวมบลีย์ : รู้จัก Wembley Stadium บ้านของโลกฟุตบอล

จุดเริ่มต้นของ “Home of Football”

Getty Images

ถึงแม้ว่าในตอนนี้สนามกีฬาเวมบลีย์ จะไม่ต่างอะไรจากศูนย์กลางของกีฬาฟุตบอล รวมถึงกีฬาชนิดอื่น ๆ แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้ว วัตถุประสงค์หลักของการก่อสร้างสนามเวมบลีย์ นั้นก็เพื่อจัดนิทรรศการ “British Empire Exhibition” หรือ นิทรรศการจักรวรรดิบริติช ในปี 1924 แต่เพียงเท่านั้น

โดยกระบวนการก่อสร้างสนามเริ่มเร็วขึ้นเล็กน้อยในปี 1922 โดยบริษัทวิศวกรรมของ Sir Robert McAlpine ซึ่งทำงานออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังอย่าง Sir John Simpson และ Maxwell Ayrton โดยแนวคิดของสนามเวมบลีย์นั้นจะเป็นไปตามธีมของจักรวรรดิ

สนามเวมบลีย์ก่อสร้างเสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 เมษายน 1923 ก่อนที่อีก 4 วันให้หลัง สนามกีฬาแห่งนี้จะได้รับหน้าที่จัดอีเวนต์เป็นครั้งแรก ในการแข่งขันเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ปี 1923 ระหว่าง โบลตัน วันเดอเรอร์ส พบกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

Getty Images

ซึ่งการแข่งขันนัดดังกล่าวจบลงด้วยชัยชนะของ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ที่สกอร์ 2-0 ส่งผลให้พวกเขากลายเป็นทีมแรกที่ชูโทรฟี่ที่สนามเวมบลีย์ ต่อหน้าแฟนบอลกว่า 200,000 ชีวิต

และหลังจากนั้นเป็นต้นมาสนามเวมบลีย์ก็กลายเป็นจุดศูนย์กลางของการแข่งขันกีฬาทันที เพราะสนามแห่งนี้มักจะได้รับหน้าที่จัดการแข่งขันรายการสำคัญ ๆ อยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็น การแข่งขันอเมริกันฟุตบอล, รักบี้, มวยสากล หรือแม้กระทั่งการแข่งขันวิ่งของสุนัขพันธ์เกรย์ฮาวด์

โดยโมเมนต์ที่ประชาชนชาวอังกฤษจะไม่มีวันลืมต่อสนามเวมบลีย์ นั้นก็คือวินาทีที่ บ็อบบี้ มัวร์ ชูถ้วยฟุตบอลโลกครั้งแรกและครั้งเดียวของชาติในปี 1966 ขึ้นเหนือศรีษะ หลังจากเอาชนะ เยอรมันตะวันตก 4-2

ก้าวเข้าสู่ยุค “นิว เวมบลีย์”

Wembley

หลังจากที่กลายเป็นสนามกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ในช่วงทศวรรษที่ 20 ในช่วงปลายยุค 90’s สนามกีฬาเวมบลีย์ที่ถูกใช้งานมาอย่างหนักในทุก ๆ อีเวนต์ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมกีฬา หรือคอนเสิร์ตต่าง ๆ นั้นเริ่มที่จะต้องการความเปลี่ยนแปลงเพื่อเข้าสู่ยุคใหม่ในทศวรรษที่ 21

และด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้วง “Oasis” กลายเป็นศิลปินวงสุดท้ายที่ได้จัดคอนเสิร์ตในสนามเวมบลีย์เก่า และทีมชาติเยอรมันก็คือคู่แข่งทีมสุดท้ายของทีมชาติอังกฤษที่ ได้ลงเล่นในสนามแห่งนี้ ก่อนที่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นในเวลาต่อมา

ในปี 2000 สนามกีฬาเวมบลีย์ถูกปิดใช้งานเป็นเวลาชั่วคราว และในปี 2002 การปรับปรุงสนามแห่งนี้ก็ได้เกิดขึ้น ซึ่งในปีถัดมา หอคอยคู่ หรือ “Twin Towers” ที่เป็นดั่งสัญลักษณ์ของสนามแห่งนี้ก็ได้ถูกรื้อถอน ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยสถาปัตยกรรมรูปครึ่งวงกลม อันเป็นเอกลักษณ์จนถึงทุกวันนี้

Wembley Stadium.

การปรับปรุงสนามเวมบลีย์ นั้นกินเวลากว่า 5 ปีเต็ม นับตั้งแต่ปี 2003-2007 ด้วยงบประมาณการก่อสร้างกว่า 798 ล้านปอนด์ และหลังจากที่มีการทดสอบต่าง ๆ สนามเวมบลีย์ ก็กลับมาเปิดใช้งานอีกครั้งอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 9 มีนาคม 2007

โดยเกมนัดแรกในสนาม “นิว เวมบลีย์”  ก็คือเกมที่ทีมชาติอังกฤษ เสมอกับ ทีมชาติบราซิล 1-1 ซึ่งหลังจากนั้นเป็นต้นมา “นิว เวมบลีย์” ก็กลับมาเป็นจุดศูนย์กลางของการจัดอีเวนต์ระดับโลกอีกครั้งหนึ่ง

สนามเวมบลีย์กับวงการฟุตบอล

England fans Wembley Euro 2020 final

ในวาระครบรอบ 100 ปี ของสนามแห่งนี้ จานนี อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ได้ยกย่องสนามแห่งนี้ว่ามีความเป็นเอกลักษณ์ และไม่มีสนามแห่งไหนในโลกที่เหมือนกับที่นี่อีกแล้ว

“เวมบลีย์เป็นสถานที่ที่ไม่เหมือนใครในประวัติศาสตร์ฟุตบอล นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1923 สถานที่แห่งนี้ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลกมากมายนับไม่ถ้วน และมีช่วงเวลาสำคัญที่น่าจดจำมากมายจนไม่สามารถระบุทั้งหมดได้” อินฟานติโน กล่าว

ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 100 ปี และผ่านการแข่งขันฟุตบอลมามากกว่า 1,000 แมตช์ มันจึงทำให้สนามเวมบลีย์กลายเป็นหนึ่งในสนามกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกฟุตบอลแบบไม่ต้องสงสัย

ซึ่งยืนยันได้จากคำพูดของตำนานลูกหนังผู้ล่วงลับอย่าง เปเล่ ที่เคยนิยามถึงสนามแห่งนี้เอาไว้ว่า “เวมบลีย์คือมหาวิหารแห่งฟุตบอล เป็นเมืองหลวงของฟุตบอลและเป็นหัวใจของฟุตบอล”

wembley - cropped

นอกจากนี้เองสนามเวมบลีย์ ยังเป็นสถานที่ที่แฟนฟุตบอลชาวอังกฤษจะไม่มีทางลืมเลือน เพราะวันที่ชาติของพวกเขาประสบความเร็จครั้งยิ่งใหญ่ อย่างการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก เหตุการณ์ในครั้งนั้นก็เกิดขึ้นที่สนามแห่งนี้ และนั่นจึงทำให้สนามเวมบลีย์มีความผูกพันธ์ที่ดีกับแฟนบอลอังกฤษมาอย่างยาวนาน

และด้วยคำนิยามว่า “Home of Football” มันจึงทำให้สนามเวมบลีย์เป็นเหมือนความฝันของนักฟุตบอลอาชีพหลายคน ที่ต้องการลงเล่นที่สนามแห่งนี้สักครั้งก่อนจะหมดลมหายใจ

ดังนั้นเราจึงได้เห็นการแข่งขันเพลย์ออฟเลื่อนชั้นนัดชิงชนะเลิศ มาแข่งขันที่นี่กันเป็นประจำ เพื่อให้นักฟุตบอลจากลีกระดับล่างได้ลิ้มรสชาติความขลังของสนามเวมบลีย์ และเพื่อเป็นการเติมเต็มความฝันการในเป็นนักฟุตบอลอาชีพของพวกเขา

และด้วยเหตุผลหลาย ๆ ประการ มันจึงส่งให้สนามเวมบลีย์เป็นดั่งหมุดหมายสำคัญของนักฟุตบอล และรวมไปถึงแฟนบอลทุกคน ที่ต้องการมาเหยียบสถานที่แห่งนี้สักครั้งในชีวิต 

ร่วมสนุกลุ้นรางวัลพร้อมโบนัสก้อนใหญ่

ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด

ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา

Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand

Francis Phumin

Francis Phumin Photo

นักเขียน The Sporting News Thailand ผู้ที่หลงไหลในเสน่ห์ของฟุตบอล