ดานี โอลโม : กองหน้าที่ไปไม่ได้ไกลกับบาร์ซาเพราะนักเตะเกาหลีและพลังอวยของสื่อ

Guy Tanapon

ดานี โอลโม : กองหน้าที่ไปไม่ได้ไกลกับบาร์ซาเพราะนักเตะเกาหลีและพลังอวยของสื่อ image

อีกหนึ่งนักเตะในทีมชาติสเปนของ หลุยส์ เด ลา ฟูเอนเต้ ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ดานี โอลโม กองหน้าและเพลย์เมกเกอร์ของทีม หลังเขาทำผลงานได้ดีเกินคาดตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มจนถึงรอบรองชนะเลิศยูโร 2024 เมื่อคืนนี้

ซึ่งเบื้องหลังความเก่งกาจของเขานั้นก็มาจากที่เดียวกันกับนักเตะระดับตำนานหลายคนอย่างนั่นก็คือศูนย์ฝึกเยาวชนลามาเซียของ บาร์เซโลนา ยักษ์ใหญ่ของ ลาลีกา สเปน

จากสถิติ ในช่วงที่เขาเล่นให้กับทีมเยาวชนของเจ้าบุญทุ่ม โอลโม มีผลงานที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้ใคร แต่เพราะอะไรกันนะถึงทำให้นักเตะอย่างเขาไม่ได้รับโอกาสกับทีมชุดใหญ่จนต้องย้ายออกจากทีมไป? ตามอ่านเรื่องราวทั้งหมดต่อได้ที่นี่เลย

เก่งตั้งแต่เด็ก

ดานี โอลโม เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่เด็ก ๆ โดยที่มีคุณพ่อของเขาอย่าง มิเกล ซึ่งเป็นโค้ชของทีม เตร์เรสซา อยู่ในตอนนั้นเป็นคนคอยผลักดัน

โอลโม โชว์ความเป็นอัจฉริยะตั้งแต่ตอนนั้น ก่อนที่เขาจะได้เข้าทีมเยาวชนของเอสปันญอลและย้ายมาอยู่กับศูนย์ฝึกชื่อดังระดับโลกอย่าง ลามาเซีย ในปี 2007 ตอนอายุได้ 9 ขวบ

ระหว่างที่เขาอยู่กับลามาเซีย โอลโม ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกว่าใครในรุ่นราวคราวเดียวกับเขาโดยเฉพาะการทำประตู โดยที่สถิติก็คือเขาเป็นดาวซัลโวของทีม 4 ครั้งจาก 6 ฤดูกาลที่เขาอยู่ในศูนย์ฝึกแห่งนี้

"เขาทำได้ดีมาก ๆ เขาเป็นกองหน้าที่ดูแล้วไม่มีพิษสงอะไร แต่เขาเป็นคนที่จบสกอร์ได้ดีมาก เขายิงได้ทุกทีมทุกช่วงอายุที่เขาได้ลงเล่นเลย สิ่งแรกที่คุณจะนึกถึงเขาก็คือการทำประตู เขาเข้าใจพื้นฐานการทำประตู เขาจึงหาจังหวะทำประตูได้ดี เขาเป็นกองหน้าโดยกำเนิดเลยล่ะ" เดนิส ซิลวา ปูอิก ผู้ฝึกสอนที่ลามาเซียกล่าวเอาไว้ในฤดูกาล 2010-2011

เกาหลีใต้และสื่อทำพิษ

การเป็นดาวซัลโว 4 จาก 6 ฤดูกาลคงจะเป็นสถิติที่บอกได้ชัดเจนว่า โอลมี มีดีพอในการขึ้นไปเป็นกำลังเสริมให้กับทีมชุดใหญ่ของ บาร์เซโลนา ในอนาคตตอนนั้นมากแค่ไหน

อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้ว โอลโม ก็ต้องออกจากแคว้นกาตาลุญญาไปในปี 2014 หลังเขาไม่ได้รับข้อเสนอใหม่จาก ลามาเซีย และ บาร์เซโลนา

ทว่าเบื้องหลังของการออกจากทีมของ โอลโม นั้นมีมากกว่านั้น เพราะจริง ๆ แล้วเขาไม่ได้ออกเพราะทำผลงานได้ไม่ดีจนไม่ได้รับสัญญาใหม่ แต่มันเป็นเพราะนักเตะใหม่ 2 คนที่มาจากเกาหลีใต้ต่างหาก

ในปี 2011 ลามาเซีย ได้ตัวแนวรุกดาวรุ่งชาวเกาหลีใต้มา 2 คนนั่นก็คือ อี ซึง-วู และ จาง กยอล-ฮี ซึ่งมันก็สร้างความฮือฮาให้กับวงการบอลเด็กของประเทศสเปนไม่น้อยเลย

ต่อมา อี ซึง-วู และ จาง กยอล-ฮี ทำผลงานได้ค่อนข้างดีกับทีม U-16 ทำให้สื่อของแดนกระทิงดุเริ่มที่จะอวย 2 นักเตะจากแดนโสมหนักมากยิ่งขึ้น และเมื่อการที่นักเตะทั้ง 2 มีชื่อเสียงขึ้นมามากขนาดนั้น ก็ทำให้พวกเขากลายเป็นตัวหลักของทีมไปโดยปริยาย

