ใจรักทั้งคู่ : ราฟาเอล นาดาล กับชีวิตที่ต้องเลือกระหว่างเทนนิสกับฟุตบอล

Guy Tanapon

ใจรักทั้งคู่ : ราฟาเอล นาดาล กับชีวิตที่ต้องเลือกระหว่างเทนนิสกับฟุตบอล image

ราฟาเอล นาดาล กำลังจะกลายเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นในกลุ่ม Big 4 ของวงการเทนนิสที่จะเลิกเล่นไปหลังจบฤดูกาลนี้หลังล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาประกาศรีไทร์เป็นที่เรียบร้อย

อย่างไรก็ดี จริง ๆ แล้วเราอาจจะไม่ได้รู้จักชื่อของ นาดาล ในบทบาทนักกีฬาเทนนิสระดับโลกก็ได้หากว่าเขาตัดสินใจที่จะเล่นฟุตบอล อีกหนึ่งกีฬาที่เขาหลงรักมาตั้งแต่เด็ก ๆ อย่างจริงจัง

แล้วอะไรกันนะที่ทำให้แชมป์แกรนด์สแลม 22 สมัยถึงตัดสินใจที่จะถือแร็กเก็ตมากกว่าไปสวมรองเท้าสตั๊ด? ตามอ่านเรื่องราวทั้งหมดต่อได้ที่

เทนนิส หรือ ฟุตบอล?

ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด

ด้วยความที่ ราฟาเอล นาดาล เป็นคนประเทศสเปน จึงไม่แปลกที่เขาจะมีใจรักในศาสตร์ลูกหนังมาตั้งแต่เด็ก ๆ เหมือนกันเด็กผู้ชายคนอื่น ๆ ในประเทศ

ทว่ากีฬาที่ดูจะไปได้ดีสำหรับเขามากที่สุดนั้นไม่ใช่ฟุตบอล แต่มันเป็นเทนนิสที่เจ้าตัวฝึกซ้อมกับ โทนี นาดาล ลุงของเขามาตั้งแต่เด็ก ๆ ซะมากกว่า

และแน่นอนว่าการจับปลาสองมือไม่ใช่เรื่องดีสำหรับ นาดาล เขาจำเป็นที่จะต้องเลือกไปทางใดทางหนึ่งให้ชัดเจนเพื่อที่จะเดินต่อไปในทางนั้น ๆ ได้อย่างแข็งแกร่งและมั่นคง

"อีกหนึ่งอย่างที่มันขึ้นอยู่กับผมตอนนั้นก็คือผมจะจริงจังกับเทนนิสจนเลิกเล่นฟุตบอลเลยรึเปล่า มันเป็นการตัดสินใจที่ยากมากนะ แต่สุดท้ายแล้วเหตุการณ์ในชีวิตมันก็เลือกให้ผมโดยอัตโนมัติ" นาดาล กล่าว

"ผมฝึกซ้อมเทนนิสสัปดาห์ละ 5 ครั้ง ผมซ้อมและผมไปแข่งกับเด็กรุ่นเดียวกันกับผม ในขณะเดียวกันช่วงว่าง ๆ ในสัปดาห์ผมก็เล่นฟุตบอลไปด้วย และช่วงสุดสัปดาห์ผมก็มีแข่งด้วยนะ"

"แต่แม่บอกกับผมว่าผมจำเป็นที่จะต้องยอมเลิกบางอย่าง ผมไม่อยากให้มันเป็นฟุตบอลเลย การตัดสินใจแบบนั้นมันทำให้ผมใจสลาย แต่สุดท้ายแล้วผมก็ไม่มีทางเลือกมากนัก"

สถานการณ์พาไป

รับเครดิตฟรี ที่ M88 คลิก

นาดาล แม้ว่าจะไปได้ดีกับเทนนิสมากกว่า แต่เขาก็ไม่ได้อยากที่จะทิ้งอีกหนึ่งกีฬาที่เขาหลงรักอย่างฟุตบอลไปเหมือนกัน ซึ่งสุดท้ายแล้วสถานการณ์ในชีวิตมันก็ได้ตัดสินใจแทนเขาไปโดยปริยาย

"พ่อและแม่ของผมบอกผมประจำว่าผมจะทำทุก ๆ อย่างพร้อมกันไม่ได้ แต่ผมคงจะเจ็บปวดกว่านี้หากว่าทีมฟุตบอลของผมไม่ได้มีการเปลี่ยนโค้ช" นาดาล กล่าวเสริม

"ผมรักโค้ชคนก่อนของผมมาก เขาเข้าใจผมว่าผมไม่สามารถมาลงซ้อมทุกวันได้เพราะต้องไปเล่นเทนนิส แต่เขาก็ยังให้ผมมาซ้อมด้วยอยู่ เพราะผมเป็นคนทำประตูให้ทีมได้เยอะที่สุด"

"แต่โค้ชคนใหม่เขายึดหลักการของเขามากกว่า เขาบอกว่าคนที่ไม่ได้มาซ้อมเหมือนกับเด็กคนอื่น ๆ จะไม่สามารถลงเล่นได้ ถ้าหากว่าผมพลาดซ้อมสัปดาห์ละครั้ง ผมก็ต้องออกจากทีมไปเลย"

"แต่พ่อของผมบอกว่าหากผมซ้อมกับโค้ชคนนี้ต่อไป ผมอาจจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพก็ได้นะ ผมซ้อมหนักกว่าคนอื่น ๆ หลายเท่า และผมมีแพสชั่นและมีความตั้งใจมากกว่าคนอื่น"

อย่างไรก็ตาม แม้ นาดาล จะไม่ได้เป็นนักฟุตบอลอย่างที่เขาเคยมีความคิดเอาไว้ แต่การเลือกมาเดินสายเทนนิสอย่างจริง ๆ จัง ๆ ทางเดียวมันก็ได้สร้างชื่อให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักเทนนิสที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ทุก ๆ คนต้องจดจำ

บทความที่เกี่ยวข้อง

Guy Tanapon

Guy Tanapon Photo

 นักเขียน The Sporting News Thailand ผู้รักการดูฟุตบอล, ดูหนัง, ฟังเพลง และตีดอท