ธีรศักดิ์ เผยพิมาย : เปิดต้นแบบ 3 ไอดอลลูกหนังกองหน้าฟอร์มแรงท่าเรือ

Guy Tanapon

•

ธีรศักดิ์ เผยพิมาย : เปิดต้นแบบ 3 ไอดอลลูกหนังกองหน้าฟอร์มแรงท่าเรือ image

ได้รับโอกาสลงสนามเมื่อไหร่ได้เรื่องเมื่อนั้นสำหรับ "เจ้าต้น" ธีรศักดิ์ เผยพิมาย หอกซูเปอร์ซัพของ การท่าเรือ เอฟซี

หลังล่าสุดเจ้าตัวลงสนามมาเป็นตัวสำรองในช่วงครึ่งหลัง ก่อนที่จะซัด 2 ตุงพาสิงห์เจ้าท่าพลิกแซงกลับมาชนะทีมน้องใหม่อย่าง ระยอง เอฟซี ไป 3-1 ในนัดเปิดสนามไทยลีกฤดูกาลใหม่

แต่รู้กันหรือไม่ว่าเบื้องหลังการจบสกอร์ที่เฉียบคมของดาวยิงรายนี้นั้นมีที่มาจากไหน ใครคือไอดอลในการเป็นกองหน้าของเขากันนะ? ตามอ่านเรื่องราวทั้งหมดของ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ต่อได้ที่นี่เลย

3 กองหน้า

อย่างที่ได้กล่าวไป ธีรศักดิ์ ที่มักได้รับโอกาสลงมาเป็นตัวสำรอง และมักจะทำทีเด็ดช่วยให้ทีมได้ประตูอยู่เสมอ มีทักษะการทำประตูที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ

โดยเจ้าตัวได้เคยให้สัมภาษณ์กับทาง คิดไซด์โค้ง เอาไว้ว่า ต้นแบบการเล่นฟุตบอลของเขานั้นมาจาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้าของ บาร์เซโลนา, คริสเตียโน โรนัลโด้ หัวหอกจอมเก๋าชาวโปรตุเกส และ ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าระดับตำนานของประเทศไทยนั่นเอง

และจากการยิงไป 3 ประตูในเกมพบ เมืองทอง ยูไนเต็ด ส่งผลให้ เจ้าตัวกดไปแล้ว 11 ประตูในฤดูกาลนี้ ซึ่งกลายเป็นดาวซัลโวของลีกร่วมกับ วู กึน ยอง หัวหอกของ พีที ประจวบ เอฟซี แต่ว่ากองหน้าของการท่าเรือ พิเศษไปกว่านั้น เพราะ 11 ประตูที่ทำได้นั้น ไม่มีมาจากการยิงจุดโทษเลยสักลูกเดียว

เกือบจะย้ายออก

ในบทสัมภาษณ์เดียวกันนี้ เจ้าต้น ได้ออกมาเปิดเผยด้วยว่า เขาเคยเกือบที่จะย้ายออกจากทีมไปเหมือนกัน เนื่องจากไม่ได้รับโอกาสลงเล่นบ่อยเท่าที่ควร เนื่องจากเป็นดาวรุ่ง

แต่สุดท้าย สก็อตต์ คูเปอร์ อดีตกุนซือของการท่าเรือ ก็ได้บอกกับผู้บริหารว่าต้องการที่จะเก็บเขาไว้ใช้งานต่อ

“ทีแรกผมก็เกือบจะได้ย้ายออกไปเหมือนกับคนอื่นๆ เช่นกัน ผู้บริหารมองว่าเรายังเป็นเด็ก อยากให้ไปหาประสบการณ์เพิ่มเติมในระดับ ไทย ลีก สอง เหมือนพวกรุ่นพี่รุ่นน้องที่ถูกปล่อยยืมไป”

“แต่ว่า สก็อตต์ คูเปอร์ ไปบอกกับผู้บริหารว่า เขาเห็นฟอร์มของผมในทีมชาติ และ การเล่น ไทย ลีก เลยไปขอกับบอร์ดว่า อยากให้ผมอยู่กับทีมต่อ เพราะมองว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่อยู่ในแผนการทำทีมของเขา”

ไม่มีท้อ

แน่นอนว่า แม้จะมีนักเตะไอดอลที่ดีขนาดไหน หรือว่าได้รับโอกาสจากใครก็ตาม แต่ถ้าหาก ธีรศักดิ์ ยอมแพ้กับการที่เขาไม่ค่อยได้ลงเล่นเป็นตัวจริง คงไม่ทำให้เขาก้าวขึ้นมาอยู่ในจุด ๆ นี้ ที่สามารถมีชื่อติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ไปเล่นในศึกเอเชียนคัพหนล่าสุด

“ถ้าผมไม่มีชื่อลงสนาม ผมมองว่าผมยังเป็นเด็ก ยังรอโอกาสได้ เราก็ขยันฝึกซ้อมไปเรื่อยๆ ถ้ามีชื่อลงเล่นก็ตั้งใจทำผลงานให้เต็มที่ในสนามให้สมกับสิ่งที่โค้ชไว้ใจ”

“ผมไม่เคยท้อ ตั้งใจทำงาน ซ้อมอย่างเต็มที่ ให้โค้ชเขาเห็นเอง ถ้าโค้ชเห็นถึงความตั้งใจนั้น ก็จะมีโอกาสได้ลงเล่น บางทีก็ได้เปลี่ยนลงไปเป็นตัวสำรอง”