ในขณะที่ชื่อของ ดานี โอลโม ก็ได้เริ่มห่างหายไป แม้ว่าเขาจะทำผลงานในสนามได้ดีก็จริง แต่ถ้ามองเผินๆ โอลโม ไม่ได้มีราษีความเป็นซูเปอร์สตาร์ขนาดนั้น กล่าวคือผลงานสู้ได้ แต่ชื่อชั้นและความโด่งดังสู้ไม่ได้นั่นเอง ซึ่งสุดท้าย โอลโม ก็ไม่ค่อยได้รับโอกาสลงเล่นเหมือนเคยและก็ต้องย้ายออกจากทีมไปในปี 2014

"เขา (โอลโม) ย้ายออกจากทีมไปเพราะว่ามีนักเตะเกาหลีใต้ 2 คนย้ายเข้ามา นั่นก็คือ อี ซึง-วู และ จาง กยอล-ฮี" เดนิส ซิลวา ปูอิก อดีตผู้ฝึกสอนที่ลามาเซียกล่าว

"พวกเขาทั้งสองคนเป็นเหมือนดาวเด่นในเวลานั้นเลยจนผมสามารถพูดได้เลยว่ามันทำให้ โอลโม โดนมองข้ามไป อี และ จาง ได้โอกาสลงเล่นมากกว่าเขา พวกเขามีชื่อเสียงและมีสื่อคอยสนับสนุน เรื่องแบบนี้มันทำให้ โอลโม รู้สึกแย่มาก ๆ และผมเชื่อว่าเขาตัดสินใจย้ายออกจากทีมไปด้วยเหตุผลนี้"

"การที่เขาย้ายออกไปเป็นข่าวร้ายของ บาร์เซโลนา นะ เพราะผมมองว่าเขามีดีมากพอที่จะขึ้นไปติดทีมชุดใหญ่ในอนาคตได้"

ดินาโม ซาเกร็บ

หลังจากที่ผิดหวังกับ ลามาเซีย และ บาร์เซโลนา มา ทีมที่ได้ยื่นสัญญาให้กับเขาก็คือ ดินาโม ซาเกร็บ ยอดทีมจากโครเอเชีย ซึ่ง โอลโม ก็ไม่คิดอะไรนาน เขาได้ตัดสินใจย้ายไปร่วมทีมทันที

ก่อนที่เวลาต่อมา เขาจะก้าวขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่อย่างเต็มตัวและได้สัญญาอาชีพโดยใช้เวลาเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้นหลังจากอยู่กับทีมเยาวชนมา

Dani Olmo Dinamo Zagreb 2019

ซึ่ง โอลโม ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการยิงไป 34 ประตูกับอีก 28 แอสซิสต์จากการลงเล่นทั้งหมด 124 เกมทุกรายการ พร้อมกับพาทีมคว้าแชมป์ลีกโครเอเชีย 5 สมัย, โคเอเชียน คัพ 3 สมัย และได้รับเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของทีมถึง 2 ครั้งด้วยกัน

จากนั้นในปี 2020 เขาก็ถูกทีมฟอร์มแรงอย่าง แอร์เบ ไลป์ซิก ดึงตัวไปร่วมทีม ซึ่ง โอลโม ก็เป็นกำลังหลักของทีมและช่วยให้ทัพกระทิงหนุ่มคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล 2 สมัย และ เยอรมัน ซูเปอร์คัพอีก 1 สมัย

อี ซึง-วู และ จาง กยอล-ฮี ในปัจจุบัน

อี ซึง-วู และ จาง กยอล-ฮี แม้ว่าพวกเขาจะเข้ามาเป็นซูเปอร์สตาร์แทนที่ของ โอลโม แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ไปไม่ได้ไกลไปมากกว่าการเล่นให้กับทีมเยาวชนของบาร์ซา

พวกเขาไม่เคยได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของเจ้าบุญทุ่มเลยสักนัดเดียว ก่อนที่ในปี 2017 นักเตะทั้งสองคนจะโดนปล่อยออกจากทีมไปคน และพวกเขาก็กลายเป็นแข้งพเนจรเหมือนกับนักเตะดาวรุ่งคนอื่น ๆ ที่สื่ออวยหนักจนเกินจริง

ปัจจุบัน อี ซึง-วู ค้าแข้งอยู่กับ ซูวอน เอฟซี ในประเทศบ้านเกิด ส่วน จาง กยอล-ฮี หลังออกจาก โซล จุงนัง เอฟซี ในปี 2022 เขาก็ยังไม่ได้มีทีมเล่นอีกเลยจนถึงปัจจุบัน

รับเครดิตฟรี ยูโร ที่ M88 คลิก!

ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด

ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา

Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand

Guy Tanapon

Guy Tanapon Photo

 นักเขียน The Sporting News Thailand ผู้รักการดูฟุตบอล, ดูหนัง, ฟังเพลง และตีดอท