เกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ย่อมเป็นแมตช์สำคัญที่แฟนฟุตบอลทั่วโลกรอคอย เพราะตามปกติแล้ว นี่คือเกมชิงชัยของสองทีมฟุตบอลที่ดีที่สุดในแต่ละฤดูกาล สมกับฐานะเกมตัดสินหาแชมป์ของการแข่งขันฟุตบอลที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก
แต่ตลอดระยะเวลา 31 ปีที่ผ่านมา ใช่ว่าเกมนัดชิงชนะเลิศของฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก จะสนุกตื่นเต้นเร้าใจเสมอไป มีหลายครั้งที่เกมการแข่งขันเป็นไปทางน่าเบื่อ เนื่องจากเหตุผลทางแทคติกที่ต้องการความรัดกุมในการเล่นฟุตบอลเป็นหลัก นำมาสู่การแข่งขันนัดชิงชนะเลิศที่กล่าวกันว่า “น่าเบื่อ” ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลรายการนี้
เกมดังกล่าว คือนัดชิงชนะเลิศเมื่อฤดูกาล 2002-03 ระหว่างยูเวนตุส กับเอซี มิลาน ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ประเทศอังกฤษ โดยก่อนการแข่งขันจะเริ่มต้น เกมนี้ถูกจับตาเป็นอย่างมากในฐานะออล อิตาเลียน ไฟนัล ยิ่งกว่านั้น ทั้งสองทีมยังเป็นยักษ์ใหญ่ของวงการฟุตบอลในเวลานั้น โดยยูเวนตุสถือเป็นแชมป์เซเรีย อา ส่วน เอซี มิลาน เป็นแชมป์โคปา อิตาเลีย เกมนัดชิงชนะเลิศแชมเปียนส์ลีก จึงเป็นเหมือนเกมซูเปอร์คัพโดยปริยาย
เมื่อเสียงนกหวีดของการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ทั้งสองฝ่ายต่างทำเกมบุกใส่กันแบบได้ลุ้น อันเดร เชฟเชนโก ยิงประตูให้มิลานก่อนถูกจับเป็นลูกล้ำหน้า หลังจากนั้น กองกลางตัวหลักของทั้งสองทีมอย่าง อันโตนิโอ คอนเต และอันเดรีย ปีร์โล ต่างผลัดกันยิงชนคานไปคนละครั้ง
อย่างไรก็ตาม นั่นคือไฮไลต์สำคัญทั้งหมดในเกมนี้ เพราะตลอดช่วงครึ่งหลังทั้งสองฝ่ายต่างตั้งใจเล่นเกมรับ และไม่สนใจทำประตูเพิ่ม จนได้รับการขนานามว่า นี่เป็นนัดชิงชนะเลิศที่ดูอิตาลีมากที่สุดตลอดการ เพราะถ้ามองในมุมของเกมรับ ทั้งสองทีมเล่นต่างเล่นในระดับมาสเตอร์คลาส โดยเฉพาะ อเลสซานโดร เนสตา ที่ขึ้นแท่นเป็นปราการหลังเบอร์หนึ่งของโลกจากเกมนี้
แต่ถ้ามองในแง่ของความสนุกเร้าใจ นี่คือเกมยาวยืด 120 นาทีที่เราแทบไม่ได้เห็นเกมบุกที่เร้าใจ และโอกาสยิงส่วนใหญ่เป็นแบบขอไปที ค่อนข้างชัดเจนว่าทั้งสองทีมพอใจกับการไม่เสียประตู และเลือกไปตัดสินโชคชะตาในการดวลจุดโทษ ซึ่งท้ายที่สุดเป็นมิลานทำได้ดีกว่า เอาชนะไปด้วยสกอร์ 2-3 ในเกมนัดชิงชนะเลิศที่กล่าวขานกันว่า น่าเบื่อที่สุดตลอดกาล
ร่วมสนุกลุ้นรางวัลพร้อมโบนัสก้อนใหญ่
ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand